14 มิ.ย. 2020 เวลา 02:36 • ไลฟ์สไตล์
ขอบคุณอัลไซเมอร์
ถ้าเราสามารถทราบวันที่เราจะจากคน ๆ หนึ่งที่เรารักไป เราอยากรู้ไหม และอยากรู้ก่อนนานแค่ไหน
ผมไม่เคยคิดถามตัวเองแบบนี้เลย จนกระทั่ง เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน ผมได้พาคุณพ่อไปหาคุณหมอ เพราะคุณพ่อเริ่มพูดซ้ำ ๆ และจำเรื่องที่ผ่านมาไม่ค่อยจะได้
ใหม่ ๆ ผมคิดว่าเป็นอาการของคนที่มีอายุมาก แต่พอไปพบกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่านี่คืออาการของอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นโรคสมองเสื่อมที่ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้
ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งใจเสีย เพราะทราบว่า โรคนี้ยังรักษาให้หายไม่ได้ มีแต่จะทรงกับทรุดไปเรื่อย ๆ
ท่ามกลางความเศร้า ก็ยังมีความหวังเล็ก ๆ อยู่คือ ถึงแม้จะรักษาไม่ได้ แต่มันสามารถชะลอไปได้ ผมก็หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าการแพทย์น่าจะพัฒนาทันที่จะรักษาคุณพ่อให้หาย
ใหม่ ๆ ถึงแม้ว่าความทรงจำระยะสั้นจะหายไป เช่น จำไม่ได้ว่ากินข้าวเช้าแล้วหรือยัง แต่ความทรงจำระยะยาวยังคงชัดเจน พ่อจำได้แม้กระทั่งชื่อคุณครูที่สอนท่านตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ
คุณพ่อรู้ตัวครับว่าท่านลืม ใหม่ ๆ ท่านโกรธตัวเองด้วยซ้ำว่า ทำไมต้องลืมด้วย หรือตอนที่ท่านพูดซ้ำ ๆ ผมก็บอกท่านว่า พ่อจำได้ไหมว่าพ่อพูดแล้ว ท่านก็ส่ายหน้า แล้วก็บอกแย่จัง ทำไมเราลืมแบบนี้
แต่ต่อมาความทรงจำระยะยาวนั้น มันก็เริ่มเลือนรางไปเรื่อย ๆ ผมทราบดี เพราะคุยกับคุณพ่อตลอด มันเหมือนค่อย ๆ ไล่มา พ่อเริ่มลืมที่ทำงานที่ทำมากว่า 30 ปี ถัดมาก็ลืมมหาวิทยาลัยที่เรียน และตอนนี้ก็ลืมโรงเรียนที่เรียนตั้งแต่เด็ก ๆ
คุณพ่ออยู่กับคุณย่าของคุณพ่อตั้งแต่เล็ก ๆ แต่ระยะหลังคุณพ่อก็ลืมคุณย่าไปแล้ว
ผมตระหนักดีถึงพัฒนาการของโรคนี้ มันจึงทำให้ผมได้คิดอยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุด เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว คุณพ่ออยากจะให้ผมพาไปเที่ยว ไปไหนก็ได้ ถึงแม้ว่าผมจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ถ้าคุณพ่อเดินมาแล้วบอกว่า พาพ่อไปเที่ยวหน่อยสิ ผมจะลุกแล้วแต่งตัวพาคุณพ่อขึ้นรถไปเที่ยวตลอด
บางทีก็พาไปสวนสาธารณะ และพอไปถึง คุณพ่อก็ถามว่า มาทำไม บางที ต้องไปส่งลูกไปทำรายงานกับเพื่อน ๆ ที่ห้างสรรพสินค้า คุณพ่อขอไปด้วย ผมก็พาท่านไป พอถึง คุณพ่ออยากกลับบ้านทันที ผมก็ขับรถใช้เวลาเกือบชั่วโมงพากลับบ้าน แต่พอมาถึงคุณพ่อก็บอกว่าจะไปอีก
แต่ผมคิดในใจ ณ ขณะนั้นว่า เวลาเหล่านี้มันจะผ่านไป ต่อไปเราจะไม่ต้องเสียใจ ถ้าคุณพ่อไม่อยากจะออกไปไหนอีก มันจะต้องไม่มีคำว่า “รู้อย่างนี้”
และวันนั้นก็มาถึง...
ตอนนี้คุณพ่อไม่ได้อยากออกไปไหน แค่ชวนออกไปเดินเล่น คุณพ่อก็ไม่ไป
คำที่อาจจะเจ็บปวดที่สุดที่ผมเคยได้ยินจากปากคุณพ่อ คือคำว่า “ไม่รู้” หลังจากผมถามท่านว่า “ผมชื่ออะไร”
หลายคนอาจจะมองว่าโรคอัลไซเมอร์เป็นโรคร้าย เพราะอาการมีแต่จะทรงกับทรุดลงไปเรื่อย ๆ จนตอนสุดท้ายจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ผมได้ตระหนักว่า อัลไซเมอร์นี่แหละที่ทำให้ผมได้ใช้เวลากับคุณพ่ออย่างเต็มที่ในเวลา 6 ปีที่ผ่านมา มันช่วยกระตุกให้ผมคิดว่าเวลาแบบนี้มันจะไม่หวนคืนมาอีก
ผมโชคดีที่ได้อัลไซเมอร์มาเตือนใจ ซึ่งน่าจะดีกว่าที่ปุ๊บปั๊บเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะต้องมานั่งเสียใจ พร้อมกับคำว่า “รู้อย่างนี้”
สำหรับผม อัลไซเมอร์เป็นโรคที่ให้โอกาสเรานานที่สุด นานกว่าโรคร้ายอื่น ๆ เช่น มะเร็ง ที่พอรู้แล้ว อาจจะเหลือเวลาไม่นานนักในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
ผมยังหาคำตอบไม่ได้ว่า ถ้าต้องรู้วันที่เราจะจากกัน ผมยังอยากรู้ไหม และอยากรู้นานสักเท่าไร รู้แต่ว่าตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมควรใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างไร
ถึงแม้อัลไซเมอร์จะเป็นโรคร้ายที่ไม่มีใครอยากให้คนที่เรารักเป็น แต่ก็ยังมีมุมให้ผมรู้สึกขอบคุณได้อยู่ดี
ขอบคุณอัลไซเมอร์สำหรับบทเรียนชีวิตในข้อนี้
โฆษณา