6 มิ.ย. 2020 เวลา 09:33 • บันเทิง
Movie Review : The Invisible Man มนุษย์ล่องหน
ได้โอกาสกลับเข้าสู่โรงภาพยนตร์อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ต้องบอกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปพอสมควร สำหรับเรื่อง The Invisible Man มนุษย์ล่องหน นั้น ถือเป็นหนังค้างเก่าที่รอเข้าตั้งแต่ช่วง COVID ซึ่งผมก็ได้เล็งเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว จึงถือโอกาสเข้าโรงภาพยนตร์ครั้งแรกหลัง COVID ด้วยเรื่องนี้
Movie Review : The Invisible Man มนุษย์ล่องหน
สำหรับ The Invisible Man นั้น เป็นเรื่องราวที่ กล่าวถึง เซซิเลีย แคสส์ (เอลิซาเบธ มอสส์) หญิงสาวที่มีความสัมพันธ์กับนักวิทยาศาสตร์ที่ทั้งร่ำรวยและฉลาดล้ำเลิศ แต่ความสัมพันธ์นี้มีทั้งความรุนแรงและเธอเป็นฝ่ายที่ถูกควบคุม
และแล้วในคืนอันเงียบสงัด คืนหนึง เธอจึงได้หนีออกมาและหลบซ่อนตัว โดยได้รับความช่วยเหลือจากน้องสาว (แฮร์เรียต ไดเออร์ จาก In Between), เพื่อนสมัยเด็ก (อัลดิส ฮอดจ์ จาก Straight Outta Compton) และลูกสาววัยรุ่นของเขา (สตอร์ม รีด จาก Euphoria)
เมื่อแฟนเก่าสุดเลวทรามของเซซิเลีย (โอลิเวอร์ แจ็คสัน-โคเฮน จาก The Haunting of Hill House) ตัดสินใจฆ่าตัวตาย และทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมากให้เธอ เซซิเลีย สงสัยว่าการตายของเขาเป็นเรื่องหลอกลวง
ในขณะที่เหตุการณ์อันน่าขนลุกกลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เกิดการขู่เอาชีวิตบุคคลที่เธอรัก เซซิเลียเริ่มเกิดอาการสติหลุด เธอพยายามพิสูจน์ว่าเธอถูกไล่ล่าจากใครบางคนที่ไม่มีใครเห็น
เจสัน บลัม กูรูผู้สร้างภาพยนตร์เขย่าขวัญในยุคปัจจุบัน รับหน้าที่อำนวยการสร้าง The Invisible Man ให้กับบลัมเฮาส์ โปรดักชั่นส์ The Invisible Man เขียนบทและกำกับโดย ลี วานเนลล์ หนึ่งในผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ Saw ซึ่งมีผลงานกำกับภาพยนตร์ Upgrade และ Insidious: Chapter 3.
เรียกได้ว่า เป็นหนังที่เล่นกับอารมณ์ของคนดูได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับ The Invisible Man เพราะแค่เปิดเรื่องมา มันก็เริ่มต้นด้วยปริศนา ที่ทำให้เราคอยติดตามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในบ้านหลังงามแห่งนั้น
ด้วยความที่เป็นหนังที่เล่นกับ ความไร้ตัวตนของตัวร้าย ทำให้ทุกฉากนั้น ทำให้เราก็ลุ้นตามไปตลอดว่า แฟนเก่าของ เซซิเลีย นั้น จะอยู่ในจุดใดของฉาก ซึ่งส่วนนี้ก็ทำให้หนัง ดูน่าระทึก คอยลุ้นไปตาม ๆ กัน เพราะเราไม่รู้เลยว่าตัวร้ายจะโผล่มาตอนไหนผ่านการล่องหนนั่นเอง
ผมค่อนข้างประทับใจกับผลงานของ ลี วานเนลล์ โดยเฉพาะใน Saw ภาค 3 ถือเป็นอีกหนึ่งหนังในดวงใจ และแน่นอนว่า เรื่องนี้ ก็จะได้กลิ่นอายสไตล์ของ ลี วานเนลล์ จากทั้งในเรื่อง Saw และ Insidious : Chapter 3 ที่เขาเป็นคนกำกับ
ต้องบอกว่าคนที่รับบทหนักสุดก็คือนางเองของเรื่องอย่าง เซซิเลีย แคสส์ (เอลิซาเบธ มอสส์) ที่เรียกได้ว่า เธอแบกรับหนังทั้งเรื่อง ที่ต้องแสดงสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ หวั่นวิตก แบบสุด ๆ เพราะไม่มีใครเชื่อเธอในเรื่องดังกล่าวที่อดีตแฟนของเธอนั้นล่องหนได้ และเธอก็ทำมันออกมาได้ดีมาก ๆ เสียด้วย เรียกว่าไม่ห่วงความสวยกันเลยทีเดียวสำหรับการแสดงของเธอในหนังเรื่องนี้
และสิ่งที่เพิ่มพลังให้เราลุ้นไปตลอดเรื่องของหนังเรื่องนี้คือ Sound Effect ที่อยู่เบื้องหลังนั่นเอง ต้องบอกว่าทำ Sound ออกมาได้ลุ้นระทึกมาก ๆ แม้บางทีจะใส่ Sound ที่เว่อร์เกินไปหน่อยก็ตามที แต่มันทำให้บรรยากาศของหนังมันดูน่าลุ้นเพิ่มมากขึ้น
1
คือเรื่องนี้ เป็นหนังที่ทุกคนดูได้ ไม่มีฉาก กระตุก เหมือนหนังผี หรือ หนังสยองขวัญ สั่นประสาทเรื่องอื่น ๆ เล่นกับความรู้สึกคนดูมากกว่า กับสิ่งที่มองไม่เห็น และมีปริศนาที่ค่อย ๆ คลี่คลายไปจนมีการหักมุมในตอนท้ายเรื่องได้อย่างน่าสนใจ
ถือว่า เป็นหนึ่งในหนังที่เป็นตัวเลือกที่ไม่มากนักในยุคหลัง COVID ที่โรงหนังเริ่มเปิดให้ชมกัน เพราะ ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นหนังเก่าซะส่วนใหญ่ เรื่องนี้ถือว่าไม่ผิดหวัง สำหรับแฟน ๆ หนังแนวนี้ก็ไม่ควรพลาดไปชมกันนะครับ แนะนำเลย
คะแนน รีวิว
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
=========================
โฆษณา