31 พ.ค. 2020 เวลา 12:45 • ธุรกิจ
🌎 อัพเดทข่าวสาร การเงิน การลงทุน และเศรษฐกิจรอบโลก รายสัปดาห์ (31 พ.ค. 63) 📰 / โดย คลินิกการลงทุน
🌎 อัพเดทข่าวสาร การเงิน การลงทุน และเศรษฐกิจรอบโลก รายสัปดาห์ (31 พ.ค. 63) 📰 / โดย คลินิกการลงทุน
1.
.
รัฐสภาประชาชนของจีน (National People’s Congress) มีมติอนุมัติผ่านกฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกง ด้วยคะแนนเสียง 2,878 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง และไม่ลงคะแนน1 เสียง ถือเป็นการสิ้นสุดลงของนโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ในฮ่องกง และจะทำให้ฮ่องกงไม่เป็นเขตปกครองตนเองอีกต่อไป
.
กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ให้ความสำคัญด้านความมั่นคงทางการเมืองเป็นอย่างมาก โดยมีมาตรการในการจัดการกับผู้กระทำผิดที่เข้มงวดมากขึ้น มีข้อห้ามหลักๆ ได้แก่ การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน การโค่นล้มรัฐบาล และการแทรกแซงจากรัฐบาลต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายฉบับสมบูรณ์ ในช่วงก่อนเดือนกันยายนนี้
.
ทางด้าน Carrie Lam ผู้นำฮ่องกง ได้บอกว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวฮ่องกง และรัฐบาลฮ่องกงพร้อมให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลจีนในการดำเนินการทางฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่
.
ทั้งนี้ หลายฝ่ายกังวลว่ากฎหมายความมั่นคงนี้จะยทำให้ฮ่องกงสูญเสียความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก จากการแทรกแซงของจีนแผ่นดินใหญ่
.
นอกจากนี้ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการตั้งเป้า GDP ในปีนี้ เนื่องจากจีนไม่ต้องการกดดันภาคธุรกิจให้เติบโตมากเกินไป แต่จะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูประเทศมากกว่า
.
โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ย้ำว่า เศรษฐกิจของจีนต้องเติบโตไปตามกลไกเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซง แม้ว่าสหรัฐฯ จะเร่งให้จีนเข้าแทรกแซงเศรษฐกิจ เนื่องจากจีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงการค้าที่ได้ทำไว้กับทางสหรัฐฯ ก็ตาม
2.
.
วุฒิสภาของสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย “The Holding Foreign Companies Accountable Act” เพิกถอนบริษัทจีนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการกำกับดูแลการบัญชีแห่งสหรัฐฯ (PCAOB) รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Alibaba และ Baidu ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
.
ซึ่งมีบริษัทจีนกว่า 95% ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ PCAOB ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบริษัทเหล่านี้ได้ ในเบื้องต้นคาดว่าอาจมีบริษัทจีนที่จะถูกเพิกถอนประมาณ 224 บริษัท มูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านล้านเหรียญฯ
.
โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีรายละเอียดส่วนหนึ่งที่ระบุว่า บริษัทต่างชาติในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต้องทำตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชีและข้อบังคับทางการเงินต่างๆ ของสหรัฐฯ และต้องไม่ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยรัฐบาลต่างชาติ ถ้าหากผู้ตรวสอบของสหรัฐฯ ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบริษัทต่างชาติได้เป็นระยะเวลา 3 ปี ก็จะถูกห้ามซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นในทันที อีกทั้งยังมีข้อกำหนดและรายละเอียดต่างๆ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกด้วย
3.
.
Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) บอกว่า เศรษฐกิจจะแย่ต่อไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงปลายปี 2021 และเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เต็มที่เมื่อมีการค้นพบวัคซีนโควิด-19
.
ทางด้านสภาคองเกรสได้ผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ด้วยคะแนน 208 ต่อ 199 เสียง โดยมีมูลค่า 3 ล้านล้านเหรียญฯ ประกอบด้วยการแจกเงินให้กับประชาชนคนละ 1,200 เหรียญฯ สูงสุดอยู่ที่ครัวเรือนละ 6,000 เหรียญฯ และได้แบ่งเงิน 1 ล้านล้านเหรียญฯ ให้กับแต่ละรัฐ เพื่อบริหารสภาพคล่องอีกทั้งยังได้แบ่งเงินอีก 7.5 หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อนำไปใช้ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ
เขาได้บอกว่า อัตราว่างงานสหรัฐฯ อาจจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 25% และคาดว่าในไตรมาสที่ 2 GDP อาจหดตัวลงกว่า 20-30% แต่จะเริ่มฟื้นตัว ในช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าหากสหรัฐฯ สามารถควบคุมการระบาดในระลอกที่ 2 ได้
4.
.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน 33 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี เช่น NetPosa, CloudMinds และ Qihoo 360 ในข้อหาช่วยเหลือจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมกลุ่มน้อยชาวอูยกูร์ และให้การสนับสนุนช่วยเหลือกองทัพของจีน
.
ทางด้าน หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกมาแถลงว่า ตอนนี้มีกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองของสหรัฐฯ พยายามกดดันให้จีนและสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามเย็นอีกครั้ง โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นตัวประกัน
5.
.
ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีของไต้หวัน ออกมาบอกว่า กฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกงเป็นสิ่งที่คุกคามสิทธิเสรีภาพและแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของฮ่องกงอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังได้ตำหนิตำรวจฮ่องกงหลังได้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ประท้วง พร้อมทั้งประกาศว่า ไต้หวันพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในสิ่งที่จำเป็นแก่ชาวฮ่องกง
.
เธอได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการจัดการกับการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงนั้น จะต้องไม่ใช้อาวุธ ไม่สร้างความหวาดกลัว และไม่ใช้ความรุนแรง แต่ต้องใช้หลักเสรีภาพ ความเป็นประชาธิปไตย และยึดถือหลักการปกครองตนเองอย่างอิสระของฮ่องกง
AFP/Getty Images
6.
.
ดร.แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาว ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ (NIAID) ที่ชาวอเมริกันให้ความเชื่อถือเป็นอย่างมาก ได้ออกมาบอกว่า การทดลองวัคซีนนั้นดูดีกว่าที่คาดไว้ ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อาจได้ใช้กันภายในเดือนธันวาคม ปีนี้ หรือช่วงต้นปีหน้า
7.
.
ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ประกาศจำกัดการเดินทางจากบราซิลเข้าสู่สหรัฐฯ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบราซิลเพิ่มสูงขึ้นมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการป้องกันประเทศจากความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเพิ่มเติม ด้วยการห้ามชาวต่างชาติที่อยู่ในบราซิลเกิน 14 วัน เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
8.
.
ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (US Initial Jobless Claim) ประจำสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นอีกกว่า 2.12 ล้านคน ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยยอดในช่วงประมาณ 2 เดือนครึ่ง หรือ 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดคนตกงานรวมพุ่งทะลุ 40.8 ล้านคนไปแล้ว
.
ถึงแม้ว่าอัตราว่างงานของสหรัฐฯ จะลดลงเหลือ 14.5% จากเดิมสูงถึง 17.1% ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์มองว่า อัตราว่างงานของสหรัฐฯ อาจเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 20-30% และคาดว่าอัตราว่างงานสหรัฐฯ จะแตะระดับ 20% ในสัปดาห์หน้า
.
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ พบว่าหดตัวลงถึง 5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และได้มีการประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับเสียหายจากวิกฤตครั้งนี้กว่า 21.5 ล้านล้านเหรียญฯ
.
นอกจากนี้ เครื่องมือติดตาม GDP ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประเมินว่า ตัวเลขเศรษฐกิจ GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 อาจหดตัวลงสูงถึง 41.9% ซึ่งนับเป็นการหดตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
9.
.
ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาขู่ว่าจะปิดบริษัท Twitter หากมีการบังคับตรวจสอบข้อเท็จจริงของทวีต หรือมีการลบทวีตของเขาออก หลังจากที่ข้อทวีตของทรัมป์โดนติดแท็กว่าอาจเป็นข่าวปลอมอยู่หลายข้อความ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ทรัมป์เป็นอย่างมาก
.
นอกจากนี้ คำขู่ของทรัมป์ ยังได้ลามไปยัง Facebook และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่นๆ โดยทรัมป์ ได้สั่งให้ทีมกฏหมายของเขาทำการทบทวนกฎหมายป้องกันสิทธิในการพูดเสรี และเตรียมลงโทษบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ
.
โดยทรัมป์อ้างว่า Twitter กำลังยับยั้งสิทธิในการพูดอย่างเสรี และในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น นอกจากนี้ Twitter ยังตั้งใจที่จะแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ ทำให้เขาเสียเปรียบอีกด้วย
10.
.
