4 ก.ค. 2020 เวลา 02:42 • ประวัติศาสตร์
มิตรภาพหลังความอยุติธรรม...
คืนหนึ่งในปี 1984 ขณะที่เจนนิเฟอร์นักศึกษาสาววัย 22 ปี กำลังนอนอยู่ในห้องก็ได้มีชายคนหนึ่งบุกเข้ามาพร้อมกับใช้มีดจี้เข้าที่คอแล้วลงมือข่มขืนเธออย่างโหดร้าย
เมื่อขัดขืนไม่ได้เจนนิเฟอร์จึงพยายามที่จะจดจำตำหนิรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สีผิว และเสียงพูด
ต่อมาเจนนิเฟอร์ก็ได้ไปแจ้งความโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สเก็ตช์ภาพคนร้ายตามคำให้การของเธอ แล้วนำภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยมาให้เลือก เธอก็ได้เลือกรูปของโรนัลด์ คอตตอนจากรูปถ่ายหลายๆ ใบตรงหน้า
และเมื่อถึงขึ้นตอนการชี้ตัวคนร้ายเธอก็ชี้ไปที่โรนัลด์ คอตตอน ที่ยืนปะปนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในห้องชี้ตัว ซึ่งเธอมั่นใจว่าเค้าคือคนที่ข่มขืนเธอในวันนั้นแน่นอน...
เจนนิเฟอร์ยืนยันในชั้นศาลโดยเชื่อมั่นว่าเค้าคือคนที่ข่มขืนเธอ
..."ฉันเกลียดโรนัลด์ คอตตอน เกลียดครอบครัวของเค้า ใครก็ตามที่อยู่ข้างๆ และพยายามที่จะช่วยเค้าฉันเกลียดทั้งหมดทุกคน ฉันอยากจะฆ่าเค้าให้ตาย แค่ติดคุกมันน้อยไป"...
นี่คือคำพูดส่วนหนึ่งที่เจนนิเฟอร์พูดในชั้นศาล
แม้ว่าโรนัลด์จะยืนยันว่าเค้าคือผู้บริสุทธิ์แต่ก็ไม่เป็นผล โดยหลักฐานในการพิจารณาคดีรวมถึงไฟฉายที่พบในบ้านของโรนัลด์ซึ่งคล้ายกับที่คนร้ายใช้และรอยยางจากรองเท้าของเค้าที่สอดคล้องกับรอยเท้าที่พบในที่เกิดเหตุ
ต่อมาศาลได้ตัดสินให้โรนัลด์รับโทษจำคุกจากคดีข่มขืนและลักทรัพย์สองคดีเป็นเวลา 54 ปี
หลังฟังคำตัดสินเจนนิเฟอร์พูดว่า ...
...“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันหายใจได้เต็มปอด ฉันจะดื่มแชมเปญฉลอง”...
เจนนิเฟอร์ (บน) โรนัลด์ (ล่าง)
โรนัลด์ขณะถูกจับกุม
ภาพนี้โรนัลด์ยืนปะปนกับตำรวจเพื่อให้ชี้ตัว
ผู้ร้ายตัวจริงสารภาพผิด...
ในขณะที่อยู่ในเรือนจำมีนักโทษชายคนหนึ่งชื่อว่า "บ๊อบบี้ พูล" ซึ่งได้รับโทษจากคดีข่มขืนจำคุกตลอดชีวิต ม้นช่างบังเอิญที่ชายคนนี้มีความคล้ายคลึงกับโรนัลด์อย่างมากจนทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำสับสนระหว่างสองคนนี้ตลอดเวลา
ต่อมาบ๊อบบี้ได้สารภาพกับเพื่อนร่วมห้องขังว่าแท้จริงแล้วเค้าคือคนที่ลงมือข่มขืนเจนนิเฟอร์เอง และนั่นยิ่งทำให้โรนัลด์ต้องการพ้นจากมลทินนี้ซะทีจึงได้ยื่นอุทธรณ์ร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากน้ำอสุจิ ซึ่งในตอนนั้นการตรวจดีเอ็นเอเป็นเทคนิคใหม่ที่ใช้ในหาหลักฐานเพื่อระบุตัวคนร้าย
บ๊อบบี้ พูลส์ ผู้ร้ายตัวจริง (ซ้าย) โรนัลด์ คอตตอน แพะที่ตกเป็นผู้ต้องหาเพราะเหยื่อจำคนผิด (ขวา)
จริงๆ ภาพเสก๊ตช์หน้าคนร้ายเหมือนกับบ๊อบ พูล มากกว่าอีกนะ
การตรวจสอบหลังการลงโทษ...
