3 มิ.ย. 2020 เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์
10 อันดับสุดยอดมังกรในตำนานโบราณ สิ่งมีชีวิตมายา ที่ถูกกล่าวถึงในทุกตำนานต่าง ๆ ทั่วโลก
หากจะให้ทุกคนยกตัวอย่างสายพันธุ์ของสัตว์ในตำนานขึ้นมาแล้วละก็ "มังกร" คงเป็นตัวชื่อหนึ่งที่ต้องผุดขึ้นมาในหัวของใครหลาย ๆ คนเป็นแน่แท้ เพราะมันคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกกล่าวขานว่ามีทั้งพละกำลัง ความสง่างาม น่าเกรงขาม ทรงฤทธานุภาพ จนมีตำนานของเหล่ามังกรปรากฏอยู่แทบทั่วโลก เหมือนกับว่าตัวตนของมันนั้นมีอยู่จริง แต่กลับไม่เคยมีผู้ใดเคยพบ หรือเคยเจอตัวจริงของมันแต่อย่างใด
มังกรถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนเป็นสิ่งมีชีวิต 2 กลุ่มใหญ่ ๆ นั้นก็คือ
1. กลุ่มที่มีรูปร่างคล้ายกับงู
2. กลุ่มที่มีรูปร่างคล้ายกับกิ้งก่าและมีปีกแบบค้างคาว
โดยส่วนมากเผ่าพันธุ์ที่เหมือนกับงูจะถูกกล่าวถึงมากกว่าในตำนานฝั่งตะวันออก (เอเชีย) และเผ่าพันธุ์ที่เหมือนกับกิ้งก่าจะถูกกล่าวถึงมากว่าในตำนานฝั่งตะวันตก (ยุโรป)
3
โดยที่มังกรของฟากตะวันออกนั้นจะมีลักษณะเป็นงูตัวใหญ่ ซึ่งเกิดจากการผสมของสัตว์หลายชนิดรวมไปถึงนาคในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เช่นกัน (งู, สิงโต, กวาง, ปลา, ฯลฯ) แต่ส่วนมังกรของฟากตะวันตกจะมีลักษณะคล้ายกิ้งก่ามีปีกค้างคาว และมี 4 เท้า บางที่ก็มีแต่ 2 ขาส่วนแขน 2 ข้างจะเป็นปีก เรียกว่าแบ่งกันง่ายๆ ว่ามังกรตะวันออกกับมังกรตะวันตก
2
นอกจากความแตกต่างทางกายภาพแล้ว มังกรของฝั่งตะวันออกและตะวันตกยังถูกนิยามให้ความหมายในการมีอยู่แตกต่างกันอีกด้วย โดยความเชื่อ มังกรตะวันออกเป็นตัวแทนของ "เทพเจ้า เทวดา สวรรค์ เซียน ความดีงาม ความโชคดี สิริมงคล ให้โชคลาภแก่ผู้คน ส่วนมังกรตะวันตกเป็นตัวแทนของ "ซาตาน ปีศาจ ความชั่วร้าย ความโชคร้าย นรกภูมิ ผู้ต่อต้านศาสนา อริของพระเจ้า เป็นต้น
และวันนี้ทางเพจ สารคดี สารคดี Mystic & History ก็ได้รวบรวม 10 สุดยอดของมังกรที่ถูกกล่าวถึงในตำนานต่าง ๆ ทั่วโลก มาให้ท่านผู้ชมได้อ่าน ดังนี้
อันดับ 10 เซินหลง (Shenlong)
2
เทพเจ้ามังกรจากตำนานจีนโบราณ กล่าวกันว่าเซินหลงเป็นหนึ่งในด้าน
เรียกพายุลมและฝน เซินหลงนั้นมีพลังเทียบเท่ากับเทียนหลง (Tianlong) มังกรสวรรค์ เราจะเห็นเซินหลงได้บ่อยครั้งในการ์ตูนซีรี่ส์ชื่อดัง
อย่าง Dragons Ball
2
อันดับที่ 9 ริวจิน (Ryujin)
3
เทพเจ้ามังกรจากตำนานญี่ปุ่น ถูกจัดอยู่ในประเภท Anthropomorphic Dragon (ร่างจำแลงของเทพ) เนื่องจากริวจิน (บางตำนานเรียกริวโอ) สามารถจำแลงกายอยู่ในรูปร่างของมนุษย์ได้
ตำนานกล่าวว่าริวจินเป็นผู้ปกครองท้องทะเล อาศัยอยู่ในโลกใต้บาดาล (วังมังกร) ซึ่งวังใต้ทะเลนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยปะการังแดงและขาว ริวจินนั้นสามารถควบคุมคลื่นทะเลได้ด้วย kanju อัญมณีคลื่นทะเล บรรดาเต่าทะเล ปลาและแมงกระพรุนเป็นดั่งบริวารของริวจิน บางตำนานกล่าวว่า ริวจินคือเทพวาตะสึมิ (Watatsumi) เทพผู้พิทักษ์ท้องทะเล
อันดับที่ 8 บลูเบน (Blue Ben)
มังกรน้ำจากอังกฤษ เรื่องเกี่ยวกับเจ้าบลูเบนนั้นมีเยอะมาก แต่เรื่องที่ถูกล่าวถึงมาที่สุดคือบลูเบนนั้นอาศัยอยู่ในถ้ำแนวชายฝั่ง Somerset มันชอบมาดำผุดดำว่ายอยู่แถวนั้นเพื่อลดความร้อนที่จมูกและลำคอ เพราะลมหายใจของมันเป็นเพลิงร้อนระอุ วันหนึ่งในขณะที่บลูเบนทำกิจวัตรประจำวัน ปีศาจตนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพยายามจับกุมบลูเบน
หลังจับกุมสำเร็จปีศาจได้นำบลูเบนมาเป็นพาหนะ แล้วใช้ให้บินฝ่าเพลิงนรก หลังจากความทุกข์ทรมาณ บลูเบนหลบหนีสำเร็จ มันกลับมายังถ้ำของตนเองที่ชายฝั่ง Somerset อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
แต่ทว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของบลูเบนนั้นผิดพลาด เพราะความร้อนจากไฟนรกที่ติดตัวเขามา พร้อมๆกับความเหนื่อยล้าแสนสาหัสของร่างกายหลังจากถูกใช้ให้พ่นไฟติดต่อกันอย่างยาวนาน ความร้อนจากบลูเบนทำให้ดินตามผนังถ้ำชายฝั่งหลอมละลาย ถล่มลงมากลายเป็นลาวาปกคลุมและฝังร่างบลูเบนเอาไว้ตลอดกาล
2
อันดับที่ 7 นิคฮอค (Nidhogg)
มังกรจากตำนานนอร์ส นิคฮอค มังกรประเภท Serpent ผู้กัดกินรากของต้น Yggdrasil (พฤกษาแห่งโลก) ใน Prose Edda กล่าวว่าที่นิคฮอคกัดกินรากต้นอิกดราซิลเพราะว่ารากของตันไม้กักขังมันไว้ ไม่ให้มันขึ้นมาบนโลก ในตำนานทั่วไปกล่าวว่านิคฮอคต้องการทำลายอิกดราซิลเพียงเท่านั้น โดยรากของอิกราซิลนั้นอยู่ลึกลงไปยัง Niflheimr (นิลฟ์เฮล์ม = นรกภูมิ) ซึ่งบนต้นอิคกราซิลมีกระรอกตัวหนึ่งชื่อ Ratatoskr รับหน้าที่เป็นผู้ส่งสารคำด่าทอ เย้ยหยัน ระหว่างพญาอินทรีบนยอดต้นอิกดราซิล ถึงนิคฮอคที่รากของอิกดราซิลอยู่เสมอ แม้ว่ามันจะถูกกักขังอยู่อย่างนี้ แต่วันใดก็ตามที่นิคฮอคกัดกินรากของอิกดราซิลจนหมดแล้วละก็ มันก็จะทำให้โลกเดินทางถึงวัน Ragnarok วันที่โลกทั้ง 6 ก็จะถึงจุดจบตามตำนานของนอร์สนั้นเอง
1
อันดับที่ 6 ยอร์มุนกานดร์ (Jormungand)
1
อีกหนึ่งมังกรประเภท Serpent จากตำนานนอร์สเช่นเดียวกับเจ้านิคฮอค โดยตำนานกล่าวว่ายอร์มุนกานดร์เป็นลูกชายของโลกิกับแองเกอร์โบดา และเป็นหนึ่งในมังกรตัวสำคัญที่จะทำให้เกิดวัน Ragnarok ตามคำทำนาย และยังมีคำทำนายที่ว่า ยอร์มุนกานดร์ จะเป็นผู้สังหารเทพธอร์ด้วยพิษอันร้ายกาจของมัน
1
เพราะอย่างนั้นเจ้ายอร์มุนกานดร์จึงถูกเทพโอดินโยนลงทะเลแห่งมิดการ์ด จนวันเวลาผ่านไป ยอร์มุนกานดร์ก็ตัวใหญ่ขึ้นจนโอบรัดโลกทั้งใบได้ จนสุดท้ายเทพธอร์ก็ต้องลงมาจากแอสการ์ดเพื่อสู้กับมันในที่สุด
อันดับที่ 5 ลาดอน (Ladon)
1
เจ้ามังกรร้อยหัวจากตำนานกรีก มันอาศัยอยู่ในสวนแห่ง Hesperides และทำหน้าที่ปกป้องต้นแอปเปิ้ลทองคำ ลาดอนถูกสังหารโดยเฮอร์คิวลีส ซึ่งเฮอร์คิวลีสใช้ปลายธนูเคลือบพิษ ทำให้ลาดอนอ่อนกำลังจนเขาสามารถฆ่ามันได้ในที่สุด หลังจากที่ลาดอนตายไป เทพีเฮร่าได้นำลาดอนขึ้นไปเป็นดวงดาวบนท้องฟ้า (constellation Draco) และตอนนี้มันคอยปกป้อง Polaris ดาวเหนือดั่งที่เคยได้ปกป้องต้นแอปเปิ้ลมาก่อน เป็นรางวัลอันยุติธรรมสำหรับผู้พิทักษ์อันยอดเยี่ยม
3
อันดับที่ 4 ไฮดรา (Hydra)
อีกหนึ่งมังกรจากตำนานกรีก ไฮดร้ามังกรผู้อาศัยอยู่ในทะเลสาบ Lerna เป็นลูกของไทฟอนและอีดิคน่า ซึ่งมันมีหัวมากเกินกว่าที่จะสามารถวาดทั้งหมดไหว ตำนานกล่าวว่าหากตัดหนึ่งหัว จะงอกขึ้นมาใหม่เป็นสอง แถมยังมีพิษร้ายกาจ แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถกำจัดมันลงได้ จนกระทั้งเฮอร์คิวลิสได้มาต่อสู้กับเจ้าไฮดรา แผนการฆ่าไฮดราก็คือ เมือเฮอร์คิวลิสตัดคอหัวของไฮดราได้ Iolaus จะนำไฟมาเผาที่หัวมัน หัวใหม่ของไฮดราจะได้ไม่เกิดขึ้นมาอีก (บ้างว่าอาธีนาเป็นผู้มาบอกวิธีนี้ให้กับเฮอร์คิวลิส)
วิธีใหม่ดำเนินไปด้วยอย่างดี จนไฮดราเหลือเพียงหัวเดียว เฮอร์คิวลิสกำลังจะเผด็จศึกมันด้วยดาบ แต่ปรากฏว่าเฮราได้ส่งปูยักษ์เข้ามาสู้กับเฮอร์คิวลิสเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เฮอร์คิวลิสกระทืบปูตัวดังกล่าวจนตายด้วยเท้าของเขา หลังจากนั้นเขาจึงเข้าตัดศีรษะของไฮดราด้วยดาบทองคำที่อาธีนามอบให้ ทำให้ตัวไฮดราถูกสังหารได้ในที่สุด
เฮอร์คิวลิสเห็นว่าเลือดของไฮดรามีอานุภาพมาก เขาจึงจุ่มลูกธนูของเขาลงไปที่เลือดของมัน เพื่อที่จะเก็บไว้ใช้เป็นอาวุธในภายภาคหน้าด้วย
อันดับที่ 3 ลิเวียธาน (Leviathan)
ลีไวอาธัน หรือ ลีไวอาซัน มาจากตำนานของพวกฮิบริว เป็นมังกรที่มาจากทะเลลึก มีลำตัวยาว ขนาดใหญ่ ศีรษะยาว ฟันแหลมคม ส่วนใหญ่ที่พบไม่มีเขา มีปีกที่กลางลำตัว(ออกไปทางครีบนิดๆ) นัยน์ตาดุร้าย เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเวทย์ร้ายกาจมาก ใช้มนต์ได้ เป็นสัตว์ที่ควบคุมผืนน้ำท้องทะเล บางที่เชื่อว่าควบคุมฤดูฝน เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดพายุครั้งใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์ เนื่องจากชอบอยู่อย่างสันโดษ บางคนนับว่าเป็นจ้าวแห่งมังกรของผืนน้ำ
สามารถพ่นไฟได้ และแม้เพียงหายใจก็มีควันคุกรุ่นออกมาเหมือนหม้อเดือด เนื้อหนังมังสาที่อยู่ภายใต้เกล็ดแกร่งนั้นเล่าก็หล่อติดกันแน่น จนไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ อีกทั้งช่วงล่าง (หรือคงเป็นช่วงท้อง) ก็มีสภาพเป็นเกล็ดแหลมคม อาวุธต่างๆ ไม่สามารถสร้างความเสียหายและระคายเคือง อีกทั้งหัวใจยังแข็งแกร่งเหมือนแท่นโม่หิน
อันดับที่ 2 เควตทาโคล์ต (Quetzalcoatl)
เทพมังกรจาก Aztec (แอซเท็ก ค.ศ. 1325–ค.ศ. 1521) เทพผู้สร้างอยู่ในร่างของมังกรประเภท Serpent ประดับร่างด้วยขนสีสดใสและมีลำตัวเป็นม้วนขด
ตำนานกล่าวว่าเควตทาโคล์ตกระหายเลือดจากการบูชายันของมนุษย์ และยังเป็นเทพผู้ช่วยเหลือเป็นมิตรและเป็นผู้สร้างประโยชน์ให้มนุษย์
เควตทาโคล์ตเป็นผู้นำข้าว เข้าโพด สร้างความอุดมสมบรูณ์และสภาพอากาศที่ดี แต่หลังจากที่ถูกหลอกลวงโดยเทพ Tezcatlipoca ทำให้เควตทาโคล์ตต้องพบจุดจบ ตำนานหนึ่งกล่าวว่าเขาเผาร่างตนเองจนตายหลังโดนหลอกลวงด้วยความเจ็บปวดใจ อีกตำนานกล่าวว่าเขาเร้นกายหนีหายไปยังทิศตะวันออกและสัญญาว่าจะกลับมาในสักวัน ซึ่งตำนานนี้อาจมีเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของจักรวรรดิแอสเท็กหลังถูกพิชิตโดยกลุ่มชาวสเปน
นดับที่ 1 เทียแมท (Tiamat)
ในเทวตำนานโบราณของบาบิโลเนีย เทียแมท คือมังกรเพศเมียขนาดยักษ์ เป็นสัญลักษณ์ของมหาสมุทร เป็นมารดาแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งมวลรวมถึงเหล่าเทพทั้งมวล
เทียแมทมีคู่ครองคืออัปซู (Apsu) สัญลักษณ์ของน้ำจืด ซึ่งอาศัยอยู่ใต้โลก ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดเทพคู่แรกของโลกลัคมู (Lachmu) และลัคคามู (Lachamu) ซึ่งต่อมาเทพทั้ง 2 นี้ได้ให้กำเนิด อันซาร์ (Ansar) และ คีซาร์ (Kisar) ต่อมาอันซาร์และคีซาร์ก็ได้ให้กำเนิด อานู (Anu) ราชาแห่งเหล่าทวยเทพ และ เออา (Ea) เทพวิทยาการทั้งมวล และเออา กับเทพมารดาแดมคีนา (Damkina) ก็ได้ให้กำเนิดมาร์ดุค (Marduk) เทพผู้รังสรรค์จักรวาล เทพผู้สร้างมวลมนุษย์ เทพแห่งแสงและชีวิต และฉายาอื่นๆอีกมากกว่า 50 ชื่อ
1
เทียแมทและอัปซูวางแผนที่จะทำลายลูกหลานของพวกตนทั้งหมด แต่เออาล่วงรู้แผนการนี้ จึงมาสังหารอัปซูเสียในตอนที่กำลังหลับอยู่ เมื่อเทียแมทรู้ว่าอัปซูถูกสังหารนางก็โกรธจนบ้าคลั่ง สร้างกองทัพสัตว์ประหลาดขึ้นมาเพื่อแก้แค้นให้กับอัปซู กองทัพสัตว์ประหลาดนี้นำทัพโดย คิงกุ (Kingu) ผู้เป็นทั้งบุตรชาย และสามีคนที่ 2 ของนางด้วย แต่สุดท้ายทั้งเทียแมทและคิงกุก็ถูกมาร์ดุคสังหาร
1
จากนั้นมาร์ดุคก็ได้ แบ่งร่างของเทียแมทออกเป็น 2 ส่วน
- ร่างท่อนบนถูกนำไปสร้างท้องฟ้า
- ร่างท่อนล่างถูกนำไปสร้างผืนดิน
- เลือดกลายเป็นก้อนเมฆ
- น้ำตาของนางก่อเกิดแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส
1
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
โฆษณา