11 มิ.ย. 2020 เวลา 13:57 • ปรัชญา
ข้อคิดบางประการจากปรัชญาเต๋า
ปรัชญาเต๋ามีแนวคิดที่น่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนคิดว่าน่าจะมาประยุกต์ปรับใช้จูนทัศนคติบางอย่างของเราได้ดี
ปรัชญาเต๋าส่วนหนึ่งก็มีความคล้ายกับแนวคิดของปรัชญาอินเดีย ที่ไม่เน้นเรื่องความฉลาดปราดเปรื่อง
ไม่เน้นการมีบุคลิกภาพเฉียบแหลม แสดงออกทางวาทศิลป์ อย่างพวกนักปรัชญากรีก ที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดตะวันตกและอเมริกัน
เครดิตภาพ: https://pantip.com
แต่ปรัชญาเต๋าจะเน้นที่ ข้างในคนๆนั้นซึ่งเป็นคน ที่เข้าใจตน สามารถมีชีวิตที่เป็นสุขได้ รับสภาพตนตามที่เป็นได้ มีความสุขตามสภาพนั้น ซึ่งจริงๆแล้วปรัชญาเต๋าเขาวิเคราะห์นะครับว่า
คนในโลกเกิดมา คนขี้เหร่ มีมากกว่าคนสวย คนไม่หล่อมีมากกว่าคนหล่อ ทีนี้คนที่เกิดมาแล้วไม่สวยไม่หล่อ...
เราก็อาจจะมีความรู้่สึกไม่พอใจในสภาพรูปกาย น้อยใจ แอบบอิจฉาลึกๆกับพวกคนสวยคนหล่อ...
เครดิตภาพ: https://www.youtube.com
ปรัชญาเต๋าบอกว่า คิดดีๆนะครับ ว่าทำไมจะต้องไปน้อยใจ อิจฉาเขาล่ะ เพราะจริงๆ คนสวยคนหล่อ มีปัญหาชีวิตเยอะกว่าเรานะ...
คือวันหนึ่งสวยหล่อมันก็ต้องหายไป เพราะแก่ไงครับ ต่อให้ไปดึงไปรั้งไว้ขนาดไหน พอถึงจุดๆหนึ่งก็เอาไม่อยู่ทุกราย มันก็เหี่ยวก็ย่นไปตามกาลเวลา...
แต่ถ้าไม่สวยไม่หล่อมาตั้งแต่แรกแล้ว มันคือ"ความยั่งยืนกว่า" ทำให้นึกถึงคำแนะนำของ นักเขียนชาวอังกฤษท่านหนึ่ง จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ (George Bernard Shaw) ซึ่งคนเขาเล่าลือกันว่าเป็นคนปากร้ายพอดู แต่สิ่งที่เขาพูดน่าคิดนะครับ
เครดิตภาพ: https://www.vicc4life.com
นักข่าวสัมภาษณ์เขาเรื่องคำแนะนำเทคนิคในการเลือกคู่ครอง ก็ไปถามเอาที่งานแต่งงานญาติเขานี่แหละ เฮียแกตอบกลางงานแต่งนั่นเลย...
 
ท่านมีเทคนิคในการเลือกคู่ยังไงครับ??
เบอร์นาร์ด ชอว์ บอกแบบจริงจังว่า สำหรับผู้ชายจะวัดว่าใครฉลาดหรือไม่นั้น ให้ดูที่เมียเขา คนฉลาดๆ จะเลือกเมียขี้เหร่ คนโง่จะเลือกเมียสวย...
นักข่าวก็ถามว่า ทำไมล่ะ??
เบอร์นาร์ด ชอว์ บอกแบบจริงจังอีกว่า "คนฉลาดย่อมเลือกของที่ยั่งยืน" คนไม่ฉลาดย่อมเลือกของซึ่งผ่านมาแล้วก็ผ่านไป...
เครดิตภาพ: https://www.pinterest.com
"สวยมันไม่ยั่งยืน แต่ถ้าขี้เหร่มันยั่งยืน!"
ได้เมียขี้เหร่ ไม่สวย หน้าตาธรรมดาๆ ไม่ต้องทำใจเลย เพราะถ้าได้ตั้งแต่แรกมันจะยั่งยืนตลอดชีวิต... เขาว่างั้น ตรรกะขั้นเทพ...
นี่คือวิธีคิดแบบเต๋า!... ความหมายคืออย่าไปเลือกในสิ่งที่ชาวบ้านแก่งแย่งกันคิดว่ามันดีมันเด่น
เพราะเต๋าเขาบอกว่า ความสวยความหล่อเนี่ยถ้าเทียบกับการเดิน นั่นก็คือการเขย่งเท้าเดิน เขย่งสักพักเดี๋ยวก็เหนื่อยก้กลับมาเดินธรรมดา เผลอๆเท้าแพลง ปวดเมื่อยบาดเจ็บอีก
เครดิตภาพ: http://almawiclinic.com
เราทั่วไปมีหน้าตาธรรมดาพื้นๆก็ไม่ต้องเย่งเท้าเดิน มันยั่งยืน เขย่งเท้า เปรียบคือการไปแสวงหาโป๊ะนั่นนี่ เดี๋ยวสักวันก็เมื่อย เหมือนคนสวยคนหล่อนั้นวันหนึ่งก็ต้องขี้เหร่
เขาก็ต้องพยายามดูแลรักษารูปร่างหน้าตาของเขาให้นานที่สุด ความเป็นห่วงเป็นกังวลอาจจะยิ่งกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ...
เครดิตภาพ: https://www.wegointer.com
ต่อให้ใช้อุปกรณ์ใช้เทคโนโลยี ยังไงก็เอาไม่อยู่ถึงเวลาจะย้วยก็ต้องย้วย แต่ถ้าย้วยตั้งแต่แรกก็ไม่มีอะไรต้องกังวล!
สังเกตุดีๆ พอเริ่มมีอายุ คนสวยกับคนไม่สวย ก็จะหน้าตาใกล้เคียงกัน เผลอๆคนที่สมัยสาวๆหน้าตางั้นๆ ตอนแก่กลับดูดีมีระดับซะอีก
วิธีคิดแบบเต๋านี้ก็ดีนะ ในแง่หนึ่งก็เป็นประโยชน์กับชีวิตมากเลยล่ะ แต่บางคนอาจจะบอกว่า เอาน่าชีวิตหนึ่งก็ควรไต่ระดับ หาของงามๆมาประดับประดาบารมีให้กระชุ่มกระชวยกันบ้างซักช่วงก็ยังดี ก็ไม่ว่ากัน อันนี้ก็พิจารณากันเอาเองนะครับ
อ้างอิง
คัมภีร์เต๋าเต๋อจิง
-วิรุฬหก-

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา