28 มิ.ย. 2020 เวลา 14:06 • ข่าว
เรื่องราวของเทอร์รี่ โจ ดูเฟอร์โรวต์ Part.2
ในเช้าวันจันทร์ ดวงอาทิตย์ช่วยไล่ความหนาวเหน็บออกไปจากร่างกายของเทอร์รี่ โจ
แต่ในขณะเดียวกัน ความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้อุณหภูมิบริเวณที่เทอร์รี่ โจอยู่พุ่งขึ้นสูงถึง 30 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
30 องศาอาจจะฟังดูธรรมดา แต่เธอเป็นเด็กสาวที่เพิ่งตัวเปียกโชกมา และอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั้นไม่ดีต่อสุขภาพเธอนัก
และด้วยความที่เธอมีผิวขาว ทำให้ไวต่อแสงแดดมาก มันเผาเธอจนตัวแดง
เทอร์รี่ โจ คอแห้งผากจากการขาดน้ำและอาหาร แต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกหิว หรือกระหายอยู่เลย
ในวันต่อมา(วันอังคาร) เทอร์รี่ โจเห็นเครื่องบินลำเล็กสีแดงบินอยู่เหนือศรีษะของเธอ เธอจึงพยายามโบกไม้โบกมือ
เครื่องบินลำดังกล่าวบินโฉบเข้ามาใกล้ ใกล้มากจนเทอร์รี่ โจสามารถเห็นรายละเอียดใต้ท้องเครื่องบินลำนั้นได้ แต่ที่น่าเศร้าก็คือด้วยองศาและทิศทางที่เธอยืนอยู่ ทำให้นักบินไม่สามารถมองเห็นเธอที่อยู่ใกล้แค่นี้ได้
โอกาสที่จะมีใครสักคนล่องเรือ หรือขับเครื่องบินผ่านมาแล้วสังเกตเห็นเทอร์รี่ โจมีน้อยมาก ด้วยความที่เธอเป็นเพียงเด็กสาว แพชูชีพที่นั่งมาก็เป็นสีขาวลำเล็กๆ ผมสีบลอนด์ และเสื้อนอน ในตัวเธอไม่มีอะไรที่ดูฉูดฉาดมากพอที่จะมองเห็นได้ชัดเจนเลย
ในบ่ายวันเดียวกันนั้น เทอร์รี่ โจเห็นเงาบางอย่างดำผุดดำว่ายอยู่ไม่ไกลจากตัวเธอนัก
เงานั้นค่อยๆเคลื่อนเข้ามาหาเธอ จนเธอเห็นว่ามันคือปลาโลมาจำนวนหนึ่ง
โลมากลุ่มนี้จ้องมองมายังเธอด้วยดวงตากลมโตสีดำ แต่แทนที่จะทำให้เธอกลัว หรือตกใจ เธอกลับรู้สึกสบายใจแบบแปลกๆ
เทอร์รี่ โจขอบคุณพระเจ้าที่ได้ส่งปลาโลมาฝูงนี้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอหลายชั่วโมงด้วยกันก่อนจะว่ายน้ำจากไปตามทางของมัน
เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มถูกบดบังโดยหมู่เมฆของยามบ่าย เทอร์รี่ โจใช้มือกวักน้ำ สาดใส่ผิวหนังที่โดนแดดเผาไหม้จนแสบและเป็นรอย
ป่าอันร่มรื่นที่วิสเคาน์ซิน
น้ำเย็นสดชื่นที่กรีนเบย์
ทุกอย่างดูห่างไกลออกไป
แล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆเคลื่อนต่ำลง จนลับหายไปกับขอบฟ้าในที่สุด
ในคืนวันอังคารนี้ มันช่างมืดมิดเหลือเกิน แต่มันก็ได้นำความโล่งใจมาให้เธอ
บนแพชูชีพที่ขยับขึ้นลงตามแรงคลื่นในคืนที่สามนี้ เทอร์รี่ โจได้ฝันเห็นตัวเองอยู่ในห้องโดยสารของเครื่องบินที่กำลังลงจอด
เธอเห็นเส้นบรรจบของรันเวย์เครื่องบินที่แสงส่องประกายทอดยาวท่ามกลางความมืดมิด ดูยากที่จะหยั่งถึง
ในความฝัน เธอเห็นพ่อของเธอ นั่งอย่างสงบกับแก้วที่ถูกรินด้วยไวน์แดง
ถึงแม้ว่าเทอร์รี่ โจจะไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน แต่มันดูสดชื่นมากๆ แบบที่เธอต้องการมาดับกระหายเลยแหละ
จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงพ่อของเธอเรียก
"มาเร็วเทอร์รี่ โจ! พวกเราจะไปกันแล้ว!"
