3 มิ.ย. 2020 เวลา 06:02 • ความคิดเห็น
เหรียญมีสองด้านเสมอ ภาพการประท้วงอย่างสันติ ที่คุณจะไม่ได้เห็นจากสื่อไหน
ผมได้มีโอกาสฟังบทสัมภาษณ์ของคนไทยที่ไปศึกษาอยู่อเมริกา และได้ฟังหลายๆบทสัมภาษณ์ของคนอเมริกัน ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ผมอยากจะนำเสนอแก่ท่านผู้อ่าน
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอเมริกา เป็นเพียงแค่ในบางจุดเท่านั้น ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ประท้วงแบบสันติ มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ประท้วงด้วยความรุนแรง ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีแต่ประชาชนหรือจะมีกลุ่มต่างๆแอบแฝงเข้ามาใช้ความรุนแรงในครั้งนี้ด้วย
คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมเลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เกิดมาบ่อยครั้งในสหรัฐ และที่แย่กว่านั้นคือคนผิดไม่ได้รับโทษเท่าที่ควรจะเป็น เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายของความอดทนในหลายๆเรื่อง
มีคนบางกลุ่มเลือกที่จะใช้ความรุนแรงเพราะคิดว่าการใช้ความรุนแรงจะเป็นวิธีซึ่งนำมาสู่ความเท่าเทียม การใช้ความรุนแรงเป็นเพียง การทำให้ผู้มีอำนาจสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ามันมี”Impact”นะหากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก ความรุนแรงและการจราจลก็ตามมา อย่างนั้นผู้นำต้องแก้ปัญหาไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก หากเกิดขึ้นมาอีกผลกระทบที่ตามมาก็คือความรุนแรงเหมือนในปัจจุบันหรืออาจจะมากกว่าก็เป็นได้
คนที่ใช้ความรุนแรง มีความเชื่อที่ว่าการประท้วงอย่างสันตินั้น จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เหมือนในอดีตที่เกิดขึ้นการใช้ความรุนแรงสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
เกิดการ”จราจล” ในสหรัฐ มีคนฉวยโอกาสครั้งนี้เข้าไปขโมยของจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ (ห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ส่วนใหญ่แล้วจะมีประกันคุ้มครอง) คนสหรัฐบางกลุ่มเชื่อว่ามีการผูกขาดการค้าในสหรัฐ คนเหล่านี้จึงเชื่อเรื่องความไม่เท่าเทียม มีความรู้สึกอยากจะเอาคืน(ขโมยของ)
เรื่องที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวผมคิดว่าการชุมนุมอาจจะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ หากไม่มีกลุ่มไหนแอบแฝงเข้าชุมนุมประท้วงกับประชาชนเพื่อก่อความไม่สงบ จะเป็นการทำให้การประท้วงรุนแรงขึ้นไปอีก เรื่องที่เกิดขึ้นการจัดการยังอยู่แค่ในระดับ รัฐ หรือในท้องถิ่นเท่านั้น เรื่องยังไม่ได้เข้าไปถึงรัฐบาลกลาง มีเพียงทรัมป์ที่ออกมาพูดผ่าน Twitter เติมเชื้อเพลิงเรื่อยๆเท่านั้น
Biden อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐ
เรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในพฤศจิกายนปลายปีนี้
การหาเสียงที่ผิดพลาดของคู่แข่ง ทรัมป์ อย่าง โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ไบเดน เคยกล่าวกับชายผิวดำ ครั้งหนึ่งว่า”หากคุณไม่เลือกผม คุณก็ไม่ใช่คนอเมริกัน” เรื่องนี้ทำให้ผู้คนไม่พอใจอย่างมาก กับคำพูดของ ไบเดน ที่ไม่ได้ดูแตกต่างจากทรัมป์เท่าไหร่ ต้องยอมรับว่าทรัมป์มีฐานเสียงส่วนหนึ่งจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมอยู่แล้ว ไม่ว่าทรัมป์จะทำอะไรที่ดูเสียหายก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะสนับสนุน ทรัมป์ อย่างเต็มที่
ภาพการประท้วงอย่างสันติ ในสหรัฐ มีการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก
การประท้วงอย่างสันติ ในสหรัฐ คนบางกลุ่มเชื่อว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของปัญหา ทางออกของปัญหาคือการประท้วงอย่างสันติ การประท้วงอย่างสันติ อาจจะไม่ได้เห็นผลในเร็ววันข้างหน้า แต่มันจะเป็นเหมือนกับพลังเงียบที่เก็บสั่งสมมาหลายปีถึงจะเห็นผล
การประท้วงในปัจจุบันไม่ใช่การเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ Floyd อย่างเดียวแต่ยังรวมไปถึงการเรียกร้องความยุติธรรมความเท่าเทียม สิทธิเสรีภาพ ให้กับคนผิวสี
ล่าสุดน้องชายของ Floyd ขอให้ผู้ประท้วง ประท้วงอย่างสันติ และกล่าวว่า พี่ชายของเขาไม่ต้องการให้มีการประท้วงรุนแรง และขอร้องผู้ประท้วงให้ประท้วงกันอย่างสันติ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
ตำรวจคุกเข่าต่อหน้าผู้ประท้วง เพื่อแสดงสัญลักษณ์การต่อต้านการเหยียดสีผิว
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จะจบอย่างไร สิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริงไหม ผมคงตอบไม่ได้ แต่ผู้คนจะตระหนักในเรื่องการเหยียดสีผิวมากขึ้นแน่นอน ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นในที่ไหนในโลก
คลิปวีดีโอผู้ประท้วงอย่างสันติกำลังเต้นรำเพื่อต่อต้านการเหยียดผิว https://twitter.com/frostytheskid/status/1266844355148632064?s=21
คลิปวีดีโอผู้ประท้วงแซวตำรวจเรื่องโล่ป้องกัน
หากผู้อ่านชื่นชอบบทความ อย่าลืม กด like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจดีๆสำหรับผู้เขียนด้วยนะครับ สามารถ Comments แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา