30 พ.ค. 2020 เวลา 11:48 • การศึกษา
แค่ไหนถึงจะ “อนาจาร...”
ร้อยเวรติดตามข่าวหนังสือพิมพ์ออนไลน์ช่วงนี้ … มีชายที่ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายใต้กระโปรงของผู้หญิงท่านหนึ่งในลิฟท์และก็ถูกจับได้ …
ปัญหาว่า ผู้ชายคนดังกล่าวจะต้องมีความรับผิดอย่างไรบ้างในทางกฎหมาย แล้วมันสำคัญยังไงล่ะ … เพราะถ้าเป็นการกระทำอันควรขายหน้าเท่านั้นก็แค่ปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท (พวกอยากโชว์ของ) หรือ ถ้าแค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญในทางเพศโทษก็แค่จำคุกไม่เกิน ๑ เดือน (โทรมาให้ครางชื่อตัวเองหน่อย..) …. แต่ถ้าถึงขนาดเป็นอนาจารแล้วมันจะมีโทษจำคุกถึง ๑๐ ปีกันเลยทีเดียว …. ร้อยเวรจะเล่าให้ฟัง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว … เดิมการถ้ำมองนั้น คงผิดแต่เพียงสร้างความเดือนร้อนรำคาญเท่านั้น เนื่องจากมีการตีความกัน ตกลงกันว่าความผิดอานาจารนั้นจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ ต้องมีการแตะเนื้อต้องตัวกัน (ถ้าดูแต่ตา มือไม่ต้อง ยังไม่เข้า) ดังนั้น แค่ถ้ำมองแอบดูจึงไม่มีทางที่จะเป็นความผิดอนาจารไปได้ และที่ว่าแอบดูนั้น หมายถึงแอบถูกในทางไม่สมควรทางเพศนะ … ส่วนที่ดูแล้ว คิดเองจิตนาการไปเองคนเดียว อันนี้ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว ก็ว่ากันไป ….
แต่ปัจจุบัน ด้วยอะไรหลายอย่างมันพัฒนาไปมาก กฎหมายเองก็พยายามที่จะตามให้ทัน เนื่องจากสมัยนี้ใครๆก็มีโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้บันทึกเป็นวิธีโอได้ เห็นทีถ้าไม่ทำอะไรเลยคงจะมีพวกถ้ำมองกันทั่วบ้านทั่วเมืองเป็นแน่แท้
ดังนั้น ศาลจึงได้ประทานคำพิพากษามาให้คนไทยฉบับหนึ่ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานใหม่ว่า…แม้ไม่ต้องมีการถูกเนื้อต้องตัวของอีกฝ่ายหนึ่งก็มีความผิดอาจารได้ (แม้ดูแต่ตา มือไม่ต้อง ก็ไม่รอด) มีใจความว่า....
“คดีนี้คนร้ายได้ติดตั้งกล้องบันทึกภาพไว้ที่ใต้โต๊ะทำงานของผู้เสียหายและได้บันทึกสรีระร่างกายตั้งแต่ช่วงลิ้นปี่จนถึงอวัยวะช่วงขาท่อนบน โดยที่กล้องมีแสงไฟสำหรับปรับเสียงได้ให้มองเห็นภาพใต้กระโปรงชัดเจนยิ่งขึ้นส่อให้เห็นถึงความใคร่และกามารมณ์…แม้ไม่ได้สัมผัสต่อเนื้อตัวร่างกายของอีกฝ่ายโดยตรงก็ตามแต่การที่ใช้กล้องบันทึกภาพเป็นการประสงค์ต่อผลอันไม่สมควรทางเพศแล้ว” …. ไอ้พวกที่ชอบติดกระจกหรือติดกล้องไว้ที่รองเท้าก็ระวังตัวให้จงดีเถอะ (ช่วงท้ายร้อยเวรเติมเอง..อารมณ์มา!!)
มีคนถามร้อยเวรต่อว่า … อย่างนี้ถ้าก้มดูเฉยๆ แต่ไม่ได้ถ่ายภาพหรือบันทึกเก็บไว้จะยังผิดอาจารไหม …. ร้อยเวรว่ามันก็น่าจะกินความไปถึง การที่ก้มดูใต้กระโปรงแม้จะไม่ได้มีการบันทึกไว้ด้วยก็ตาม จะดูเองหรือใช้กล้องดูก็คงเหมือนกัน ... "มันไม่ได้อยู่ที่วิธีดู แต่มันอยู่ที่สิ่งที่คุณไปดู โดยเขาไม่ยินยอมต่างหากล่ะ"
แต่ยังก่อนครับ ร้อยเวรแถมให้อีกนิด …. ความชั่วร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ... นอกจากเอาไปสำเร็จความใคร่ทางกามารมณ์ตัวเองยังไม่พอ ยังมีพวกเอาไป“แบล็คเมล์” อีกด้วย
โดยที่ร้อยเวรเคยเจอคดีกับตัวเอง(หมายถึงเคยรับแจ้งความนะ..) ผู้สียหายไปเล่นเว็บแคมแล้วให้ต่างคนต่างถอดเสื้อผ้าออกทีล่ะชิ้น ปรากฏว่าอีกฝ่ายหนึ่งคิดไม่ซื่อใช้ภาพวิดีโอหลอกให้อีกฝ่ายหนึ่งถอดและแอบบันทึกภาพเอาไว้ ..จากนั้นก็เอามาขู่เรียกเอาเงิน ถ้าไม่ให้จะเอาไปลงเผยแพร่ทางคอมพิวเตอร์ต่อไป
สุดท้าย … ร้อยเวรยังรอคอยโทษแบบที่เกาหลีใต้ใช้อยู่ ถ้ามีมันแล้วควบคุมไม่ได้ ก็ไม่ต้องมีเสียดีกว่า …
โฆษณา