4 มิ.ย. 2020 เวลา 20:43
ปัจจุบันมีมหาเศรษฐีอายุน้อยกว่า 30 ปี เพียง 3 คนเท่านั้นที่สร้างธุรกิจขึ้นเองกับมือจนมีทรัพย์สินเกินหนึ่งพันล้านดอลลาร์ (Three self-made billionaires in the world under the age of 30 by Forbes) 💸
ในปี 2020 นี้ นิตยสาร Forbes ก็ได้จัดอันดับมหาเศรษฐีหนึ่งพันล้านดอลลาร์จากทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันโลกของเรามีมนุษย์ที่มีเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาทไทย อยู่ประมาณ 2,000 กว่าคนหรือเทียบได้เป็น 0.00002% ของประชากรโลก 😲
ซึ่งถ้าหากนำเศรษฐีเหล่านี้มาเรียงอายุจากน้อยไปมากแล้ว จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีมหาเศรษฐีหนึ่งพันล้านดอลลาร์ที่อายุไม่เกิน 30 ปีเพียง 11 คนเท่านั้น
ซึ่ง 8 ใน 11 คน เป็นผู้ที่ได้รับเงินมรดก ผู้ถือหุ้นในธุรกิจของครอบครัว หรือสืบทอดกิจการจากรุ่นก่อนๆ 🤔
แต่มีเศรษฐีเพียง 3 คนเท่านั้นที่สร้างธุรกิจขึ้นมาเองกับมือจนมีทรัพย์สินเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 3 หมื่นล้านบาทไทย มาดูกันดีกว่าครับว่า 3 คนนั้นจะเป็นใครกันบ้าง 😁
คนแรกก็คือ Kylie Jenner เศรษฐีพันล้านดอลลาร์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ซึ่งมีอายุเพียง 22 ปี ปัจจุบันเธอมีทรัพย์สินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือ 3 หมื่นล้านบาทไทยจากธุรกิจ Kylie Cosmetics 💄👩
Kylie Jenner, Founder of Kylie Cosmetics ที่มาของภาพ: https://www.cosmopolitan.com/es/belleza/novedades-belleza/a25904850/kylie-jenner-cosmetics-maquillaje-espana/
Kylie Jenner เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงดารา คนดัง หรือเซเลบริตี้ เพราะเธอเป็นหนึ่งในสมาชิกบ้าน Kardashian-Jenner จากรายการทีวีเรียลลิตี้ชื่อดังของอเมริกา ที่ถ่ายทำเกี่ยวกับวิถีชีวิตประจำวันของสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่จะมั่งคั่งและร่ำรวยจากการแสดงและถ่ายแบบ ส่วนตัว Kylie เองก็เข้าสู่วงการการแสดงตั้งแต่อายุ 10 ปี 👧
เมื่อโตขึ้น Kylie ได้เริ่มทำธุรกิจเสื้อผ้ากับพี่น้องของเธอและนำเงินที่ได้มาต่อยอดธุรกิจไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานเธอจึงตัดสินใจสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของเธอเองภายใต้ชื่อ Kylie Cosmetics ในปี 2015 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น 😯
Kylie เน้นทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย และแบรนด์ของเธอยังได้รับผลตอบรับที่ดีมากๆ ส่งผลให้ยอดขายของ Kylie Cosmetics พุ่งกระฉูดจนบริษัท Coty ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าความงามได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัท Kylie Cosmetic ไปจนถึง 51% จากเธอ ซึ่งเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์หรือ 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Kylie กำลังตกเป็นข่าวในประเด็นร้อนแรงที่ว่า เธอได้โกหกยอดขาย Kylie Cosmetics ในปี 2017 จากที่เคยบอกไว้ว่าบริษัททำยอดขายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่ความเป็นจริงแล้วบริษัททำได้เพียง 3.7 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งประเด็นร้อนแรงเรื่องนี้อาจจะส่งผลให้เธอถูก Forbes ตัดเธอออกจากรายชื่อเศรษฐีพันล้านเนื่องจากทรัพย์สินที่มีเธอมีอยู่จริงๆ อาจจะไม่ถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์นั่นเอง
คนถัดไปคือ John Collison อายุ 29 ปี มีทรัพย์สินรวม 3.2 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท! ซึ่ง John เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Stripe สตาร์ทอัพด้านการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ 💸🖥️
John Collison, Founder of Stripe. ที่มาของภาพ: https://enewspaper.latimes.com/infinity/article_share.aspx?guid=292f046d-5e09-43b1-8493-3b2e7644d95d
ในวัย 24 ปี John ร่วมมือกับพี่ชายของเขา Patrick Collison (26 ปี) ในการก่อตั้งบริษัท ซึ่งพี่ชายของเขาเองก็มีทรัพย์สินกว่า 1 แสนล้านบาทเช่นเดียวกัน แต่ในปัจจุบันพี่ชายของเขาอายุเกิน 31 ปีแล้ว จึงทำให้หลุดโผนี้ไปนั่นเอง 😅
John และ Patrick เป็นสองพี่น้องชาวไอร์แลนด์ที่เริ่มทำธุรกิจนี้โดยมีความตั้งใจที่จะสร้างวิธีการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่ง่ายขึ้นกว่าในอดีต Stripe จึงเป็นระบบตัวกลางที่ใช้รับเงินจากลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ซึ่งมีการทำงานคล้ายกับระบบของ Paypal แต่ลูกค้าสามารถดำเนินการได้ง่ายกว่าแถมยังมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการที่ถูกกว่าอีกด้วย
ภายหลังได้มีบริษัทชั้นนำของอเมริกาหลายแห่งหันมาใช้ Stripe เพื่อเป็นตัวกลางในการตัดบัตรเครดิต เช่น TED, Shopify,Twitter หรือ Lyft รวมไปถึงการเข้าไปร่วมมือกับบริการของ Apple Pay ของ Apple และ AliPay บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเงินของ Alibaba ในการตัดเงินจากบัตรของผู้ใช้บริการ
1
นอกจากนั้น Stripe ยังได้รับเงินสนับสนุนจากนักลงทุนชื่อดังมากมาย เช่น Peter Thiel และ Elon Musk ทำให้ตอนนี้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.1 แสนล้านบาท
1
คนสุดท้าย Evan Spiegel ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นชื่อดัง Snapchat ปัจจุบันเขาอายุ 29 ปี และมีทรัพย์สินรวมกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท 💬
Evan Spiegel, Founder of Snapchat. ที่มาของภาพ https://www.ceochannels.com/todaynews/ceo-profile-evan-spiegel/
Evan ร่วมมือกับรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่ที่ Stanford เพื่อสร้างแอปพลิเคชั่น Snapchat ขึ้นมาในปี 2011 ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นคือ Bobby Murphy ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 31 ปีและมีทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นล้านบาทเช่นเดียวกัน
Snapchat เป็นแอปพลิเคชั่นพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักที่โด่งดังมากๆในหมู่วัยรุ่นชาวอเมริกัน ซึ่งความแตกต่างระหว่าง Snapchat และแอปพลิเคชั่นพูดคุยอื่นๆก็คือ ข้อความที่ผู้ส่งได้ส่งไปยังอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปภาพ หรือวิดีโอสั้นๆจะถูกลบทันที (หรือครบเวลาที่กำหนด) เมื่ออีกฝ่ายได้ทำการเปิดอ่าน ซึ่งปัจจุบัน Messenger ของ Facebook ก็ได้นำฟังก์ชั่นนี้ไปใช้ในโหมดข้อความลับนั่นเอง
1
นอกจากนั้นแล้ว Snapchat ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย อย่างเช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้อื่นทำการ Capture ภาพของเรา หรือ My Story ที่ผู้ใช้สามารถโพสต์วิดีโอซึ่งจะหายไปเมื่อครบ 1 วัน (ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่ Facebook และ Instagram ได้เอาไปใช้อีกเช่นเคย)
Snapchat ถือเป็นแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงมากจนทั้ง Google และ Facebook ตัดสินใจยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการ แต่ทว่า Evan ก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากทั้งสองบริษัทไป ซึ่ง Facebook เคยเสนอเงินให้กว่า 3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2013 และในปี 2016 ทางฝ่าย Google เองก็ได้ให้ข้อเสนอแก่ Evan ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียว 😯
1
จากการจัดลำดับของ Forbes ในปัจจุบันหรือปี 2020 นี้ Kylie Jenner, John Collison และ Evan Spiegel ถือเป็นมนุษย์โลกอายุต่ำกว่า 30 ปี เพียงสามคนที่มีเงินมากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์หรือสามหมื่นล้านบาทโดยการสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งประเด็นของ Kylie ก็อาจจะส่งผลให้เธอถูกตัดชื่อออกจากมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ และ John Collison กับ Evan Spiegel ก็กำลังจะมีอายุมากกว่า 30 ปีในอีกไม่ช้า จึงเป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่าในอนาคต โลกของเราจะมีมหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยกว่า 30 ปีที่สร้างธุรกิจด้วยตัวเองอีกหรือไม่ !? 🤔
2
😁😁😁 ขอขอบคุณสำหรับการติดตามครับ หากผู้อ่านท่านใดสนใจบทความเกี่ยวกับโลกธุรกิจน่ารู้ หุ้น ข้อมูลบริษัท หรือความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ต่างๆ ท่านสามารถติดตามได้ทางเพจ "StonkBoy - โลกธุรกิจน่ารู้" ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ Blockdit ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และพร้อมรับฟังคำแนะนำต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงงานเขียนในลำดับต่อไปครับ 😁😁😁

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา