เมื่อหญิงไล่ปี้ชาย ทุกรายบนเกาะ
ลองนึกเล่น ๆ ครับว่า หากคุณต้องขึ้นไปเผชิญชีวิตอยู่บนเกาะ ที่มีผู้หญิงไล่ปล้ำผู้ชายไม่เว้นวัน คุณจะทำอย่างไร นี่ไม่ใช่ภาพยนต์หรือนิยาย แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น บนเกาะแห่งหนึ่ง เกาะที่มีชื่อว่า "Trobriand Island" ครับ มันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร เกาะผู้เขียนมาครับ เดี๋ยวจะพาว่ายน้ำ ข้ามกันไป
เกาะสวาท หาดสววรค์ที่หลายคนเคยชมในหนัง หรือภาพยนต์สายเรทอาร์ หลาย ๆ เรื่อง น่าจะเคยทำให้จินตนาการ กันไปต่าง ๆ นานา ถึงความสุนทรีย์ที่ได้รับจาก สายลม แสงแดด และสองเรา แต่ผู้เขียนเชื่อว่า หลายท่าน น่าจะยังไม่เคยไปสัมผัส รสชาติความเสียวซ่านจากเกาะนี้เป็นแน่ เมื่อผู้หญิงบนเกาะหิวกระหายรสรัก เพื่อประทังความต้องการของเธอ
เกาะแห่งความอภิรมย์นี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "Trobriand Island" หรือ เกาะโทรบริอัน นั่นเอง มันเป็นเกาะเล็ก ๆ ในหมู่เกาะนิวกินีครับ หลายคนคงเริ่มผงะ หลังจากเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา เพราะคนแถวนั้น ช่ำชองเรื่องการกินเนื้อคน และฆ่าฟัน
อย่าพึ่งเข้าใจผิดครับ เพราะแม้ว่าจะมีการล่าหัวคน แต่ก็เป็นประเพณีของชาวเกาะ ที่ต้องยกพวกออกล่าชาวเกาะด้วยกันเอง แล้วก็ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะฆ่าแกง กินกันเอง ทุกอย่างมันมีชนวนสาเหตุ ทำให้เกิดไฟและศึกแห่งชาวเกาะ
ความน่าสนใจอยู่ที่ ประเพณีอันยึดถือปฎิบัติกันมาอย่างยาวนาน ของชาวเกาะโทรบริอันครับ เมื่อหญิงสาวของเกาะเริ่มย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ พวกเธอสามารถสร้างปฎิสัมพันธ์กับใครก็ได้ และสามารถร่วมรักได้ตามแต่เธอปราถนา มีข้อยกเว้นเพียงข้อเดียว คือห้ามมีความเกี่ยวพันธ์กับสายเลือดเดียวกัน
นี่จึงเป็นที่มา ของชาวแผ่นดินใหญ่ ที่อยากลิ้มลองรสชาติ อารมย์สุนทรีย์แห่งเกาะที่ขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งความอภิรมย์ ทุกคนที่เคยแอบขึ้นเกาะนี้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ถึงสาวน้อย สาวใหญ่ชาวโทรบริอัน ที่ไล่กระหน่ำ ซัมเมอร์เซลล์ ชายที่หลงเข้าไป ชนิดกลับมาแผ่นดินใหญ่ เป็นต้องปากซีดไปตาม ๆ กัน
เรื่องราวของสาว ๆ บนเกาะแห่งนี้ ที่มีความคึกคะนอง ช่ำชองในสกิลอย่างว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด นั่นเพราะธรรมเนียมปฎิบัติ ที่เค้ายึดถือ สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คือสามารถมีเซ็กส์ได้อย่างเสรี และไม่จำกัด ตราบเท่าที่ยังไม่ได้แต่งงาน หรือลงเอยเป็นคู่ผัว ตัวเมียกับใคร
นอกเหนือไปกว่านั้น นอกจากจะซัมติงกันเองเฉพาะชาวเกาะแล้ว ระยะหลังยังเปิดโอกาสให้ กะทิชาวเกาะจากแผ่นดินใหญ่ เข้าร่วมพิสูจน์อาการฟ้าเหลืองกันได้อีกด้วย .. แน่นอนว่า จนกว่าสาว ๆ เหล่านั้นจะได้แต่งงาน ฝีมือเรื่องบนเตียง ย่อมเข้าขั้นปรมาจารย์เลยทีเดียว
สำหรับเชื้อสาย หรือลักษณะทางพันธุธรรมของชาวเกาะในปัจจุบันนั้น มีความหลากหลายกว่าแต่ก่อนมากครับ นั่นเป็นเพราะการปฎิสนธิข้ามสายพันธุ์กับชนผิวขาว แต่ชนพื้นเมืองบนเกาะนั้น มีลักษณะหน้าตาแบบชาวเลย์ปนกับชาวดายัค บางคนอาจจะคล้าย ๆ เงาะป่าบ้านเรา แต่บางคนก็จะเหมือนชาวมาเลย์ไปเลย
สาวน้อย สาวใหญ่บนเกาะแห่งนี้ แต่งกายด้วยกระโปรงแบบริ้วครับ นั่นแปลว่ามีอะไร แว้ป ๆ แวม ๆ ให้ชมกันไม่ได้ขาดสายตา ส่วนฝ่ายชายจะแต่งตัวง่าย ๆ ครับ ด้วยใบตาล ที่ปิดเจ้าช้างน้อยไว้ขณะหลับไหล อย่าสงสัยเวลาตื่น ว่ามันจะผงาดจนหลุดออกจากใบตาลหรือเปล่า
