6 มิ.ย. 2020 เวลา 10:10
เรื่องราวของ ซาเดีย เจ้าสาวเด็ก...👰
ฉันชื่อ "ซาเดีย" และฉันเป็นเจ้าสาวเด็ก ตอนนี้ฉันอายุ 16 ปี ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ ในบังคลาเทศ ฉันแต่งงานตอนอายุ 14 ปี "สุมน" สามีของฉันมีอายุมากกว่าสี่ปี เรามีลูกสาววัยแปดเดือนชื่อ "ฮาบาบะ"
สามีของฉันเป็นชาวนา ครอบครัวของเขาย้ายมาที่นี่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากแต่งงานฉันต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา ก่อนแต่งงานฉันไม่รู้จักเขา และไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าเขามาก่อนด้วยซ้ำ...
ซาเดีย กับ ลูกสาวตัวน้อย
ออกจากโรงเรียน...
ฉันชอบไปโรงเรียน ชอบเรียนหนังสือโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ แต่ตอนที่ฉันเรียนอยู่เกรด 8 (ม.3) พ่อกับแม่ก็บอกว่าฉันต้องลาออกจากโรงเรียน ฉันทั้งตกใจและเสียใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
อีกแค่สองปีฉันก็จะเรียนจบ ฉันไม่อยากลาออกจากโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย เพราะฉันฝันว่าอยากจะเป็นครูเพื่อให้ความรู้กับเด็กๆ มันแย่มากนะที่ฉันต้องนั่งอยู่บ้านแล้วมองดูเพื่อนๆ ไปโรงเรียนกัน แต่ฉันก็ไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไรออกมา ฉันได้แต่ทำตามที่พ่อกับแม่อยากให้ทำ
#การแต่งงานตอนอายุ_14...
ฉันมารู้ว่าตัวเองกำลังจะแต่งงานเพียง 4-5 วันหลังจากที่ลาออกจากโรงเรียน ยายเป็นคนมาบอกกับฉันว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้สึกทั้งตกใจและเสียใจอย่างมาก แต่งงาน?? ฉันเนี่ยนะ?? คำถามเต็มหัวไปหมดในตอนนั้น แต่ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฉันกลัวมาก... ฉันกังวลเกี่ยวกับอนาคต ฉันจะอยู่ยังไง พวกเขาจะดีกับฉันมั้ย...
1
ฉันไม่เคยพบสามีเลยก่อนแต่งงาน แต่ทุกคนบอกว่าเขาเป็นคนดี เขามีงานทำไม่ได้เป็นคนชอบเที่ยวทำตัวเกเรไปวันๆ แต่การรับรู้เกี่ยวกับเขาไม่ได้ทำให้มันง่ายขึ้นเลยจริงๆ ทั้งหมดที่ฉันกังวลก็คือความเป็นอิสระที่จะต้องหมดไป ฉันทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งร้องไห้...
1
ฉันรู้สึกเครียดที่จะต้องแต่งงาน ยายซึ่งแต่งงานตั้งแต่ยังเด็กมากน่าจะอายุน้อยกว่าฉันซะอีกตอนที่ท่านแต่งงาน ยายพยายามเข้ามาพูดคุยปลอบใจ บอกว่าฉันจะต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวของตัวเอง ต้องดูแลสามและต้องดูแลครอบครัวของเขาให้ดี
ยายยังยังบอกฉันเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคืนวันแต่งงาน... (คืนเข้าหอ 😳)
ซาเดียกำลังเตรียมอาหารเย็น โดยมีสามีอุ้มลูกสาวให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ
#วันแต่งงานของฉัน...
6 วันต่อมาฉันก็แต่งงาน ในระหว่างพิธีฉันล้างทำความสะอาดและเอาใบสะระแหน่ใส่ในปากแล้วเคี้ยว (ทำความสะอาดช่องปาก) คนอื่นๆ เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ส่วนฉันได้แต่ยืนดูอยู่ตรงนั้น ฉันได้รับสร้อยข้อมือและห่วงจมูกแบบโบราณ
ในตอนนี้... ฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ฉันได้แต่ร้องไห้...
#พิธีแต่งงาน...
ในงานแต่งงานทุกคนยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงใหญ่ เพื่อต้อนรับครอบครัวของเจ้าบ่าว ในระหว่างงานเลี้ยงในขณะที่คนอื่นๆ กินอาหาร สามีของฉันและฉันถูกนำเข้าไปในบ้านเพื่อทำพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ เรานั่งถัดจากกันบนเตียงและเราก็กินข้าวและนมที่เตรียมไว้
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขา ฉันมองไปที่เขาและได้แต่สงสัยว่าฉันจะอยู่กับเขายังไง เขาจะดีกับฉันมั้ย... เราไม่ได้พูดอะไรกัน ครั้งแรกที่เราอยู่ด้วยกันคือ... คืนวันแต่งงาน
คำแรกที่เขาพูดกับฉันคือ... บอกให้ฉันหยุดร้องไห้
ตั้งครรภ์ลูกคนแรกในวัยเพียง 14 ปี...
ตอนนั้นฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การป้องกันหรืออะไรก็ตามเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ อีกสองสามเดือนต่อมาฉันก็ตั้งครรภ์... ในตอนแรกฉันเล่าให้พี่สาวฟังเกี่ยวกับอาการไม่สบาย รู้สึกมึนหัวและอาเจียนตลอดเวลา กินอะไรก็ไม่ได้ เธอเลยบอกว่า... ฉันกำลังตั้งครรภ์แน่ๆ
ต่อมายายได้ให้เงินฉันเพื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล พอไปถึงแพทย์บอกว่าฉันท้องได้สามเดือนครึ่งแล้ว ฉันรู้สึกอึ้ง ตกใจ และเครียดมาก ฉันเป็นแค่เด็กอายุ 14 ฉันจะทำหน้าที่แม่ได้ดีมั้ย ฉันจะเลี้ยงลูกเป็นรึเปล่า คำถามต่างๆ เต็มหัวไปหมด ฉันขอคำแนะนำจากพี่สาวหลายครั้งในช่วงเวลานี้ มันยากมากเพราะความคิดของฉันหมุนวนไปมาตลอดเวลา
ฉันแพ้ท้องหนักมาก ไม่สบายตลอดเวลา มันทรมานเหลือเกิน และฉันต้องหมดเงินไปกับการเทียวไปหาหมอ
3
ในช่วงท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ลูกไม่ดิ้น พอฉันรู้สึกว่าลูกไม่ดิ้นมาสองวันแล้วจึงให้แม่พาไปที่โรงพยาบาล พอไปถึงฉันรู้สึกตกใจมากเมื่อปรากฎว่าไม่มีน้ำคร่ำเหลืออยู่ พยาบาลบอกว่านี่ถ้าหากว่าฉันคลอดลูกที่บ้านตอนนี้ทั้งฉันและลูกคงจะไม่รอดแน่นอน
คลอดลูก...
แพทย์ได้แจ้งว่าการคลอดนี้มีความเสี่ยงสูงอาจจะมีคนรอดเพียงคนเดียวไม่แม่ก็ลูก ความคิดโหมกระหน่ำในหัวของฉันทันที ลูกจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีฉัน กลับกัน... ฉันจะมีชีวิตอยู่ยังไงหากไม่มีลูก ความคิดวนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น
ฉันบอกหมอว่ามันจะดีที่สุดถ้าพระเจ้าพาเราทั้งคู่ไปด้วยกัน...
ฮาบาบะเกิดจากการผ่าตัดคลอดที่โรงพยาบาลในวันนั้นและขอบคุณพระเจ้าพวกเราทั้งคู่รอดชีวิตมาได้...
ถึงแม้ว่าจะต้องมีครอบครัวและเป็นคุณแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เมื่อได้เห็นหน้าลูกเธอกลับคิดว่านี่คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต...
การปรับตัวกับชีวิตครอบครัว...
ฉันเริ่มคุ้นเคยกับชีวิตใหม่ ฉันมีหน้าที่เป็นภรรยาและแม่ แต่ฉันกังวลมากในตอนนี้... ฉันกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเงินของครอบครัว เรื่องสามี เรื่องลูก และงานบ้าน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ... ฉันกังวลว่าลูกสาวของฉันเองจะแต่งงานในวัยเด็กเหมือนกับฉัน
ในฐานะที่เป็นแม่ฉันได้แต่หวังว่าลูกสาวควรจะมีสิทธิเลือกทางเดินของชีวิตเธอเอง ไม่ต้องมาแต่งงานตอนอายุยังน้อย
ฉันอยากจะบอกว่าการแต่งงานวัยเด็กจะต้องหยุด และอยากจะบอกทุกคนเกี่ยวกับผลที่ตามมาในการแต่งงานตอนอายุยังน้อยนี้ ฉันอาจเสียชีวิตในวันที่คลอดลูก ไม่มีใครสมควรที่จะเจอแบบที่ฉันเจอมา...
ฉันเคยมีความฝันว่าซักกวันฉันจะเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือในสังคม ฉันฝันไว้ว่าจะทำงานหาเงินให้มากพอเราจะได้เลิกเป็นคนจนซักที พ่อแม่จะต้องมีความสุข แต่แล้ว... ความฝันนั้นมันก็สิ้นสุดลงเมื่อฉันต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาแต่งงาน...
เราไม่ได้มีแต่เรื่องสยองหรือคดีต่างๆ แต่เรื่องราวต่างๆ วัฒนธรรมประเพณีที่น่าสนใจก็มีให้อ่านกันนะคะ 😊
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
❤#แอดมิ้นท์#❤
โฆษณา