1 มิ.ย. 2020 เวลา 07:05 • กีฬา
D1 MILANO : แบรนด์นาฬิกาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่กำเนิดจากรั้วมหาวิทยาลัย
หนึ่งสิ่งที่แบรนด์นาฬิการะดับโลกแทบทุกแบรนด์มีเหมือนกันนั่นคือ "ประวัติศาสตร์อันยาวนาน" เพราะมากมายหลายแบรนด์ล้วนแล้วแต่ก่อตั้งมาไม่ต่ำกว่า 100 ปีแทบทั้งสิ้น
2
อย่างไรก็ตามท่ามกลางแบรนด์เก่าแก่เหล่านั้น กลับมีอยู่หนึ่งแบรนด์ ที่ถึงแม้จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ถือเป็นน้องใหม่ป้ายแดงสุดๆ ในโลกแห่งเรือนเวลา แต่กลับใช้เวลาไม่นานในการกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ทุกคนในวงการรู้จักเป็นอย่างดี
แบรนด์นั้นมีชื่อว่า "D1 Milano" ส่วนเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์น้องใหม่ที่ไม่ธรรมดาแบรนด์นี้จะเป็นอย่างไร อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น ติดตามได้ที่ Main Stand
1
กำเนิดในรั้วมหาวิทยาลัย
เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในปี 2013 ในช่วงที่ "ดาริโอ สปาลโนเล" ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 20 ปี และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้ายในสาขาการจัดการธุรกิจที่ Bocconi University ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
Photo : www.hms-watchstore.com
เพื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สปาลโนเล จำเป็นต้องทำวิทยานิพนธ์เพื่อนำเสนออาจารย์ ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เมืองมิลานเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งแฟชั่น เนื่องจากมีการจัดงาน Milan Fashion Week 2013 อยู่พอดี นั่นทำให้ สปาลโนเล เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์แบรนด์แฟชั่นของตัวเองขึ้นมาบ้าง ใช้กลยุทธ์การตลาดในการบริหารทำให้แบรนด์เติบโต และนำสิ่งเหล่านั้นมาทำเป็นวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์
เมื่อคิดได้เช่นนั้น สปาลโนเล ก็ไม่รอช้า เขาได้ร่วมกับ อเลสเซีย สปาลโนเล สาวที่เป็นพี่น้องของเขา รวมถึง อเลสซานโดร เปเดอโซลี และ แมตเตีย บอดินี่ เพื่อนสนิท ในการก่อตั้งแบรนด์นาฬิกา D1 Milano ขึ้นมา
"Wear Your Attitude (สวมใส่ทัศนคติความเป็นตัวคุณ)" นี่คือวิสัยทัศน์แรกของ สปาลโนเล ในการก่อตั้ง D1 Milano เขาตั้งใจที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาที่ผู้สวมใส่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองได้ผ่านเรือนเวลาที่ข้อมือ และมันก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
Photo : mojehmen.com
"กลุ่มลูกค้าของเราคือกลุ่มคนที่รักในความสนุกสนาน แต่ก็มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ตอนแรกตั้งใจจะให้อยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปี แต่ด้วยดีไซน์การออกแบบนาฬิกาของเราที่มีความเท่แบบสุขุมนุ่มลึกและเงียบขรึม จึงทำให้ได้รับการตอบรับในแดนบวกจากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากกว่าที่คิด" สปาลโนเล เผยกับ Forbes
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และกลยุทธ์การตลาดที่ทันยุคทันสมัย ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างเฉียบขาด นั่นทำให้กำแพงเป้าหมายด่านแรกของ D1 Milano ที่ สปาลโนเล ต้องการให้ D1 Milano เป็นวิทยานิพนธ์ส่งเขาให้กลายเป็นบัณฑิตจึงสำเร็จได้โดยง่าย นั่นทำให้เหล่าผู้ก่อตั้งเริ่มมองไกลไปกว่านั้นหลายช่วงตัว ... คือการทำให้ D1 Milano เป็นแบรนด์นาฬิการะดับโลกให้ได้
จากมิลานสู่โลกกว้าง
หลังจากจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ดาริโอ สปาลโนเล ก็เริ่มต้นการเป็นผู้บริหารแห่ง D1 Milano อย่างเต็มตัว โดยในช่วงแรกนาฬิกาแบรนด์นี้เป็นที่พูดถึงในฐานะนาฬิการะดับพรีเมี่ยมจากประเทศอิตาลี มรดกอันล้ำค่าจากเมืองแห่งแฟชั่น ใช้วัสดุคุณภาพดีในการสร้างสรรค์ รูปทรงทันสมัย แต่ราคาไม่สูงจนเกินเอื้อม เป็นตัวเลือกสำหรับคนทั่วไปที่อยากมีนาฬิกาดีๆ ประดับข้อมือของตัวเอง
Photo : Cyberspaceandtime.com
อย่างไรก็ตามเท่านั้นไม่เพียงพอ สปาลโนเล จำเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่โดดเด่นกว่านี้เพื่อช่วงชิงพื้นที่ตลาดที่บรรดาแบรนด์เก่าแก่แทบจะยึดครองไว้ทั้งหมดแล้ว
"เราต้องพยายามสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awarness) โดยการวางตำแหน่งของแบรนด์เราให้เหมาะสม และสร้างซิกเนเจอร์ของเราขึ้นมาให้ผู้คนจดจำมันได้"
ซิกเนเจอร์ที่ว่าก็คือการสร้างนาฬิการะบบ Thermochromic ขึ้นมาเป็นที่แรกของโลก โดยระบบนี้คือการที่สีของหน้าปัดนาฬิกาจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ เป็นอะไรที่แปลกใหม่และไม่เคยมีแบรนด์ไหนคิดจะทำมาก่อน
"เราใช้เวลากว่า 1 ปีเพื่อค้นคว้าวิจัยระบบ Thermochromic ให้สำเร็จ มันคือการนำเทรนด์เทคโนโลยีมารวมเข้ากับแฟชั่นอย่างแท้จริง จนเราได้ค้นพบพื้นที่แห่งความสำเร็จ"
Photo : d1milano.com
กลยุทธ์การตลาดของ D1 Milano ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น สปาลโนเล จึงได้ร่วมมือกับเหล่าคนดังมากมายจากหลากหลายวงการในการกระจายชื่อเสียงสู่ชาวโลก ไม่ว่าจะเป็น ไทรีส กิ๊บสัน นักแสดงจอมฮาจากแฟรนไชส์ Fast & Furious, ดิโพล ดีเจมากฝีมือ, อ้าย เว่ยเว่ย ศิลปิน-นักเคลื่อนไหวหัวขบถชาวจีน และอีกมากมาย
"เราเรียกว่าเขาเหล่านี้ว่า D1 Friends พวกเขาไม่ใช่ฑูตประจำแบรนด์ของเรา และเราก็ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้เขาสวมใส่นาฬิกาของเรา เราโชคดีมากๆ ที่มีคนเหล่านี้ให้การสนับสนุน"
เมื่อเหตุผลทั้งหมดที่เล่ามาประกอบกันอย่างเข้มแข็ง ส่งผลให้ในเวลาไม่นานชื่อของ D1 Milano ก็เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชื่นชอบนาฬิกาได้สำเร็จ แต่แน่นอนว่ามันก็ตามมาด้วยบทพิสูจน์ครั้งสำคัญเช่นกัน
ยืนหยัดอย่างมั่นคง
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน D1 Milano จะมีสำนักงานใหญ่ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงอีกแห่งในฮ่องกง นอกจากนั้นยังมีการจัดจำหน่ายอยู่ใน 28 ประเทศทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยด้วย) ถือเป็นแบรนด์นาฬิกาน้องใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ถึงขั้นมีข่าวลือว่า Hublot และ Patek Philippe ต้องการจะซื้อ D1 Milano เข้าไปอยู่ในเครือของตัวเองด้วยจำนวนเงินมหาศาล
Photo : www.menatworkme.com
"ผมไม่ได้มีแผนที่จะเข้าร่วมกับ Hublot หรือ Patek Philippe ในอนาคตอันใกล้นี้ D1 Milano ยังคงต้องการสร้างแนวทางของตัวเองในโลกแห่งนาฬิกา" ดาริโอ สปาลโนเล ที่ปัจจุบันกลายเป็นผู้บริหารบริษัทระดับพันล้านในวัยเพียง 27 ปีกล่าวกับ Forbes
"อิตาลีคือตลาดหลักของเรา และเราก็สามารถทำได้ดีใน ปานามา ดูไบ กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย โดยที่เหล่านี้น่าจะเป็นตลาดหลักของเราในอนาคตได้สำเร็จ นอกจากนั้นเราก็หวังว่าจะสามารถทำตลาดในสหรัฐอเมริกาได้เช่นกัน"
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ D1 Milano จะมาไกลจากจุดเริ่มต้นในวันแรกเป็นอย่างมาก กลายเป็นบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อย่างแท้จริงไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น สปาลโนเล ก็ทราบดี และตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งสำคัญที่จะครองใจลูกค้าได้นั้นคือคุณภาพที่ไม่เปลี่ยนไป ทั้งในแง่วัสดุ ดีไซน์การออกแบบ และมาตรฐานความคงทน ไม่ว่าจะผลิตเพียงไม่กี่สิบเรือนเหมือนในวันแรก หรือต้องผลิตหลักหมื่นหลักแสนเรือนเหมือนในปัจจุบัน
Photo : D1 Milano
"ถึงจะชื่อว่า D1 Milano แต่แบรนด์นี้ไม่ได้อยู่แค่ในมิลาน แต่กระบวนการผลิตของเรานั้นเป็นกระบวนการระดับโลก ในเรื่องวัสดุผ้าเราทำงานกับผู้เชี่ยวชาญในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าที่สุดในโลก เนื่องจากนาฬิกาของเป็นสินค้าแฟชั่นเราจึงมุ่งเน้นไปที่ความสวยงาม ไม่จำเป็นต้องเป็นสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งจะทำให้ราคาสูงเกินไป"
"นอกจากพันธมิตรของเราในเซินเจิ้นแล้ว เรายังทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่นในอิตาลีที่รับหน้าที่ออกแบบ สร้างตัวเรือน รวมถึงเก็บรายละเอียดต่างๆ" สปาลโนเล กล่าวทิ้งท้ายกับ Forbes
1
สุดท้ายนี้ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ใหม่ แต่ D1 Milano ก็มีเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเอง รวมถึงเอกลักษณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าใครอยากสัมผัสเรือนเวลาในแบบของ D1 Milano หรืออยากจับจองเป็นเจ้าของก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://d1milano.com
บทความโดย เพรียวพันธ์​ แสน​ลาวัณย์
แหล่งอ้างอิง:
โฆษณา