เด็กสาวของที่นี่ จะซึมซับวัฒนธรรมประเพณีนี้ตั้งแต่ยังเด็ก อันเนื่องด้วยสิ่งแวดล้อมแบบชาวเกาะ ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งที่หนุ่มสาว มีกิจกรรมเข้าจังหวะ คงจะหาจุดหลบสายตาได้ไม่ง่ายนัก รวมไปถึง ชาวเกาะ ยังเป็นเชื้อชาติที่ไม่ค่อยปกปิดเรื่องนี้กันมาก อาจมีบ่อยครั้ง ที่เด็ก ๆ จะพบเห็นได้บนเกาะโทรบริอัน
เกร็ดความรู้อย่างหนึ่ง ของการร่วมรักกับสาว ๆ ชาวเกาะ จะมีท่าบังคับเพียงท่าเดียว คือผู้หญิงจะต้องนอนหงายโดยไม่ให้ก้นแตะพื้น หรือก้น ต้องลอยอยู่เหนือพื้น สองถึงสามนิ้วเป็นอย่างน้อย ตลอดช่วงกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกัน (อย่าถามว่าเหนื่อยไหม .. ตอบเลยว่าคงมาก)
แต่อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน หลังจากมีการเปิดทัวร์ (ไม่ถึงขนาดนั้น) ทำให้ท่วงท่าอื่น ๆ ถูกแอบนำไปใช้กันอยู่บ้าง ตามแต่สถานะการณ์ นั่นแน่นอนว่าสาวชาวเกาะ อาจจะรู้สึกถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่อาจจะนำไปต่อยอด แม้ว่าจะเป็นการผิดประเพณีอยู่บ้าง ทว่าก็ไม่ได้มีความเข้มงวดมากนัก
สำหรับการเตรียมตัวออกไปผจญภัย ในดินแดนทะลุมิติ สาว ๆ จะใช้รากไม้ชนิดหนึ่ง ทาฟันของตัวเองจนดำสนิท ว่ากันว่า มันสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนทางเพศให้แก่ฝ่ายชายได้เป็นอย่างดี .. อย่าสงสัยว่าฟันดำ ๆ มันทำให้มีอารมณ์ตรงไหน ผู้เขียนก็สงสัยเหมือนกัน
ที่ลืมไม่ได้คือ ลิปสติ๊กสีแดงแปร๊ดด แม้ว่าบนเกาะจะไม่มีร้านสะดวกซื้อ แต่นาง ๆ ก็ครีเอทสินค้าขึ้นใช้เอง ด้วยการใช้หมากสุกหรือชาด ทาริมฝีปากจนกลายเป็นสีแดงสด ซึ่งนั่นแสดงความหมายเป็นนัยว่า แม่นางถึงเวลาจะต้องขึ้นประจำการ บนกระสวยอวกาศแล้ว
บางคนใช้สีดำมาทาแก้มเป็นวง ๆ ไม่ก็เขียนคิ้ว (อันนี้อินเทรนด์มาก) จากนั้นจึงค่อยนัดแนะ ชายหนุ่มผู้ที่ตนหมายปอง ออกไปทำภาระกิจ พิชิตขุมทรัพย์หมื่นฟาเรนไฮต์ ส่วนมากจะนิยมเป็นเขตป่า หรือสถานที่ ซึ่งไม่มีคนพลุกพล่าน ถามว่าต้องมิดชิด 100% ไหม (คงไม่ม้างงงง)
มีกฎข้อบังคับอยู่ข้อนึง ซึ่งถือเป็นประเพณีที่ห้ามฝ่าฝืน ว่าด้วยห้ามไม่ให้ฝ่ายชาย ปฎิเสธไมตรีจากฝ่ายหญิง ไม่ว่าฝ่ายหญิงต้องการอะไร ฝ่ายชายต้องทำตาม ที่หล่อนต้องการทุกอย่าง นี่เอง จึงเป็นที่มาของการไล่ปล้ำผู้ชายของชาวเกาะ หากใครปฎิเสธถือว่าผิดประเพณีด้วยความจงใจ (สำหรับการลงโทษ แหล่งข้อมูลไม่ได้กล่าวถึงครับ)
แน่นอนว่าพวกเธอสามารถคัดเลือกผู้ชาย ได้มากเท่าที่ต้องการ จนกว่าจะพบสเปคที่หล่อนต้องการที่สุด รวมไปถึงความจัดจ้าน ในด้านของสายเลือด นั่นทำให้หนุ่ม ๆ บนเกาะ อาจเป็นเพศที่ถูกกดขี่ ในแบบที่เราคงไม่เข้าใจ แต่ทว่าชีวิตหลังจากแต่งงาน ทั้งหญิงและชาย จะไม่มีการมั่วเซ็กส์อีกต่อไป
ทุกวันนี้ ประเพณีของชาวเกาะ ยังคงยึดถือปฎิบัติกันอยู่ รวมถึงเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติ เข้าไปร่วมค้นหามิติพิศวง ผู้เขียนไม่สามารถหาข้อมูลในส่วนที่เป็นการป้องกัน สิ่งที่จะตามมา หลังอารมณ์ครึกครื้นเหล่านั้นได้ เพียงแต่อยากบอกว่า ใครที่กำลังคิดจะหนีโลกอันแสนสับสน ไปผจญภัยบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ อาจจะต้องคิดหน้า คิดหลังหลาย ๆ รอบครับ
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ครับ
กดไลค์หากถูกใจ แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์ คอมเมนท์เพื่อแนะนำติชม
ติดต่อเราที่นี่
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
