Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หุ้นพอร์ทระเบิด
•
ติดตาม
9 มิ.ย. 2020 เวลา 13:46 • ธุรกิจ
วิชา พูลวรลักษณ์
เจ้าพ่อโรงหนังไทยที่ยังคงยืนหยัดได้ในทุกๆวิกฤติ
หากจะพูดถึงผู้บริหารที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้งในการเปลื่ยนแปลงเพื่อเอาตัวรอดแล้วนั้น พวกเราทีมงาน หุ้นพอร์ทระเบิด ก็มีอยู่หนึ่งคนที่เราคิดว่าเพื่อนๆต้องอยากที่จะรู้จัก
เพราะตลอดชีวิตการทำงานของเขาที่ต้องเจอกับการแข่งขันและเปลื่ยนผ่านมาอย่างมากมายก็ได้ทำให้เทคนิคการ“ปรับตัว” ของผู้บริหารคนนี้
เรียกได้ว่าเขาผ่านมาตั้งแต่การ Disrupt แบบเก่าๆจนมาถึงยุค Digital disruption และตอนนี้ในวิกฤติ Covid-19 เขาก็ยังคงไม่หยุดที่จะคิดวิธีที่จะปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
และเขาคนนั้นก็คือ วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารของบมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หรือ MAJOR บริษัทที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนต์อันดับ 1 ของประเทศไทยในขณะนี้นั่นเองครับ
โดยที่ตระกูล “พูลวรลักษณ์” ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตระกูลที่เริ่มเดินทางสายภาพยนต์กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อเมื่อราวๆปีพ.ศ. 2504 ด้วยโรงหนังโรงแรกชื่อ “ศรีตลาดพลู” และหลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นมาจนทำให้ต่อมามีการจัดตั้งบจ. โก-บราเดอร์ ขึ้นมาและมีโรงหนังอยู่ในการบริหารถึง 50 แห่งทั่วกรุงเทพฯ
ถึงแม้รากฐานของคุณ วิชา จากการเป็นบุตรชายของคุณ จำเริญ พูลวรลักษณ์ จะถือว่ามีความแข็งแรงและได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ แต่เส้นทางของเขาก็ถือว่าไม่ได้ง่ายและสบายอย่างที่ทุกคนคิดเลยแม้แต่น้อย
คุณวิชาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะไปจบปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยนานาชาติซานดิเอโก, สหรัฐอเมริกา ก่อนที่ในปีพ.ศ. 2537 การเปลื่ยนแปลงในชีวิตครั้งสำคัญของเขาก็ได้เกิดขึ้น
คุณ วิชัย และคุณ วิชา ลูกพี่ลูกน้องในตระกูลพูลวรลักษณ์ได้ตัดสินร่วมมือกันก่อตั้ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ขึ้นภายใต้คอนเซปการเป็นโรงหนัง Stand alone ที่รวมเอาทั้งโรงหนังและ Complex มาอยู่ร่วมกันเป็นเจ้าแรกที่สาขาปิ่นเกล้า
ด้วยความแปลกใหม่ที่มาพร้อมกับคุณภาพของแสงสีเสียง ความยิ่งใหญ่ของโรงหนังที่มีทั้งอาหารและขนม อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ดีมีที่จอดรถ ทำให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์เจริญก้าวหน้าและได้ขยายสาขาต่อไปยังสาขาสุขุมวิท สาขารัชโยธินแต่ความสำเร็จนั้นก็มักที่จะมีเบื้องหลังเป็นความยากลำบากและไม่ได้ง่าย
เพราะใช่ว่าเมเจอร์จะสามารถเฉิดฉายได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากในช่วงปีพ.ศ. 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทนั้นเกิดล้มหายตายจากกันไปทำให้เมเจอร์เซไปอยู่พักใหญ่ๆจนเกือบจะเจ๊ง แต่สุดท้ายเขาก็สามารถพาบริษัทผ่านวิกฤติในครั้งนั้นมาได้
อีกทั้งในตอนเริ่มต้นทำเมเจอร์นั้น “กลุ่มทุนต่างชาติ” ก็ได้เริ่มที่จะเข้ามาลงทุนทำโรงหนังในแถบภูมิภาคเอเชียกันมากแล้ว ซึ่งก็จะเห็นได้จากประเทศอย่างฮ่องกง สิงคโปร์ หรือมาเลเซียในตอนนั้น แต่แทนที่จะไปสู้ด้วย “สายป่านการเงิน” ที่เราแพ้แน่นอน คุณวิชาจึงเลือกที่ใช้ความคุ้นเคยกับลูกค้าในการเป็นเจ้าถิ่นในวงการโรงภาพยนต์ไทยมายาวนานจนคัดออกมาเป็นกลยุทธ์ที่ถูกใจคนไทยและประสบความสำเร็จมาได้
รวมไปถึงช่วงก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีที่วงการสื่อได้เกิดการ Digital disruption ขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะวงการหนังที่ต้องเผชิญกับการมาถึงของ Netflix หรือแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าอื่นๆก็ทำให้ใครต่อใครต่างก็มองว่า เมอเจอร์ ในเวลานั้นมีความ “น่าเป็นห่วง” เนื่องจาก Netflix กำลังโตเอาๆ และดูเหมือนผู้คนส่วนใหญ่ก็จะมีเสียงตอบรับที่ดีด้วยเช่นกัน
แต่ในขณะที่ทุกคนกลัวนั้น คุณวิชากลับไม่ได้คิดเหมือนคนอื่นเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้นมันจะเป็นตัวที่เข้ามา Disrupt สื่อประเภท Home entertaintment ต่างจากเมเจอร์ที่เป็นสื่อความบันเทิงที่อยู่นอกบ้าน และถึงยังไงผู้คนก็ยังมีความ “ต้องการ” ที่จะเสพหนังในโรงภาพยนต์อยู่ดี
และเช่นกันในตอนที่คนกลัวอินเตอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ คุณวิชาก็เป็นคนที่ตั้งคำถามอยู่เสมอว่าเราจะสามารถใช้ประโยชน์อะไรจากมันได้บ้าง ? จนสุดท้ายทำให้เขานำมันมาพัฒนาธุรกิจและต่อยอดได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็นการใช้ Data ของลูกค้ามาวิเคราะห์ความต้องการ หรือจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยการนำบริการต่างๆขึ้นไปอยู่บนโลกออนไลน์ ที่ลูกค้าสามารถทำอะไรได้ทันทีด้วยปลายนิ้ว
ส่วนความใส่ใจก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเขาเองก็เป็นคนที่ตระเวนเดินทางไปรอบโลกเพื่อใช้บริการโรงหนังที่ดีที่สุดในโลกมาหลายๆแห่ง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจในความสำเร็จของเมเจอร์ ก็เพราะว่าคุณวิชาก็เป็น “ลูกค้า” คนนึงที่ชอบดูหนังในโรงภาพยนต์เช่นกัน
เมื่อรับรู้ความต้องการของลูกค้าทั้งจากทาง Data และพื้นฐานเดิมที่เป็นคอหนังอยู่แล้วก็ทำให้เมอเจอร์นั้นเติบโตมาอย่างแข็งแกร่งตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เพราะเรียกได้ว่าเมเจอร์ที่เป็นแบรนด์ “เจ้าถิ่น” ในไทยนั้นก็ได้อัดแน่นเรื่องคุณภาพกันแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพ เรื่องเสียง หรือจะเป็นเลาจ์ที่หรูหราและอลังการ
ถือว่าเจ็บมาเยอะและผ่านมาเยอะแล้วจริงๆกับผู้บริหารอย่างคุณ วิชา พูลวรลักษณ์ และในตอนนี้ชีวิตของเขาก็ต้องมาเจอกับวิกฤติครั้งใหญ่อีกครั้ง แถมดูเหมือน Covid-19 จะเป็นฝันร้ายจริงๆสำหรับธุรกิจโรงภาพยนต์ในปีนี้ เพราะโรงหนังทั่วประเทศนั้นก็โดนสั่งปิดกันมายาวนานตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 63 แล้ว
เพราะรายได้ของ เมอเจอร์ มาจากขายตั๋วหนังมากกว่า 70% จากรายได้ทั้งหมด อีกทั้งพอมาตรการการปลดล็อคเฟส 3 ที่อนุญาตให้โรงหนังทำการเปิดบริการได้แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็คงต้อง “เหนื่อย” กับการทำ Social distancing ที่ที่นั่งจะหายไปจากการเว้นระยะทุกๆ 2 ที่นั่ง
ส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% ในธุรกิจภาพยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมือของเขาในวันนี้ จะสามารถผ่านพ้นและอยู่รอดไปได้หรือไม่ อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้น เราก็เชื่อว่าผู้บริหารมากประสบการณ์ผู้นี้จะสามารถพาบริษัทที่เขาปลุกปั้นขึ้นมาให้อยู่รอดและเติบโตไปได้เหมือนทุกๆครั้งที่เขาเคยได้ผ่านมา
ขอแค่ทุกคนอดทนและมีสติ มองปัญหาให้ออกและคิดว่าจะบริหารจัดการยังไง ? หรือรวมไปถึงใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างจากสิ่งนั้น ? ให้ได้อย่างเขา เราก็เชื่อว่าคุณจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จได้
เช่นเดียวกันกับเขา “วิชา พูลวรลักษณ์”
เจ้าพ่อโรงหนังไทยที่ยังคงยืนหยัดได้ในทุกๆวิกฤติ
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
https://prbwealth.com
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
https://www.facebook.com/prberd/
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
https://forms.gle/S3MctbeytZLC93KT6
9 บันทึก
56
6
9
56
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย