10 มิ.ย. 2020 เวลา 05:40
หลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ
หลักการของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
เรื่องราวของมิติที่ 4 ก็คือเวลาในแต่ละโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้เป็นพันปีแล้ว แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ทฤษฎีสัมพันธภาพพบว่า เวลาของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน สถานที่ใดมีมวลสารที่มีความหนาแน่นสูง สถานที่นั้นเวลาจะเคลื่อนที่ช้า
พอเราตรวจดูโครงสร้างของโลก สวรรค์ และนรก ตำแหน่งของนรกอยู่แถว ๆ หลุมดำตรงกลางกาแล็กซีพอดี
black hole , Cr : wikipedia
อย่างสุริยะจักรวาล ค่อนไปทางด้านล่าง ก็มีหลุมดำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง แล้วมีหลุมย่อย ๆ ออกไป ซึ่งเกือบจะซ้อนกับลักษณะของนรก แล้วในหลุมดำยังมีมวลสารที่มีความหนาแน่นมาก ขนาดแสงหลุดผ่านออกมาไม่ได้
ดังนั้น เวลาในนั้นจึงเคลื่อนที่ช้ามาก ซึ่งสอดคล้องกับเวลาในมหานรกที่เคลื่อนที่ช้ามากเช่นเดียวกัน แต่นี่เป็นการอธิบายพอให้เข้าใจเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วยังมีภพซ้อนภพ มีมิติต่าง ๆ ที่ยิ่งกว่ามิติที่ 4 ซ้อนอยู่อีก เราอย่าไปคิดอะไรแบบ 3 มิติ ตามความคุ้นเคยเดิมของเราเท่านั้น
เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า ยิ่งวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากขึ้น ก็ยิ่งพิสูจน์ความถูกต้องของพุทธศาสตร์ ได้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก เพียงแต่การพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์นั้น ยังเปรียบเสมือนเด็กอนุบาลที่ก้าวเดินเตาะแตะ คือ ยังไม่ค่อยรู้อะไรชัดเจนมากนัก
ในขณะที่ทางด้านพุทธศาสตร์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้แจ้งไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น ถ้าใครอยากทันสมัย ก็ต้องหันมาศึกษาพุทธศาสตร์ ตั้งใจเจริญภาวนา ได้ไปรู้ไปเห็นด้วยตนเองเมื่อใด เราก็จะแจ่มแจ้งเอง
พวกเรามีบุญมาก เพราะได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ ได้นับถือ พระพุทธศาสนา เราจึงต้องตั้งใจหมั่นศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วลงมือปฏิบัติให้คุ้มกับความมีบุญของเราทุกคน
เวลาใน โลกมนุษย์ มีค่ามากที่สุดใน 3 โลก
ดังที่ได้อธิบายไปแล้วว่า เวลาในแต่ละภพภูมินั้นไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น เวลาที่มีค่าที่สุดน่าจะเป็นเวลาในโลกมนุษย์ใช่หรือไม่
ในสวรรค์เป็นช่วงเวลาเสวยผลบุญ ส่วนนรกเป็นช่วงเวลา เสวยผลบาป หากไปเกิดเป็นสัตว์นรก ก็หมดโอกาสทำบุญ ทำอะไร ไม่ได้เพราะโดนเขาจับเฉือนอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา ได้แต่เสวยผลบาป จนกว่าบาปนั้นจะหมดไป
แต่สถานที่ประกอบเหตุ คือ โลกมนุษย์ เสมือนตลาดกลางค้าบุญค้าบาป เกิดมาเป็นมนุษย์ได้กายมนุษย์หยาบนั้นมีค่ามาก พอมีกายหยาบแล้วจะทำอะไรมันจะส่งผลแรง
กายเทวดา หรือกายสัตว์นรกนั้นเป็นกายละเอียด เป็นกายที่ใช้เพื่อเสวยผล แต่มนุษย์ได้กายหยาบเพื่อไปประกอบบุญ อานิสงส์
ผลบุญเกิดเป็นล้านเท่า แต่ถ้านำกายหยาบไปทำบาป ผิดศีลผิดธรรม ผลบาปก็เกิดตามมาเป็นล้านเท่าเช่นเดียวกัน
ดังที่เราเคยได้ฟังคำเปรียบว่า
“หากไปฆ่าวัวตัวหนึ่ง จะต้องเกิดเป็นวัว
ถูกเขาฆ่านับจำนวนชาติด้วยเส้นขน”
...เคยได้ยินไหม
ความจริงมันยิ่งกว่านั้นมากนัก เพราะพอตกมหานรกแล้ว ต้องโดนฆ่ามากยิ่งกว่าจำนวนเส้นขนอีกเป็นล้านเท่า
ดังนั้น เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้กายหยาบ มิหนำซํ้ายังได้มาเกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนา ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธด้วยแล้ว ถ้าใครพลาดไปทำบาป ตายไปตกนรกแล้วจะยิ่งรู้สึกช้ำใจมากขึ้นไปอีกว่า
“...เราหนอเรา อุตส่าห์เกิดเป็นคน ได้มาพบพระพุทธศาสนา
ทำไมเราไม่ใช้โอกาสทำ…ความดีให้ได้บุญมหาศาล
รู้ทั้งรู้เรายังไปทำ…บาปอย่างนี้น่าเสียใจมาก”
ส่วนใครได้ทำบุญทำกุศลก็จะรู้สึกชื่นใจ เอาบุญต่อบุญ พอทำบุญทำกุศล ก็ได้ ไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้า ระหว่างที่ยังไม่หมดกิเลส ด้วยบุญนั้นพอจะลงมาเกิดอีก ก็จะลงมาเกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนาอยู่
ต่อไปนี้ให้อธิษฐานเลยว่า ขอให้เกิดมาแล้วมีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนาอีก มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรมคำสอน และเป็นคนดี ได้สร้างบุญสร้างกุศล ได้เอาบุญต่อบุญอีก เราก็จะได้สร้างบุญมากขึ้น ๆ มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีที่พร้อมขึ้น มีชาติตระกูลดี มี ร่างกายแข็งแรง หน้าตาดี อุปนิสัยดี สติปัญญาเฉลียวฉลาด เพื่อนฝูง หมู่ญาติดีหมด
อย่างนี้แล้วเราก็มีโอกาสได้ทำบุญมากขึ้น ๆ กิเลสจะ ค่อย ๆ หลุดออกจากใจ เหลือน้อยลงตามลำดับ
ดังนั้น เมื่อมีโอกาสวิเศษสุดอยู่กับตนเองอย่างนี้แล้ว ไม่ควรพลาด บาปกรรมอกุศลเราต้องไม่ทำเด็ดขาด ตั้งใจทำความดีทุกชนิด อย่างเต็มที่ แล้วตั้งใจเจริญสมาธิภาวนา สรุปคือ “ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส” นี่คือหัวใจของพระพุทธศาสนา เป็นหัวใจหลักใน การดำเนินชีวิตของเราทุกคน
ความรู้ในทางพระพุทธศาสนา มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของมิติ และภพภูมิต่าง ๆ มากมายทีเดียว ที่สำคัญยังตอกย้ำได้อีกว่า ยิ่ง วิทยาศาสตร์ค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมายในปัจจุบัน ก็ยิ่งพิสูจน์ให้เห็น ชัดเจนว่า สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสนั้นเป็นจริงตลอดกาล
เรียกว่า ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็น
“อกาลิโก” คือ “ทันสมัยตลอดกาล”
เจริญพร
โฆษณา