29 มิ.ย. 2020 เวลา 12:33 • ข่าว
เรื่องราวของเทอร์รี่ โจ [พาร์ทสุดท้าย]
จูเลียน ฮาร์เวย์ ผู้ที่ถูกครอบครัวดูเปอร์โรวต์ว่าจ้างให้เป็นกัปตันเรือ
เขาคือชายหนุ่มวัย 44 ปี ที่เกษียณตัวเองจากการเป็นพลอากาศโท
จูเลียน ฮาร์เวย์ และ แมร์รี่ ดีน จอร์แดน
เขาแต่งงานกับแมร์รี่ ดีน จอร์แดน นักเขียนผู้เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน
และเป็นอดีตลูกเรือของสายการบินTWA
วันต่อมาหลังจากที่บลูเบลล์จมลง เรือขนน้ำมันเขตPuerto Rico ได้พบกับเรือบดเล็กที่ทำมาจากไม้ลอยอยู่กลางมหาสมุทร
เมื่อกัปตันหันเรือเข้าไปใกล้ขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่บนเรือบดเล็กก็ตะโกนออกมาว่า....
.....“ผมชื่อจูเลียน ฮาร์เวย์ ผมเป็นเจ้าของเรือบลูเบลล์”.....
ในวันต่อมา ฮาร์เวย์บอกกับยามชายฝั่งในไมอามี่ว่าเขาเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากเหตุการณ์วันนั้น
เขาแจ้งว่าในคืนนั้นเรือบลูเบลล์ถูกโจมตีโดยพายุลูกหนึ่งแบบไม่ทันตั้งตัว
ทำให้ภรรยาของเขากับครอบครัวดูเปอร์โรวต์ได้รับบาดเจ็บ ผ้าใบและเสากระโดงเรือพังลง ท่อส่งก๊าซในห้องเครื่องยนต์ร้าว จากนั้นก็เกิดไฟลุกขึ้นจนกระทั่งเรือจมลงในที่สุด
ฮาร์เวย์บอกว่าเขาได้ปล่อยเรือบดเล็กลงสู่ท้องทะเล แต่คนอื่นๆถูกขวางโดยผ้าใบที่ร่วงลงมาบนดาดฟ้า
ไม่กี่วันต่อมาในโรงแรมแซนด์แมน ฮาร์เวย์ได้ยินข่าวเรื่องที่เทอร์รี่ โจรอดชีวิต
ในวันต่อมาแม่บ้านโรงแรมเห็นเลือดอยู่บนที่นอนในห้องของฮาร์เวย์
แต่เธอไม่สามารถเปิดประตูห้องน้ำได้ ผู้จัดการของเธอเลยติดต่อไปหาตำรวจ
พวกเขาพังประตูเข้าไปและพบร่างอันไร้วิญญาณของฮาร์เวย์นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เป็นการฆ่าตัวตาย
หลังจากที่เทอร์รี่ โจได้รับการช่วยเหลือจากเรือขนส่งสินค้าสัญชาติกรีก เธอได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลไมอามี่โดยเฮลิคอปเตอร์
ในสัปดาห์ต่อมา ตำรวจได้ไปพบเธอที่โรงพยาบาล เธอได้หักล้างคำให้การของฮาร์เวย์อย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น
พ่อ แม่ พี่ชาย และน้องสาวของเธอ รวมไปถึงแมร์รี่ ดีนภรรยาของฮาร์เวย์ ถูกฆาตกรรมบนเรือบลูเบลล์จนหมด
ตำรวจสันนิษฐานว่าจูเลียน ฮาร์เวย์ฆ่าภรรยาของเขาเพื่อเงินประกัน
แต่ครอบครัวดูเปอร์โรวต์ดันมาเห็นเหตุการณ์นั้นเข้า เขาเลยตัดสินใจลงมือฆ่าทุกคน
เทอร์รี่ โจ กลับไปที่กรีนเบย์ เพื่ออาศัยอยู่กับน้องสาวของพ่อและลูกพี่ลูกน้องอีก3คน
เมื่อเธออายุได้12ปี เธอก็ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น “แทร์”
ต่อมา50 ปีให้หลัง ในปี2020 แทร์ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดของคืนนั้นที่ครอบครัวของเธอถูกฆ่า และการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวตลอด4วันบนผืนน้ำท่ามกลางมหาสมุทร
โดยเธอเขียนเป็นหนังสือที่มีชื่อว่า “Alone: Orphaned on the Ocean.”
“ฉันเชื่อมาเสมอว่าฉันถูกช่วยเพราะเหตุผลบางอย่าง”
 
แทร์กล่าวกับช่องข่าวCBS
“ถ้าหากมีใครสักคนที่ได้รับการเยียวยาจากเรื่องเลวร้ายในชีวิตหลังจากอ่านเรื่องราวของฉัน.....การเดินทางของฉันก็ถือว่าคุ้มค่า”
http://funtobebad.blogspot.com/2016/10/young-survivor-rescued-from-sea-in-1961.html
โฆษณา