3 มิ.ย. 2020 เวลา 14:30 • ปรัชญา
# กาแฟบนกำแพง
1
เพราะคนเราต่างอยากมีช่วงเวลาแห่งความสุขกันทั้งนั้น อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
วันหยุดที่แสนวิเศษ
เย็นวันหนึ่ง ในขณะที่ แอมมิลี่ กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟชื่อดังกับเพื่อนสาวของเธอ ในเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงไหลอย่าง เวนิส ประเทศอิตาลี
ซึ่งในระหว่างที่พวกเธอกำลังเพลิดเพลินกับรสชาติของกาแฟ และบรรยากาศรอบตัวอยู่นั้นเอง ชายชราคนหนึ่ง ก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะว่างข้าง ๆ พวกเธอ
หลังจากที่เขานั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็เรียกบริกรให้มาหา แล้วก็สั่งบริกรคนนั้นไปว่า “ผมขอกาแฟสองแก้ว หนึ่งแก้วสำหรับกำแพงครับ”
ความแปลกของที่แห่งนี้
เมื่อได้ฟังแบบนั้น แอมมิลี่ ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งในตอนที่บริกรเดินมาเสิร์ฟ เขากับยกกาแฟมาเสิร์ฟให้เพียงแค่แก้วเดียวเท่านั้น
แต่ในตอนที่จ่ายเงิน ชายชราคนนั้น กับจ่ายเงินให้กับทางร้านในราคาสองแก้ว มากไปกว่านั้น หลังจากที่ชายคนนั้นเดินจากไป บริกรก็นำกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่เขียนระบุไว้ว่า “กาแฟหนึ่งแก้ว” ไปแปะไว้ที่กำแพง
แล้วก็กลับมาทำงานตามปกติ ด้วยความสงสัย แอมมิลี่ และเพื่อนของเธอจึงนั่งสังเกตการณ์ต่อไป
สังเกตการณ์
จนกระทั่ง ชายสองคนเดินเข้ามาภายในร้าน แล้วเขาก็สั่งกับบริกรไปว่า “กาแฟสามแก้ว หนึ่งแก้วสำหรับกำแพง”
หลังจากที่สั่งเสร็จ บริกรก็นำกาแฟมาเสิร์ฟให้พวกเขาเพียงแค่สองแก้วเท่านั้น แต่เวลาคิดเงิน พวกเขากับจ่ายเงินในราคาเท่ากับกาแฟสามแก้ว
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เมื่อทั้งสองคนนั้นเดินออกจากร้านไป บริกรก็นำกระดาษที่เขียนคำว่า “กาแฟหนึ่งแก้ว” ไปแปะไว้บนกำแพงอีกเช่นเคย
กำแพงปริศนา
ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด และใกล้จะค่ำ แอมมิลี่ จึงตัดสินใจที่จะคิดเงิน แล้วเดินออกจากร้านไป โดยเธอก็ยังคงมีข้อสงสัยมากมาย กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
จึงเป็นเหตุให้หลังจากนั้นสามวันต่อมา เธอจึงเดินทางกลับมาที่ร้านนี้อีกครั้ง
หลังจากที่เธอสั่งออเดอร์เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็นั่งเพลิดเพลินกับรสชาติ และซึมซับบรรยากาศข้างทางที่สวยงามอีกครั้ง
ความอยากรู้อยากเห็น
โดยในหัวของเธอก็ยังคงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อ 3 วันที่แล้วอย่างไม่เคยลืมเลือน และด้วยข้อสงสัยที่มากมาย เธอจึงตัดสินใจที่จะถามบริกรเพื่อใขข้อสงสัยให้ได้
1
แต่ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาภายในร้าน เขาแต่งตัวด้วยชุดที่โทรมมาก และดูท่าทางสกปรก อีกทั้งเนื้อตัวก็ดูซูบผอมคล้ายคนไร้บ้านที่เธอเพิ่งเห็นในระหว่างทางที่เดินผ่านมา
ซึ่งหลังจากที่เขามาถึง เขาก็นั่งดูกำแพงที่เต็มไปด้วยกระดาษอยู่นานสองนาน ราวกับว่าเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดกับบริกรขึ้นมาว่า “ผมขอกาแฟ จากกำแพงหนึ่งแก้วครับ”
สิ่งที่แตกต่าง
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น บริกรก็นำกาแฟมาเสิร์ฟให้เขาด้วยความสุภาพเรียบร้อย อีกทั้งยังบริการ ชายคนนั้นเหมือนกับลูกค้าคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ในร้านอย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย
แต่หลังจากที่เขาดื่มกาแฟเสร็จ ชายคนนั้นกลับลุกออกไปจากร้าน โดยที่ไม่จ่ายเงินเลยแม้แต่สตางค์เดียวนอกจากนั่น บริกรที่ให้บริการเขา ก็ยังไม่คิดที่จะไปทวงหรือไล่ตามจับ แต่เขากลับทำเพียงแค่ เก็บโต๊ะ เช็ดทำความสะอาดแล้วเดินไปที่กำแพง
จากนั้นก็ดึงกระดาษที่เขียนคำว่า “กาแฟหนึ่งแก้ว” ออกจากกำแพงหนึ่งใบ แล้วโยนกระดาษนั้นทิ้งลงถังขยะไป
ทิ้งลงถัง
ด้วยเหตุนี้ แอมมิลี่ จึงเข้าใจได้ในทันทีว่า “แท้จริงแล้วกาแฟ อาจจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงสำหรับคนในร้านนี้ แต่เป็นกำแพงนั้น ที่มอบความสุขให้กับผู้คน เนื่องจากว่า ทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน
พวกเขาเหล่านั้น ก็สามารถเข้ามาดื่มกาแฟได้ โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอร้อง หรือต้องคอยระแวดระวังสายตาที่จับจ้อง ดูถูกเหยียดหยาม เขาเพียงแค่ต้องสั่งกาแฟเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แล้วเพลิดเพลินกับชีวิตตลอดการนั่งภายในร้านให้เต็มที แล้วก็เดินจากไปเหมือนคนอื่น ๆ เท่านั้น”
1
แอมิลี่ นึกคิดพร้อมจ้องมองไปยังกำแพง ที่เต็มไปด้วยกระดาษที่มีข้อความระบุไว้ว่า “กาแฟหนึ่งแก้ว”
จากนั้นเธอก็ยิ้มแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “นี้คงจะเป็นกำแพงที่สวยที่สุดในโลกสินะ”
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณทำได้จงช่วยผู้อื่น แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ อย่างน้อยก็จงอย่าทำลายผู้อื่น”
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา