31 พ.ค. 2020 เวลา 01:56 • ไลฟ์สไตล์
กิเลส
ธรรมชาติใดย่อมทำให้เร่าร้อน เศร้าหมอง ธรรมชาตินั้นชื่อว่า กิเลส
1
มีกิเลสเพราะเศษกรรมที่ทำไว้
ขออย่าละไปไม่ทำเฉย
เร่งเรียนรู้ในธรรมทำจนเคย
ดับขันธ์เลยใครทำใจสบายเอย
กิเลส แสดงไว้ 16 ประการ คือ
1 โลภ 2 พยาบาท 3 โกรธ 4 ผูกใจเจ็บ 5 ไม่รู้จักบุญคุณ 6 เปรียบเทียบ 7 ริษยา 8 เจ้าเล่ห์ 9 โอ้อวด 10 ดื้อรั้น 11 ตระหนี่ 12 แข่งดี 13 เย่อหยิ่ง 14 ดูถูก 15 มัวเมาโลก 16 ประมาท
แม้ประการใดประการหนึ่งเมื่อเกิดขึ้นในใจแล้วก็จะส่งผลให้เจ้าของใจหมดความสุขกายสบายใจ เกิดความเร่าร้อน หรือเกิดความฮึกเหิมทะนงตัว เต้นไปตามจังหวะที่อุปกิเลสนั้นๆ บงการให้เป็นไป
คิดง่ายๆจิตใจที่ไม่เร้าร้อน เศร้าหมอง คือจิตที่เบิกบาน งั้นเมื่อต้องการให้จิตเบิกบานก็คือทำให้ใจที่ไม่เร้าร้อน เศร้าหมอง โดยการดับกิเลส เริ่มจากลด ให้ใจสไม่เร้าร้อน จนละไม่ให้เศร้าหมอง ทีละน้อยตามความสมควร
ท่านอาจคิดว่า ชีวิตนี้ท่านคงทำไม่ได้ อย่าไปคิดมากนะ นรกรออยู่ แค่นั้นเอง...
ชาตินี้ทำไม่ได้ ตายไปก็ตกนรกใช้เวรใช้กรรมเสร็จก็กลับมาเกิดใหม่ ก็คิดอีกว่าทำไม่ได้ ทั้ง 16 ข้อทำไม่ได้เลย ก็อย่าไปคิดมาก นรกรออยู่ ถ้าท่านยินดีที่จะตกนรก ก็พูดออกมาว่าทำไม่ได้ แค่นั้นเอง และทำตามสัญชาตญาณพื้นฐานของท่านไป ท่านอาจคิดว่า สบายดีไม่ต้องคิดมาก อยากทำอะไรก็ทำไปเลยไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกลัวบาป ไม่ต้องกลัวนรก ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องกลับมาเกิดใหม่ แต่ถ้าท่านคิดผิดเข้าใจตรงกันนะ นรกรออยู่... แค่นั้นเอง
ภาพในนรกก็ยังเป็นเพียงเรื่องจากการบอกเล่าจะผู้ที่เคยไปมาแล้วแต่ ไม่สามารถ พาผู้อื่นไปได้ เป็นเพียงแค่เรื่องเล่า... อย่าเชื่อจนกว่าจะได้เห็นจริง ผู้เขียนอาจลงไปอยู่ซักพักเพื่อชดใช้เวรกรรมที่ทำมาเมื่อใช้หมดค่อยกลับมาเกิดใหม่ เพื่อหาทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป หากยังได้เกิดบนแผ่นดินพุทธกาลก็เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งแล้ว
ครั้นคนที่มีหิริโอตตัปปะย่อมยินยอมสละเรื่องทางโลกออกทีละน้อย และด้วยศรัทธาใน พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ให้ทาน รักษาศีล วางตนให้ห่างจากกาม อดทนอดกลั้น มีสติทางธรรมเพื่อระลึกรู้เพียงปัจจุบันกาล เมื่อมากเข้าปัญญาจะเกิดขึ้นมา เห็นทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นคงอยู่และดับไป เป็นธรรมดา เมื่อวางตนได้ก็จะเป็นไปเพื่อ.... ลดกิเลส
สุขที่แท้จริงรออยู่
สตรรม
31 พ.ค. 2563
โฆษณา