สิงคโปร์ ประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP เป็นครั้งที่ 3 จากเดิมที่คาดว่า GDP จะติดลบประมาณ 1-4% ล่าสุดได้ปรับคาดการณ์ GDP ใหม่เป็นติดลบ 4-7% เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์และทั่วโลกรุนแรงกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งยังได้เกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในสิงคโปร์ จนทำให้มียอดผู้ติดเชื้อทะลุหลักหมื่นคนแล้ว
.
นอกจากนี้ ทางด้านกระทรวงการคลังสิงคโปร์ ประกาศเตรียมอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 4 ของปีนี้ มูลค่าประมาณ 2.32 หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อช่วยเหลือพนักงานและกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังได้ยกเว้นค่าเช่าให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงมีการจ้างงานเพิ่มกว่า 4 หมื่นตำแหน่งอีกด้วย
.
โดยหากนับรวมเม็ดเงินทั้งหมด 4 ครั้งมีสัดส่วนสูงถึง 20% ของ GDP แล้ว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ อาจทำให้งบประมาณของสิงคโปร์ขาดดุลประมาณ 15.4% ของ GDP และคาดว่ารัฐบาลจะมีการใช้ทุนสำรองของประเทศเพื่อมาสนับสนุนเศรษฐกิจในส่วนนี้ด้วย
Bloomberg
11.
.
สัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ในสหรัฐฯ เพิ่มสูงมากขึ้น โดยมีชาวอเมริกันกว่า 15 ล้านคน ไม่ชำระค่าบัตรเครดิต และอีกกว่า 3 ล้านคน ไม่จ่ายเงินค่างวดผ่อนรถยนต์ โดยตัวเลขสินเชื่อส่วนบุคคลของชาวอเมริกันขอผ่อนผันยังไม่จ่ายหนี้นั้นมากถึงกว่า 8.4 แสนคน สาเหตุหลักนั้นก็เนื่องมาจากชาวอเมริกันตกงานกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีรายได้มาชำระหนี้
12.
.
ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์กรอนามัยโลก (WHO) พร้อมถอนเงินทุนสนับสนุนอย่างเป็นทางการ เนื่องจาก WHO เข้าข้างจีนมากเกินไป อีกทั้งยังล้มเหลวในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดอีกด้วย
13.
.
ในสหรัฐฯ กำลังมีการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีชนวนเหตุจากตำรวจผิวขาวได้เข้าจับกุมและได้ใช้เข่ากดคอชายผิวดำ ที่ชื่อ จอร์จ ฟลอยด์ จนเป็นเหตุให้ชายผิวดำคนดังกล่าวเสียชีวิตระหว่างจับกุม
.
ล่าสุดการชุมประท้วงเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ลามไปมากกว่า 50 เมืองทั่วสหรัฐฯ แล้ว มีการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วง อีกทั้งยังได้มีการเผาทำลายข้าวของต่างๆ และเกิดการปล้นร้านค้าหลายแห่งอีกด้วย
14.
.
รัฐบาลรัสเซีย เทขายพันธบัตรดอลลาร์กว่า 96% ของที่ถือครองอยู่ทั้งหมด เหลือเพียง 3.8 พันล้านเหรียญฯ ทำให้ตอนนี้ รัสเซียถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐฯ เหลืออยู่เพียง 473 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น
.
นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียยังได้เก็บทองคำเข้าทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นระดับมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณการถือครองรวมทั้งหมดประมาณ 2,298 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 1.26 แสนล้านเหรียญฯ ทำให้ในปัจจุบันรัสเซียถือครองทองคำและสกุลเงินต่างประเทศรวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 5.66 แสนล้านเหรียญฯ
15.
.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยปรับเพิ่มวงเงินเข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน (Commercial Paper) มูลค่ากว่า 1.86 ล้านเหรียญฯ พร้อมทั้งประกาศยกเลิกเพดานวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ให้คงอยู่ที่ระดับ 0% โดยทาง BOJ มองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะหดตัวลงประมาณ 3 - 5% ในปีนี้
PHOTO: BLOOMBERG
16.
.
ปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนจีนที่แห่เข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณการซื้อขายรวมกว่า 3.53 หมื่นล้านหุ้น ทำให้ในตอนนี้นักลงทุนจีนมีสัดส่วนการถือหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกงถึง 2.9%
.
แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดว่ารัฐบาลจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อหุ้นครั้งใหญ่นี้หรือไม่ ซึ่งมีบางฝ่ายมองว่า ถ้าหากทางรัฐบาลจีนมีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ อาจมีเป้าหมายเพื่อเข้าควบคุมตลาดหุ้นฮ่องกงมากขึ้น
17.
.
Hertz บริษัทรถเช่ายักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ประกาศล้มละลาย Chapter 11 และเตรียมเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการ หลังรายได้ลดลงอย่างหนักจากผลกระทบของโควิด-19 ประกอบกับปัญหาหนี้สินกว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญฯ ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก และเกิดการผิดนัดชำระหนี้ตามมาในทันที โดยเมื่อปีที่แล้ว นับตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 บริษัทขาดทุนไปกว่า 2 พันล้านบาท
18.
.
Jack Ma อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Alibaba group ประกาศลาออกจากบอร์ดบริหาร SoftBank หลังจากที่ได้ดำรวตำแหน่งนี้มานาน 13 ปี โดยเขาต้องการที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาในด้านการศึกษามากขึ้นในชีวิตที่เหลือของเขา
.
โดยทาง Softbank ได้แต่งตั้งบอร์ดบริหารเพิ่มขึ้นมาใหม่ 3 คน ประกอบด้วย Yoshimoto Goto (CFO ของ Softbank), Lip-Bu Tan (CEO ของ Cadence Design Systems) และ Yuko Kawamoto (อาจารย์จาก Waseda Business School) ซึ่งจะมีผลในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ทำให้สมาชิกบอร์ดบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 13 คน
19.
.
Facebook และ Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ "Facebook shop" สำหรับเหล่าธุรกิจขนาดเล็ก และร้านค้าต่างๆ สามารถขายสินค้าโดยตรงผ่านทางหน้าเพจได้เลย หลังจากที่ Facebook และ Instagram ได้พยายามผลักดันเรื่อง E-Commerce มาระยะหนึ่งแล้ว อย่างเช่น Market place เป็นต้น
.
โดยฟีเจอร์ Facebook Shop นี้จะช่วยให้กระบวนการซื้อขายง่ายครบจบในตัว ด้วยการเปิดใช้งาน Facebook หรือ Instagram เพียงแอปฯ เดียว ก็สามารถซื้อสินค้าได้ทันที ซึ่งในปัจจุบันมีธุรกิจที่ลงทะเบียนใช้งาน Facebook shop แล้วมากกว่า 1 ล้านราย
.
นอกจากนี้ Facebook ยังได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์อีกหลายราย เช่น Shopify, BigCommerce, WooCommerce, ChannelAdvisor, CedCommerce, Cafe24, Tienda Nube และ Feedonomics ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบ ecosystem การซื้อขายสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ข้อมูลต่างๆ จะถูกเชื่อมไปยัง Facebook และ Instagram โดยอัตโนมัติ อีกทั้งร้านค้าต่างๆ ยังสามารถปรับแต่งหน้าร้านของตัวเองได้อีกด้วย
20.
.
Expedia รายได้ในไตรมาสแรกร่วงหนักถึง 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 2.21 พันล้านเหรียญฯ ขาดทุน 285 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 545% หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวลดลงอย่างหนักทั่วโลก
.
ทั้งนี้ Expedia ได้ทำการระดมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง และสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินเป็นจำนวนเงินกว่า 3.2 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมีภาระหนี้สินกว่า 4 พันล้านเหรียญฯ อีกด้วย
21.
.
Boeing บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ระดับโลกเตรียมปลดพนักงานเพิ่มอีกกว่า 6 พันคน เพื่อต้องการลดต้นทุนธุรกิจ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตั้งเป้าลดจำนวนพนักงานให้ได้ 1.6 หมื่นคน หรือประมาณ 10% ของพนักงานทั้งหมด
นอกจากนี้ ลูกค้าบางรายของ Boeing ที่เคยสั่งซื้อเครื่องบินก็ได้ขอชะลอการซื้อเครื่องบินออกไปก่อนอีกด้วย โดยในเดือนเมษายน Boeing มียอดคำสั่งซื้อเครื่องบินเป็น 0 ทำให้ตอนนี้ Boeing มีผลประกอบการขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
Photo: AP, AFP
ฝากทุกท่านกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เป็นกำลังใจให้คลินิกการลงทุน และนักเขียนทุกคน เพื่อพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นไป หรือ Comment ติชมในเชิงสร้างสรรค์ได้เลยครับ
⭐️💰💎 สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับ "หลักทรัพย์หยวนต้า (Yuanta Securities)" ติดต่อได้ที่ Inbox เพจ "คลินิกการลงทุน" คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี่ได้เลยครับ 👇👇👇
References:
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.
🌎 อัพเดทข่าวสาร การเงิน การลงทุน และเศรษฐกิจรอบโลก รายสัปดาห์ (31 พ.ค. 63) 📰 / โดย คลินิกการลงทุน
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา