เทรนด์การทำงานสาย IT ในจีน : ยุค IT จีนเฟื่องฟู โปรแกรมเมอร์ / Developer ล้นตลาด แต่สกิล AI/ 5G เท่านั้นที่จะอยู่รอด
หากย้อนไป 10ปีก่อน ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และผู้นำนวัตกรรมใหม่ ประเทศจีนคงอยู่ในลิสต์รายชื่อท้ายๆ หรือไม่ก็คงไม่มีใครนึกถึงเลย
อย่างตัวอ้ายจงเอง สมัยไปเรียนด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่กรุงปักกิ่ง มีแต่คนรอบข้างถามว่า ‘คิดดีแล้วหรือ?’ กล่าวคือ เราเคยมองประเทศจีน เป็นประเทศที่ค่อนข้างล้าหลังเรื่องเทคโนโลยี แต่ในปัจจุบัน เราคงจะมองจีนเช่นนั้นไม่ได้อีกต่อไป
ประเทศไทยยังขาดแคลนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ตลาดไอทีจีน คนล้นตลาดแล้ว จนกลายเป็นตำแหน่งงานหนักเงินเดือนน้อย คนเก่งๆ เลยพยายามหางานตำแหน่งใหม่ (ในสายงานเดิม) ที่ได้เงินเดือนเยอะกว่า คือสาย AI, 5G
รายได้ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ประเทศจีน เฉลี่ยอยู่ที่ราว 120,000 หยวนต่อปี แต่งานสาย AI, 5G สามารถทำเงินได้ราว 400,000 หยวนต่อปี
สายงาน IT ยังคงเป็น TOP5 สายงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน เพียงแต่แนวโน้มของตำแหน่งงานในสายนั้น เริ่มเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของเทคโนโลยี
จีนก้าวมาเป็นคู่แข่งสำคัญของอเมริกา บนเวทีผู้นำเทคโนโลยี อย่างที่เราได้เห็นแบรนด์ IT สัญชาติจีน จำนวนมาก กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก อย่างเช่น HUAWEI, Baidu, Tencent และที่ขาดไม่ได้ Alibaba
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ชาวจีนต่างหันมาเรียนและทำงานทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ปี 2019 ที่ผ่านมา บัณฑิตจบใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัยในจีน เกือบ 20% (16.6%) สมัครงานในสายงาน IT ตามการสำรวจของ 58.com เว็บพอร์ทัลและแหล่งหางานชื่อดังของจีน
เวลาที่เราพูดถึงงานทางสาย IT คนส่วนใหญ่จะนึกถึงงานพัฒนาโปรแกรม (Software Developer) หรือ โปรแกรมเมอร์ เพราะเป็นตำแหน่งงานแรกๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดในยุคที่จีนเริ่มพัฒนาเทคโนโลยี และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เริ่มล้นตลาด โดยรายได้ของโปรแกรมเมอร์ที่ประเทศจีน เฉลี่ยอยู่ที่ราว 120,000 หยวนต่อปี ขณะที่งานตำแหน่งอื่นในสาย IT มีแนวโน้มเงินเดือนสูงกว่ามาก โดยเฉพาะตำแหน่งที่ใช้ความรู้เฉพาะทางและกำลังเป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้น
สำหรับประเทศจีน หากเราพูดคำว่า ‘งานสาย IT’ ไม่ใช่แค่งานทางด้านคอมพิวเตอร์ หรือเขียนโปรแกรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงงานในธุรกิจ E-commerce และ อินเทอร์เน็ตที่มีเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนเป็นหลัก
โดยตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมจากคนจีนรุ่นใหม่ หันมาทำงานสายนี้มากที่สุด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากการเก็บข้อมูลของ Zhaopin แพลตฟอร์มหางานชื่อดังในประเทศจีน
ปัจจุบันนี้ คนที่เรียนจบทางด้านคอมพิวเตอร์ และกำลังมองหางาน หรือเปลี่ยนงานในสายนี้ จึงเริ่มมองข้ามงานโปรแกรมเมอร์ หรือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘งานหนัก เงินเดือนน้อย’ (เมื่อเทียบกับตำแหน่งงานอื่นในสาย IT – คอมพิวเตอร์)
โดยเฉพาะ วัฒนธรรมการทำงานของบริษัทสาย IT ในจีน ‘ทำงานตั้งแต่ 9โมงเช้า ถึง 3ทุ่ม และทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน’ หรือที่คนจีนเรียกว่า 996
จนเกิดกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์จีน เมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มโปรแกรมเมอร์ชาวจีน ออกมารวมกลุ่มต่อต้านการทำงานแบบ 996 โดยมองว่า ถูกเอาเปรียบเกินไป ตามกฎหมายแรงงานจีน ชั่วโมงการทำงานตามมาตรฐาน อยู่ที่เพียง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ 996 ฟันไปถึง 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ !!!
ในความเป็นจริง แม้จะพยายามเรียกร้องขนาดไหน หรือเรียกร้องมาเป็นระยะเวลานานเท่าใด การทำงานแบบ 996 ก็ยังคงอยู่ คนจีนที่อยู่ในสาย IT จึงตัดสินใจมองหาตำแหน่งงานใหม่ ในสายเดิมนี่แหละ ขอแค่ได้รายได้ที่ดีกว่า ไหนๆ ก็ทำงานหนักแล้ว ขอค่าตอบแทนสมน้ำสมเหนือละกัน
"นี่จึงเป็นเหตุผลที่ โปรแกรมเมอร์ทั่วๆ ไป เริ่มกลายเป็นตำแหน่งงานที่ใครๆ ก็ทำได้ และคนเก่งๆ กำลังไปทางสายอื่น"
# ตำแหน่งเนื้อหอมที่สุด คงหนีไม่พ้นสาย ‘AI – 5G’
บัณฑิตจบใหม่ หากมีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ AI (Artificial Intelligence) ในจีน สามารถมีรายได้สูงถึงปีละ 300,000 – 600,000 หยวน ต่อปี (ราว 1.5 – 3 ล้านบาท) และถ้ามีประสบการณ์ 3-5 ปี รายได้ต่อปี สูงกว่าปีละ 1.5ล้านหยวน (ราว 7.5 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศจีน เริ่มเปิดหลักสูตร AI ในระดับปริญญาโดยเฉพาะ จากเดิมที่เป็นเพียงวิชาหนึ่งในสาขาทางสายคอมพิวเตอร์ เช่น วิทยาการคอมพิวเตอร์ / วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
แต่ก็มีคนจีนจำนวนไม่น้อย ที่ต่อยอดจากสาขาทางคอมพิวเตอร์ที่เรียนจบ และศึกษา ฝึกฝนเพิ่มเติม จนมีความเชี่ยวชาญทาง AI จากนั้นเปลี่ยนสายงาน จากเดิมเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์ พอมีความรู้เฉพาะทาง และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานประเทศจีน อย่าง AI เงินเดือนก็สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
อย่างเช่น Song หนุ่มปักกิ่งวัย 28 ปี วิศวกรAI ของบริษัท Bytedance บริษัทแม่ของ TikTok แอปพลิเคชันยอดนิยม เผยว่า เขาลงคอร์สอบรม AI ระยะสั้น และเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งรายได้ของเขา เพิ่มขึ้นเป็น 2เท่า จากเดิม โดยรายได้อยู่ที่ราว 400,000 หยวนต่อปี
# ‘5G’ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงในจีน
เป็นผลมาจาก จีนกำลังผลักดันเทคโนโลยี 5G Made in China สู่ระดับนานาชาติ ผ่านทางแบรนด์จีน อย่าง Huawei ดังนั้น ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ 5G จึงเป็นที่ต้องการของตลาดในช่วง 3-5ปีมานี้ นับตั้งแต่จีนเริ่มต้นวิจัย 5G
บริษัทต่างๆในจีน พร้อมมอบรายได้ และโอกาสเติบโตทางสายงาน เพื่อดึงดูดคนที่มีความรู้ทาง 5G มาร่วมงาน ซึ่งต้องยอมรับว่า ยังอยู่ในภาวะขาดแคลน เมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการของตลาด
มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่เราได้เห็นอัตราการเติบโตของรายได้ตำแหน่งงาน 5G พุ่งมากกว่า 40% โดย เงินเดือนเริ่มต้น สำหรับบัณฑิตจบใหม่ปี 2019 อยู่ที่ 15,600 หยวน จากเดิม เพียงแค่ 10,800 หยวน เท่านั้น เมื่อ 2018
และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีก ที่หลายบริษัททางด้าน 5G จะเปิดรับตำแหน่งงานยอดฮิต อย่าง วิศวกรเครือข่าย และนักวิจัยเครือข่าย 5G โดยที่ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องเคยทำงานเกี่ยวข้องกับ 5G มาก่อน ขอแค่จบมาทางสายที่เกี่ยวข้อง เช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หรือ วิศวกรรมโทรคมนาคม เพราะปีที่ผ่านมา มีเพียง 57%ของผู้สมัครงาน ที่มีประสบการณ์ทำงานสายนี้มาก่อน
สรุปแล้ว สายงาน IT ยังคงเป็น TOP5 สายงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีน เพียงแต่แนวโน้มของตำแหน่งงานในสายนั้น เริ่มเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของเทคโนโลยี และยุคนี้ ต้องยกให้ AI + 5G สองเทคโนโลยีที่รัฐบาลจีนผลักดันอย่างสุดความสามารถ
# อ้ายจงเขียนบทความนี้และเผยแพร่ครั้งแรกที่ On UFO สื่อออนไลน์เจ้าใหม่ที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวของคนทำงานยุคใหม่โดยเฉพาะ #
อ้ายจงอ้างอิงจาก:
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