โรนัลด์ซึ่งเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองพยายามยื่นอุทธรณ์หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมาในปี 1995 คดีของเขาได้รับการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ ตำรวจเบอร์ลิงตันหันมาพิสูจน์หลักฐานทั้งหมดซึ่งรวมถึงน้ำอสุจิของคนร้ายเพื่อใช้ในการการตรวจดีเอ็นเอ
โดยตัวอย่างดีเอ็นเอจากอสุจิที่พบในตัวเหยื่อถูกตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอของโรนัลด์ แต่มันไปตรงกับบ๊อบบี้ พูล ซึ่งได้สารภาพกับเพื่อนร่วมห้องขังก่อนหน้านี้ และจากหลักฐานดีเอ็นเอนี้เองทำให้สามารถหาผู้ร้ายตัวจริงได้ในที่สุด
โรนัลด์ซึ่งถูกขังมานับ 10 ปีก็พ้นมลทินโดยได้รับเงินชดเชยจำนวน 110,000 ดอลล่าร์ (หรือประมาณ 3,371,000 บาท) และปิดคดีนี้ลงได้ในที่สุด...
โรนัลด์ และ เจนนิเฟอร์
ชีวิตหลังการพ้นโทษ...
ไม่นานหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวโรนัลด์ก็ได้ทำงานในคลังสินค้าของ LabCorp บริษัทที่ทดสอบหลักฐานดีเอ็นเอที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเค้าเอง ต่อมาเค้าก็แต่งงานมีลูก และนำเงินจำนวน 110,000 ดอลล่าร์ที่ได้รับเป็นค่าชดเชยไปซื้อบ้านอยู่กับครอบครัว
ทางด้านเจนนิเฟอร์เองหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ได้แต่งงานและใช้ชีวิตกับครอบครัว โดยพยายามที่จะลืมเลือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แต่ความโกรธแค้นชิงชังคนที่ทำร้ายเธอมันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย
ต่อมาเมื่อทราบผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าผู้ร้ายตัวจริงไม่ใช่โรนัลด์ ผู้ชายที่เธอโกรธแค้นและอยากจะฆ่าเค้าให้ตายตลอดเวลาที่ผ่านมา มันทำให้เธอกลับรู้สึกผิดที่เป็นคนส่งเค้าให้เข้าคุกต้องสูญเสียอิสรภาพยาวนานนับสิบปี
..."ฉันรู้สึกช็อค ทำอะไรไม่ถูก ฉันตกเป็นเหยื่อมา 11 ปี โรนัลนัลด์เองก็ตกเป็นคนเลวมา 11 ปีเหมือนกันกัน"...
1
...“ฉันลุกขึ้นยืนไม่ไหว แล้วเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันมองโรนัลด์แล้วบอกกับเค้าว่า ถ้าหากว่าจะขอใช้ทุกวินาทีกับเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตเพื่อบอกคุณว่า ฉันขอโทษและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นคุณจะยกโทษให้ฉันได้ไหม?? แล้วเค้าก็ทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง เค้าเริ่มร้องไห้แล้วพูดว่า ...'เจนนิเฟอร์ผมให้อภัยคุณแล้วเมื่อหลายปีก่อน'"...
เจนนิเฟอร์เล่าถึงเมื่อครั้งที่ทั้งคู่ได้พบหน้ากันหลังจากเหตุการณ์ผ่านมา 11 ปี
ทั้งคู่เดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด
นับตั้งแต่การพบกันครั้งนั้นเจนนิเฟอร์ ธอมป์สัน และโรนัลด์ คอตตอน ก็กลายเป็นเพื่อนกัน เธอถามเค้าว่าเค้าสามารถให้อภัยเธอได้ยังไงจากความผิดพลาดที่ทำให้ช่วงชีวิตของเค้าต้องหายไปนานนับสิบปี
โรนัลด์บอกว่า ..."ผมคิดว่าถ้าจะต้องตายอยู่ในคุก ผมจะพยายามใช้ชีวิตในนั้นโดยปราศจากความโกรธแค้นและขมขื่น ผมเรียนรู้ที่จะให้อภัยและปล่อยวางเพื่อที่จะอยู่ได้อย่างสงบสุข"...
2
แม้ว่าโรนัลด์จะให้อภัยเธอแต่เจนนิเฟอร์เองก็ใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะสามารถให้อภัยตัวเองได้ แน่นอนว่าเธอให้อภัยบ๊อบบี้ พูล (คนร้ายตัวจริง) ก่อนที่เธอจะให้อภัยตัวเอง
...“ฉันให้อภัย บ๊อบบี้ พูล เพราะฉันเห็นโรนัลด์ยกโทษให้ฉัน”... เธอกล่าว
1
...“ฉันต้องการความสงบสุขแบบเดียวกัน ฉันไม่ต้องการตกอยู่ในห้วงความเกลียดชังและความโกรธอีกต่อไป”...
1
ปัจจุบันทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและเดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์และกระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด เฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการพิสูจน์หลักฐานและพยานซึ่งสามารถป้องกันความอยุติธรรมในอนาคตได้.
โลกจะน่าอยู่ หากเราเรียนรู้ที่จะให้อภัย...
ขอบคุณที่มาจาก :
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
แปลและเรียบเรียงโดย... ❤แอดมิ้นท์❤
โฆษณา