20 มิ.ย. 2020 เวลา 10:30 • ธุรกิจ
Lockheed Martin บริษัทค้าอาวุธอันดับหนึ่งของโลก ที่มีผู้นำเป็นอดีตสาวแคชเชียร์แดรี่ควีนส์
“Lockheed Martin Corporation” ผู้ผลิตอาวุธสงครามสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นเจ้าใหญ่ที่สุดในโลก..
Lockheed ผลิตขีปนาวุธ จรวด และผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักบริษัทนี้ ในนามของผู้ผลิตเครื่องบินรบหลายรุ่นเช่น F-16 ที่กองทัพไทยใช้งาน หรือจะเป็น F-22 Raptor ที่กองทัพอเมริกันใช้งาน
แต่ที่น่าสนใจ รู้ไหมว่าผู้นำสูงสุดของบริษัทนี้ เป็นซีอีโอหญิงที่เคยเป็นอดีตสาวแคชเชียร์ ของแบรนด์ไอศกรีมแดรี่ควีนส์ มาก่อน..
ก่อนอื่น ขอพาไปทำความรู้จักในรายละเอียดของบริษัทค้าอาวุธเบอร์หนึ่งของโลกกันเสียก่อน ว่าทรงอำนาจในวงการขนาดไหน
Lockheed Martin ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1912 ใช้ชื่อในขณะนั้นว่า “Alco Hydro-Aeroplane Company”
ซึ่งกำเนิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงไม่กี่ปี โดยสองพี่น้อง “อัลลัน และมัลคอล์ม ล็อกฮีด” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “Lockheed Company” ในปี 1916 และเริ่มสร้างเรือบินสำหรับใช้ในสนามรบ ขึ้นเป็นโมเดล F-1 ครั้งแรก
หลังจากนั้น ล็อกฮีดก็เป็นผู้นำแห่งอากาศยานรบตระกูล F อยู่เรื่อยมา จนกระทั่งปี 1995 ล็อกฮีด ได้ควบรวมบริษัทกับ Martin Marietta ก่อนจะใช้ชื่อเป็น Lockhhed Martin มาจนถึงปัจจุบัน
แล้วตอนนี้ Lockheed Martin ใหญ่แค่ไหน ?
รายได้จากการค้าอาวุธให้กับกองทัพพันธมิตรทั่วโลกในแต่ละปี..
ปี 2017 มีรายได้ 49,960 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิ 1,963 ล้านเหรียญ
ปี 2018 มีรายได้ 53,762 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิ 5,046 ล้านเหรียญ
ปี 2019 มีรายได้ 59,812 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิ 6,230 ล้านเหรียญ
(ค่าเงินปัจจุบัน 1 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 31 บาท)
แต่ใครจะเชื่อว่าบริษัทค้าอาวุธหมื่นล้าน จะมีผู้นำเป็นเพศหญิง แล้วท่านผู้นำหญิงคนที่ว่านี้ คือใครกัน ?
ชื่อของเธอคือ “Marillyn Hewson” หญิงอเมริกันวัย 66 ปี ที่มีภูมิหลังจากการเติบโตในรัฐแคนซัส ทว่าชีวิตวัยเด็กของเธอ ดูเหมือนว่าครอบครัว Hewson จะมีความผูกพันกับกองทัพ เพราะหน้าที่การงานของพ่อแม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการทหารแทบทั้งหมด
Cr. Marketeer
และรู้ไหมว่าชีวิตในวัยเด็กของซีอีโอคนนี้ มาพร้อมกับการสูญเสียบิดา ผู้ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ทำให้ครอบครัวยากลำบาก จนต้องย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์ และใช้เงินเก็บที่เหลือทั้งหมดของครอบครัว มาปล่อยเช่าห้องพักเพื่อเลี้ยงดูลูก ๆ ในครอบครัว Hewson กว่า 5 คน
คุณแม่ของ Marillyn ดิ้นรนสู้ชีวิต จนได้เปิดร้านค้าของชำ โดยที่มีลูกจ้างคือลูกสาว Marillyn เอง
นอกจากนี้ Marillyn ยังได้พยายามแบ่งเบาภาระของครอบครัว ด้วยการหางานทำเสริมตามค่านิยมของอเมริกัน ซึ่งงานที่เธอเคยทำเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น นั่นก็คือแคชเชียร์ที่ร้าน Dairy Queen
ด้วยแววความเป็นผู้นำตั้งแต่ยังสาว รู้ไหมว่าเธอได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ากะในเวลาไม่นาน ถัดจากนั้น Marillyn ก็เรียนต่อปริญญาตรีสายบริหาร และต่อปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ที่ Alabama
หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานเต็มตัวครั้งแรก ในตำแหน่งนักเศรษฐศาสตร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ นานถึง 4 ปี
คำถามก็คือ เธอมาเป็นผู้นำบริษัทค้าอาวุธได้อย่างไร ?
Cr. Marketeer
ด้วยความผูกพันธ์กับกองทัพตั้งแต่เยาว์วัย และอาชีพนักเศรษฐศาสตร์ดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก ปี 1983 เธอจึงได้สมัครเข้าทำงานกับ Lockheed Martin
โดยตำแหน่งสายงานของเธอ ได้ผ่านการเป็นหัวหน้าหลายแผนก แถมตอนที่เธอมีครอบครัวยังหมดห่วงเรื่องการเลี้ยงดูลูก เพราะมีสามีที่ดีคอยทำหน้าที่แทนให้อยู่ตลอด
และในปี 2012 เป็นปีที่เธอได้รับเกียรติให้นั่งบนเพดานบินบอร์ดบริหารสูงสุดของ Lockheed Martin ก่อนจะได้รับคัดเลือกให้นั่งบัลลังก์ซีอีโอในปีถัดมา
แม้ช่วงแรกจะประสบปัญหาจากหลาย ๆ เรื่อง แต่เธอก็สามารถแก้เกมด้วยหมัดเด็ด ๆ มาเรื่อย และรู้ไหมว่าหนึ่งในผลงานที่ผู้นำหญิงคนแรกแห่งบริษัทค้าอาวุธอันดับหนึ่งของโลกได้ทำไว้
นั่นก็คือบริหารจน Lockheed Martin ก้าวหน้ามีมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 108,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือทำลายเพดานหลักล้านล้านบาท หากเทียบเป็นเงินไทย
แถมยังเคยกล่อมให้รัฐบาลชองทรัมป์ ซื้อฝูงเครื่องบินรบ F-35 กว่า 500 ลำเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในราคารวมกว่า 34,000 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่ถือได้ว่าเป็น ก้อนใหญ่สุดสำหรับซื้ออาวุธในประวัติศาสตร์อเมริกา
Cr. Marketeer
หลังจากที่ Marillyn Hewson นั่งอยู่บนบัลลังก์ซีอีโอหญิงแห่ง Lockheed Martin นานถึง 8 ปี
15 มิถุนายนที่ผ่านมา เธอได้ก้าวลงจากเก้าอี้พร้อมความสำเร็จ และการยกย่องจากหลาย ๆ หน่วยงานทั่วโลก..
ปิดท้ายกันด้วยความน่าสนใจ ของบริษัท Lockheed Martin
รู้ไหมว่าทุกวิกฤติความขัดแย้งบนโลก ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1916 มาจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามอินโดจีน สงครามคาบสมุทรเกาหลี และอีกหลาย ๆ สมรภูมิ
แทบทุกธุรกิจในช่วงดังกล่าว ต่างก็เดือดร้อนสุด แต่ Lockheed Martin กลับรุ่งสุด เพราะเป็นช่วงเวลาเงินเวลาทองที่สินค้าของบริษัทขายดี แถมยังเป็นช่วงที่โปรโมทได้ว่า สินค้าของตนเองมีแสนยานุภาพเหนือกว่าใครๆ ในโลก.. มากถึงขนาดไหน..
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
โฆษณา