18 มิ.ย. 2020 เวลา 03:02 • ท่องเที่ยว
ประสบการณ์ 101 วันฟ้าหม่นฝนซาที่ ไต้หวัน
ตอนที่ 8 ประสบการณ์โดนหมาไล่งับที่ยอดเขา Maokong
ทางเลือกที่ผิด ให้บทเรียนที่สำคัญกับเราเสมอ...
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศสไตล์ชาวดอยบนเขาที่มีชื่อว่า Maokong กันจนพอใจแล้ว ผมเกิดความคิดพิเรนทร์ขึ้นมาอย่างหนึ่ง “มึงเห็นพวกคนแก่กลุ่มนั้นไหม พวกเขาเดินลงเขากันหล่ะ เราก็น่าจะทำบ้างนะ”
ทิวทัศน์สีเขียวชะอุ่มที่สร้างแรงกำลังให้กับเราเป็นอย่างมาก
ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากในการท่องเที่ยวในครั้งนี้ครับ ผมเข้าใจว่ามันคงใช้เวลาไม่นานกับการเดินลงเขา ทั้งที่ขึ้นกระเช้ามาแค่ราวๆ 10 นาทีเห็นจะได้ แต่ความผิดพลาดในครั้งนี้ก็กลับกลายเป็นความทรงจำดีดีที่ผมจดจำได้ และมันช่างไม่เหมือนความทรงจำครั้งไหนๆ ของใครๆ เลยด้วยละครับ
ต้นชารายทางที่น่าเด็ดยอดยิ่งนัก!!!
ทางเดินลงเขามีลักษณะเป็นทางสำรวจป่าศึกษาธรรมชาติครับ มันจะลาดลงไปตามขั้นบันได มีสลับกับเดินขึ้นเนิน เลี้ยวโค้งและอื่นๆ อีกมากมาย เราชมนกชมไม้กันอยู่พักนึง ก็เริ่มเอะใจว่าทำไมมันยาวจังเลย เปิด Google Map ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเราอยู๋กันที่ไหนกันแน่ ตายละสิ เราจะหลงป่ากันหรือเปล่าละเนี่ย
ทางเดินลงเขาขั้นบันไดที่คิดว่าไม่ไกลมาก
ยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย จากที่คิดว่าเป็นทางลงอย่างเดียว ก็เริ่มกลายเป็นทางชันขึ้นบ้าง เลี้ยวโค้งบ้าง จนผมคิดหันไปถามคุณตำรวจว่า “เราย้อนกลับไปทางเดิม แล้วไปขึ้นกระเช้ากันไหม” แต่ยังไม่ทันได้ถาม ผมเห็นความสูงที่เราจากมา ก็เป็นอันสงบปากสงบคำ เพราะไม่อยากต้องเดินกลับขึ้นไปอีกแล้วหล่ะ
สะพานน่ารักๆ ระหว่างทางสำรวจธรรมชาติครับ
ทางเดินรายทางเราได้เจอกับทั้งสายน้ำไหลเอื่อยๆ ต้นชาเรียงราย เอาจริงๆ รอบกายเป็นธรรมชาติที่น่าสัมผัสทั้งสิ้นเลยครับ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะมองดูสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างเป็นสุขใจ ขณะเดียวกันก็มองทางลงที่ไม่มีสิ้นสุดนั้นยาวลงไปเรื่อยๆ
แหล่งน้ำไหลเอื่อย สวยงามน่าเหลือเกิน
เรามาจรดที่ทางเดินสุดเขตสำรวจ เป็นถนนใหญ่ครับ ไม่มีรถรา เว้นแต่หมาสองตัวที่เห่าอย่างหวงที่ไม่หยุดหย่อน มันเป็นสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดในทริปนี้ เพราะหมาสองตัวนี้ดักเราไว้ที่ทางออก เสมือนเป็นบอสใหญ่ที่เราจะต้องฝ่าฟันไปให้ได้
หมาพุ่งเข้าใส่แล้วหลบไปด้านหลัง คุณตำรวจบอกกับผมเอาไว้ว่า อย่าตื่นตระหนกและกลัวมัน แต่ให้ทำนิ่งไว้ แต่สุนัขมันก็คือสุนัข มันเห่าไล่ และพุ่งใส่แบบชนิดที่ไม่กลัวตายกันเลย ความรู้สึกของผมตอนนั้นคือ ขอเดินกลับขึ้นเขาไปคงจะง่ายกว่า
แต่มันไม่มีอะไรง่ายดายขนาดนั้นหรอก….
การเผชิญหน้าในครั้งนี้ทำให้ผมเรียนรู้ว่า ความกลัวไม่ใช่สิ่งผิดอะไร แต่การตัดสินใจในขั้นต่อไปคือสิ่งสำคัญมาก โชคดีที่คนท้องถิ่นได้ช่วยเราไว้ครับ เขาต้อนสุนัขสองตัวไปให้พ้นทาง และบอกให้เรารีบเดินออกมาจากบริเวณนั้น ผมคิดในใจว่า ทำไมเราจึงขี้ขลาดขนาดที่จะยอมเดินกลับขึ้นเขาสูงชันนั้นไปเพื่อหมาสองตัวเชียวหรือ?
รายทางที่เราเดินหลงกันลงมา แถวใกล้ๆ กับที่เจอหมาเจ้าถิ่นสองตัว
จากเหตุการณ์เล็กๆ ในคราวนั้นเอง ทำให้ผมหันมามองตัวเองว่า เราต้องรู้จักที่จะมีสติให้ได้มากที่สุด ความกลัวเป็นสิ่งที่หักห้ามไม่ได้ บุคคลแต่ละคนล้วนมีความกลัวเป็นของตัวเอง การเอาชนะมันไม่ใช่การกดมันเอาไว้ แต่คือการปล่อยให้มันไหลเวียนไป ขณะที่เราตั้งสติให้มั่นแล้วทำอย่างที่เราควรจะทำ นั่นคือสิ่งที่ผมทำครับ ต่อให้เราต้องกลับเดินขึ้นไปบนเขาอีกครั้งเพราะอยากหลีกเลี่ยงสิ่งตรงหน้า มันก็ไม่ผิดอะไร เพราะนั่นถือเป็นการตัดสินใจที่ทำให้เราพึ่งใจมากที่สุด ผมเชื่อว่า คนเรา อย่ากลัวที่จะทำในสิ่งที่ใจคิดว่าถูกต้อง มันอาจทำให้เราลำบาก แต่นั่นคือการก้าวข้ามปัญหาในแบบของตัวเอง
ทางเลือกที่ผิด ให้บทเรียนกับเราเสมอ ครั้งนี้มันมอบสิ่งที่เรียกว่า การรู้จักตัวเองมากขึ้นให้กับผม
เราฝ่าฟันกันจนกระทั่งสามารถไปถึงสถานีตรงกลางเขาได้สำเร็จครับ เป็นความเหนื่อยที่สุดแสนจะขวัญผวา แต่พอมานึกถึงเอาตอนนี้มันก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยทีเดียว เรานั่งกระเช้าที่สถานีวัด Zhinan ลงไปยังทางออกสวนสัตว์ สายลมปลิวสะบัดใส่หน้า หลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมา ผมค้นพบว่า ลมที่เราไม่ได้ใส่ใจในตอนแรกมันช่างมีความหมายเหลือเกิน แม้ไม่ได้เฉียดใกล้ความตาย แต่ความกลัวก็ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นเหมือนๆ กัน
วัด Zhinan สถานีที่สองบนเขาแห่งนี้ที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้
ผมมองเห็นตึก Taipei 101 อยู่ไกลๆ ได้แต่คิดว่าเราจะไปยังจุดหมายใดเป็นที่ต่อไป ตอนนี้ก็บ่ายสามแล้ว และเขา Maokong ก็ยังไม่ทำให้เราพอใจกับทิวทัศน์มากนัก “ไปขึ้นเขาช้างกันเถอะ รีวิวในพันทิปบอกว่าไม่สูงมาก แต่วิวสวย เราน่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกกันที่นั่นนะ”
ทางกระเช้าที่พาเราสู่ตีนเขาอย่างปลอดภัย
พวกเราเห็นพ้องว่าที่นี่จะเป็นจุดหมายที่ดี ก็ไม่รอช้า รีบรุดไปตามเส้นทางสายพันทิป มุ่งสู่เส้นทางเขาช้างอันเลื่องลือของไต้หวัน
เส้นทางข้างหน้าจะผิดหรือถูกนั้น ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่ได้รับมาระหว่างทางเลยจริงๆ
โฆษณา