วันพุธถูกเริ่มต้นด้วยแสงสว่างเจิดจ้า และเริ่มจะร้อนระอุอย่างรวดเร็ว
การที่เธอแหงนหน้าไปทางพระอาทิตย์ทำให้ตาเธอแห้งและเจ็บปวดมาก
กล้ามเนื้อของเธอมันปวดเมื่อยไปหมด
ผิวหนังถูกเผาทะลุเสื้อและกางเกงบางๆของเธอ
ริมฝีปากแห้งหยาบและปูดบวม
ตลอดเวลาเทอร์รี่ โจจะต้องพยายามนั่งอยู่บนขอบแพชูชีพ ที่เชือกตรงกลางเริ่มเปื่อยยุ่ย และขาดแล้ว
ตอนนี้เธอเห็นภาพลวงตามากขึ้น เธอเห็นภาพหลอนเป็นเกาะทะเลทรายที่มีต้นปาล์มอยู่โดดๆหนึ่งต้น เธอพยายามใช้มือพายน้ำเพื่อให้ตัวเองไปถึงเกาะนั้น แต่มันก็หายไป
ท้ายที่สุดเธอก็หมดสติไป.....
ภาพของเทอร์รี่ โจ ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว
เมื่อดวงอาทิตย์ที่แสนโหดร้ายโผล่ขึ้นมาในวันพฤหัสบดี เทอร์รี่ โจไม่ได้สัมผัสถึงแสงที่กำลังเผาร่างหายของเธอเลย
เทอร์รี่ โจเธอหลับลึกมาก ตอนนี้เธออยู่หน้าประตูแห่งความตายแล้ว
เมื่อแสงสลัวของชีวิตที่กำลังจะดับวูบลงได้ส่องแสงวาบขึ้นมาเบาๆอีกครั้ง
ช่วงสายของเช้าวันที่สี่ กับการลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนแพชูชีพ
เทอร์รี่ โจ รู้สึกตัวและลืมตา
เงาดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอราวกับสัตว์ร้ายตัวใหญ่
มันมีเสียงที่ดังก้องจนทำให้หัวใจของเธอสั่นกลัว
เมื่อเธอจ้องมองมันนานขึ้นเรื่อยๆ รูปร่างมันก็ค่อยๆเปลี่ยนจากสิ่งมีชีวิตประหลาดๆขนาดใหญ่ กลายเป็นกำแพงแข็งๆสีดำขนาดใหญ่ลอยตัวอยู่บนน้ำ
เทอร์รี่ โจเงยหน้ามองขึ้นไปเหนือกำแพง เธอเห็นศรีษะของคนจำนวนหนึ่ง และแขนที่ชูขึ้นโบกไปมา
เสียงตะโกนจำนวนมากที่ดังเข้าหูของเธอฟังดูเรือนราง
ท้ายที่สุด เธอก็สัมผัสได้ถึงแขนที่แข็งแรงของคนที่กำลังช่วยกันพาเธอขึ้นไปบนเรือ ในขณะที่ตัวเธอเองกำลังหมดสติไป
เทอร์รี่ โจ ตอนที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว
[ ภาพทั้งหมด เราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เป็นภาพจากข่าวที่ถูกรวบรวมมาจากหลายที่และเกิน50ปีแล้วค่ะ ]
[ พาร์ทต่อไป เป็นพาร์ทสุดท้ายแล้วค่า ]
โฆษณา