18 มิ.ย. 2020 เวลา 02:12 • ความคิดเห็น
เป็นใหญ่เป็นโต ก็บุญเยอะ กรรมก็เยอะ
ในความฝันครั้งหนึ่ง
ในฝันว่าตนเองไปปฏิบัติธรรม ที่วัดแห่งหนึ่ง ที่พระแม่ชีอุบาสกอบาสิกา สวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมกันทีใต้ต้นไม้ เป็นลานธรรม
เมื่อตนเองสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ก็ปลีกตัวออกไปปฏิบัติธรรมที่ศาลาดิน ที่พื้นศาลาเป็นดิน ยาวประมาณ 40 เมตร มีพระแก้วมรกด ตั้งเป็นพระประธาน แล้วการไปปฏิบัติธรรมไปยืนไปนั่งในศาลา ต้องนำเสื่อม้วนติดมือไปด้วย
ไปที่ศาลาดินก็ยังไม่สว่าง แต่เมื่อก้าวข้ามธรณีประตูศาลาดิน เหยียบพื้นศาลา ก็ปรากฏเป็นภาพของสนามรบที่เพิ่งผ่านการรบเกิดขึ้น ตอนที่เดินที่เห็นภาพนั้น จิตมันนิ่งผิดปกติ นิ่งเฉยเหมือนน้ำนิ่ง เดินผ่านศพทหารที่มากมาย กองทับถมกัน ร่างกายมีแต่บาดแผด นอนก่ายกอง แข้งขาขาด คอขาด มีแต่เลือดนองเต็มไปหมด เห็นเลือดที่นองท่วมพื้น มันนึกว่า รบกันจนเลือดนองท่วมกีบม้ามันเป็นเช่นนี้เอง
พอนึกมาถึงตรงนี้ ก็มีเสียงสอดมาจากข้างในว่า “เป็นไงล่ะ พาคนไปตายมากมาย เลยเรา” ทันทีที่เสียงสอดจบลง เห็น มือขวาที่ตัวเองกำเสื่อจะเข้าไปนั่ง เห็นเป็นมือที่ถือดาบ ชุ่มฉ่ำไปด้วยเลือ เลือดอาบไปทั้งที่ดาบที่มือทืแขนหัวไหล่ เสื้อที่ตนเองใส่มา ก็กลายเป็นว่าไม่ได้ใส่เสื้อ เนื้อตัวมีแต่คำว่าเลือดแดงไปหมด เมื่อสิ้นเสียงสอด กายนี้มันร้องไห้สะอึกสะอื้น สะอึกสะอื้นมาจากข้างในลึกๆ ค่อยๆ. เดินพาตัวเองผ่านซากศพในสนามรบ เดินไปสะอื้นไป
ไปนั่งพับเพียบหน้าพระแก้ว ก็สะอึกสะอื้น กราบพระก็สะอื้นไปด้วย หน้าตาตัวเองมีแต่นำ้ตา ไม่รู้มันมาจากไหนนักหนา. พอกราบพระเสร็จ ก็มีเสียงก้องกังวานมาว่า “เป็นใหญ่เป็นโต บุญก็เยอะกรรมก็เยอะ” ได้ฟังแล้วก็มีภาพให้ดู
ตอนสายประมาณสิบโมง ไปนั่งคุยสนทนากับหลวงตาที่เคารพนับถือ อยู่ๆท่านก็พูดว่า “เป็นใหญ่เป็นโต บุญก็เยอะกรรมก็เยอะ” คราวนี้ ปรากฏเป็นภาพสนามรบ การกวาดต้อน ลูกเมียพ่อแม่ทหารที่ตายในสนามรบ มีแต่ความโศกเคร้า เดือดร้อน เห็นภาพแล้วก็บอกหลวงตาว่า “จริงครับ เป็นใหญ่เป็นโต ทำไม่ดีผู้คนก็เดือดร้อนมากมายครับ
สมัยก่อนเมื่อผู้นำตัดสินใจ ตกลงว่ารบ ต้องกะเกณฑ์ ผู้คน เสบียงอาหารมากมาย เดือดร้อนกันไปหมด ตั้งแต่หัวแถวถึงไพร่พล. ตลอดลูกเด็กเล็กแดง ช้างม้าวัวควายก็เดือดร้อนไปด้วยแม้รบชนะก็มีแต่ชีวิตที่สูญเสีย หลังรบก็มีแต่ความโศกเศร้า หวาดกลัว เดือดร้อนกันไปหมด แล้วการเป็นใหญ่เป็นโต ชีวิตการเป็นใหญ่เป็นโต มันได้อะไร มันมีแต่กรรม ต้องรับกรรม เป็นชีวิตที่สร้างกรรม หนีเวรกรรมไม่พ้น เพราะตนเองเป็นผู้นำพาความเดือดมาสู่ทุกคน
การเป็นใหญ่เป็นโต หากทำดีคือไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นสันติก็ดีไป เรื่องนี้ทำให้คิดถึงพระเจ้าอโศก หากท่านไม่ได้สติเมื่อเห็นเลือดท่วมกีบม้า ท่านจะคิดมาหาคำสอนศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามั้ย
ทำบุญด้วยวัตถุปัจจัยสี่มามาก ก็ต้องกลับมาเกิดรับบุญกุศลเป็นใหญ่เป็นโต เสวยสมบัติที่ทำมา เสวยโลกธรรมแปด เมื่อเป็นใหญ่เป็นโต หาก หลงทรัพย์สมบัติ หลงโลกธรรม ขาดสติ ขาดเหตุผล ขาดคุณธรรม ขาดจริยธรรม ขาดสติปัญญาตามเยี่ยงอย่างอริยะ อ่านผู้คนรอบข้างไม่ออก มีบริวารประเภทประจบสอพลอ ขุนพลอยพยัก มีหอกข้างแคร่ ขาดผู้ที่เป็นบัณฑิต ก็เห็นทีจะมีแต่ความวิบัติทำแต่เรื่องเดือดร้อนให้ผู้คน ตัวเองต้องลงนรกแน่นอน
การมุ่งเอาแต่บุญ หลงอานิสงส์ของบุญ อย่างเดียวก็ทำให้เกิดบ่อยๆ เกิดมาแล้ว ก็ไม่แสวงหาการสร้างบารมีปฏิบัติธรรม สะสมธรรม เพื่อลดการเกิดคือหนีเวรกรรมนั้นเอง การเกิดแต่ละครั้งนั้นเหมือนเสี่ยงทาย หลงตัวตน หลงของของโลกที่โลกสมมุติอุปโลกน์ให้ เผลอสติสร้างกรรม ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็ลงอบาย ต้องอยู่ในอบายอีกนาน แลเวลาต้องทำอย่างไรจึงจะได้ หนีเวรกรรม ตัดบ่วงกรรม มีความสุขที่ไม่มีอารมณ์พาสร้างแต่เวรกรรม
โฆษณา