30 ส.ค. 2020 เวลา 14:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
* The Blob คลื่นแห่งความตาย
เรื่องราวของ The Blob เปิดฉากขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2013 เมื่อมวลน้ำอุ่นขนาดใหญ่ใต้ทะเลได้ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆในอ่าวอลาสกา ตั้งแต่นั้นมีรายงานถึงความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย เพียงแต่ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
ความเสียหายที่เป็นผลมาจาก The Blob ถูกรายงานในช่วงปี 2015 ถึง 2016 เริ่มจากพบนกทะเล Murre (Uria aalge) ตายนับล้านตัว ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นเกลื่อนชายฝั่ง ยาวลงมาทั้งแถบชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาเหนือ จากอลาสกาถึงแคลิฟอร์เนีย
นก Murre ตัวนี้ถูกถ่ายภาพได้ที่ชายฝั่งของเกาะ Kodiak อลาสกา ร่างกายสภาพอ่อนแอจนบินไม่ไหว
Courtesy Robin Corcoran/US Fish and wildlife service [earthdata.nasa.gov]
ลูกสิงโตทะเลหลายตัวถูกพบในสภาพผอมโซ ริมชายฝั่งแคลิฟอร์เนียเนื่องจากขาดอาหารเป็นเวลานาน เมื่อดูจากข้อมูลที่มีการบันทึกไว้ พบว่าจำนวนสิงโตทะเลที่ขาดแคลนอาหารมีมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 20 เท่า
Courtesy National Oceanic and Atmospheric Administration Fisheries West Coast [earthdata.nasa.gov]
fisheries.noaa.gov
นากทะเลถูกพบนอนตายอยู่ริมชายฝั่งอลาสก้า ทั้งที่นักวิทยาศาสตร์เคยสำรวจและติดตามประชากรนากทะเลกลุ่มนี้ ที่อ่าว Kachemak ว่ามีสุขภาพดี แต่ในปี 2015 กลับพบว่ามีนากทะเลตายมากถึง 79 ตัวในเดือนเดียว
Paul Nicklen [nationalgeographic.com]
Paul Nicklen [nationalgeographic.com]
แมงกะพรุนที่ลอยตัวตามกระแสน้ำกระแสลมก็ยังถูกพัดมาเกยตื้นที่ชายฝั่งของรัฐ Oregon เป็นจำนวนมากนับล้านตัว บ่งบอกถึงความผิดปกติของทั้งกระแสน้ำและกระแสลมที่พัดสิ่งมีชีวิตลอยตัวอย่างแมงกะพรุนจากอ่าวทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย สู่ Birtish Columbia ประเทศแคนาดา
Paul Nicklen [nationalgeographic.com]
แม้แต่พฤติกรรมการกินอาหารของวาฬหลังค่อมก็เปลี่ยนไป Jim Harvey หัวหน้าแล็บของ Moss Landing Marine สังเกตว่าวาฬหลังค่อมประมาณ 50 ถึง 60 ตัว มารวมกันแย่งปลาแอนโชวี่ภายในบริเวณเดียวต่อการหาอาหารหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ
Paul Nicklen [nationalgeographic.com]
‘Too much warmth and too little wind fueled a massive marine heat wave along the Pacific Coast’
ความร้อนมากเกินไป และ กระแสลมน้อยเกินไป คือคำกล่าวสั้นๆถึงสาเหตุการเกิดของ The Blob ถึงแม้สาเหตุที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่โดยปกติการเกิด Heat Wave หรือคลื่นความร้อนในทะเลเกิดจากการที่น้ำทะเลคายความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศได้น้อยลง ทำให้อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น ประกอบกับและกระแสลมและกระแสน้ำนิ่ง มวลน้ำไม่มีการเคลื่อนที่ ขังความร้อนไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
ปรากฎการณ์นี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2013 โดยทีมจาก University of Washington ว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลในอ่าวอลาสกาเพิ่มสูงผิดไปจากเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของทุกปี ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 พบว่าอุณหภูมิของ The Blob สูงกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2.5 องศาเซลเซียส
1
โดยตอนแรก รายงานความยาวอยู่ที่ 800 กิโลเมตร ลึก 91 เมตร แต่หลังจากนั้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ก็ได้ขยายขนาดเป็นสองเท่า คือ 1,600 กิโลเมตร จนสุดท้ายวัดความยาวได้ 3,200 กิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาเหนือทั้งหมด ตั้งแต่อลาสกายาวเรื่อยมาจนถึงเม็กซิโก
นอกจาก The Blob จะขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ ยังเป็น Heat Wave ที่ปรากฎอยู่นานเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2013 เพราะนักวิทยาศาสตร์รายงานว่า The Blob เพิ่งหายไปเมื่อปี 2016
รายงานจำนวนศพนกทั้งหมดที่ถูกพบเกยตื้นบริเวณชายฝั่ง ที่มา: PLOSone
ก่อนที่ความผิดปกติจะกระทบกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ริมชายฝั่งจนเห็นได้ชัดในช่วงปี 2014-2015 ปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างแรกเมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลร้อนขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ ก็ได้มีปรากฎการณ์ algae bloom หรือ สาหร่ายบลูม เกิดตามมา ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลงและก่อให้เกิดมลพิษในน้ำทะเล ส่งผลกระทบต่อปลาเล็กปลาน้อยเป็นอย่างมาก
เมื่อจำนวนปลาลดลง สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่บริโภคปลาเป็นอาหารอย่างสิงโตทะเล นากทะเล นกทะเล และวาฬ จึงได้รับผลกระทบ อดตายเป็นจำนวนมากเพราะขาดแคลนอาหารยาวนานหลายปี
ความเสียหายยังส่งผลไปถึงอุตสาหกรรมประมง เนื่องจากปริมาณปลาลดลงมาก ทำให้ต้องหยุดกิจการลงเพราะไม่สามารถจับปลาได้ นับว่า The Blob เป็นคลื่นความร้อนครั้งรุนแรงที่ถูกกล่าวถึงมากสุดในประวัติศาสตร์ เพราะทำลายระบบนิเวศใต้ทะเลและริมชายฝั่งแบบครบทั้งวงจร ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆไปจนถึงมนุษย์ ผู้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
ถึงแม้ว่า คลื่นความร้อนใต้ทะเล หรือ Marine heat wave จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ดูเหมือนว่าปัญหาโลกร้อนจะทำให้ปรากฎการณ์นี้มีความรุนแรงมากขึ้นและเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
Data are from the NASA Multi-scale Ultra-high Resolution Sea Surface Temperature (MUR SST) Analysis product (Courtsey NASA Physical Oceanography Dritributed Active Archive Center) [earthdata.nasa.gov]
🐳 จากรูป: แสดงให้เห็นถึงคลื่นความร้อน The Blob ปกคลุมทะเลแปซิฟิกในช่วงปี 2015
References:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา