5 ก.ค. 2020 เวลา 02:02 • นิยาย เรื่องสั้น
บทที่ 1 .....เมื่อต้องไกลหัวใจดวงน้อย.....
“คุณดำรง คุณหาคนให้ผมได้หรือยังเนี่ย” ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์เสียในเช้าวันหนึ่ง ณ สำนักงานทนายความประจำตระกูล
“คุณก็รู้ ผมมีเวลาไม่มาก พรุ่งนี้ผมก็ต้องเดินทางกลับสเปนแล้ว ผมต้องการคนตามไปดูแลคุณยาย ท่านแก่มากแล้ว และผมก็ไม่มีเวลาว่างมากที่จะคอยดูแลท่านได้ด้วยตัวเอง ผมต้องการคนไว้ใจได้” เขาให้เหตุผล
“คุณอัลเฟรโด้ ใจเย็นๆ สิครับ” “ผมก็พยายามสัมภาษณ์คนให้คุณอยู่เรื่อยๆ แต่มันยังไม่โดนน่ะครับ”
“เดี๋ยววันนี้จะมีมาอีกหนึ่งคน คุณจะลองคุยดูด้วยตนเองมั๊ยล่ะครับ” ทนายความรุ่นพ่อแจ้ง
“ไม่ต้องหรอก คุณสัมภาษณ์ไปเถอะ แต่ผมให้เวลาถึงสิ้นเดือนนี้ ถ้าไม่ได้ผมจะเปลี่ยนทนายความ” อัลเฟรโด้ พูดเสียงเข้ม
“ครับ ได้ครับ ผมจะพยายามให้ถึงที่สุด” คุณดำรงพยักหน้าตอบรับทันควัน
“ถ้ายังงัยคุณส่งตามไปที่สเปนก็แล้วกัน แล้วผมจะส่งคนไปรับที่สนามบิน ” ชายหนุ่มพูดตัดรำคาญและเดินออกจากสำนักงานทนายความเก่าแก่ที่ดูแลผลประโยชน์ให้กับครอบครัวเขาในเมืองไทยมาตั้งแต่รุ่นตายาย
อัลเฟรโด้ คอร์เตส นักธุรกิจหนุ่มวัย 36 ปี เชื้อสายสเปน – ไทย ต้องกลับมาเมืองไทยแทบจะทุกปีเพื่อพาคุณยายของเค้ามาเยี่ยมบ้านเกิดและพี่น้องของคุณยายที่กรุงเทพฯ คุณยายมาลินีของเขาแต่งงานกับคุณตาริคาร์โด้เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว และพากันไปใช้ชีวิตที่สเปน อันเป็นบ้านเกิดของคุณตาและแม่ของเค้าก็เกิดที่นั่น เกิดในไร่มะกอก ทางตอนใต้ของประเทศสเปน ที่เมืองกรานาด้า1 คุณตาของเค้ามีเชื้อสายยิปซี-มัวร์2 ซึ่งว่าไปแล้วก็เป็นเชื้อชาติที่มีอยู่พอสมควรในเมืองนี้ แต่จะหาใครที่รวยเท่าตระกูลของเขานั้น ไม่มีมีอีกแล้ว
อัลเฟรโด้ มีมารดาเป็นลูกครึ่งสเปน – ไทย และบิดาเป็นสเปน ถ้านับจริงๆแล้วเขาก็เป็นแค่ลูกเสี้ยวเท่านั้น เนื่องจากมีคุณยายเป็นคนไทย ครอบครัวของเค้ามีด้วยกัน 5 คน พ่อ แม่ พี่ชาย และน้องสาว อาศัยอยู่บ้านที่แคว้นริโอฆา3 ส่วนตัวเขาอาศัยอยู่บ้านบริเวณเดียวกับบ้านของคุณตาคุณยาย บ้านหลังนี้มีพื้นที่ราวๆ 120 ไร่ ไม่นับรวมบริเวณที่เป็นสวนมะกอกอย่างเดียวซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 กว่าไร่ ทางด้านพ่อของเขาเป็นคนจากเมืองริโอฆา ซึ่งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของสเปน ก็มีไร่องุ่นเป็นพันไร่เช่นกัน และครอบครัวเขายังได้ทำธุรกิจโรงแรมอยู่ที่หมู่เกาะคานารี่4อีกด้วย ธุรกิจเหล่านั้นปัจจุบันพ่อและพี่ชาย จะเป็นคนดูแล ส่วนเขาจะมีหน้าที่ดูแลธุรกิจที่อยู่ในแถบอันดาลูเซีย5ทั้งหมด
ปัจจุบันน้องสาวของเขาซึ่งเป็นลูกหลงของพ่อและแม่กำลังจะเรียนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยบายาโดลิด6 ออกมาช่วยดูแลกิจการอีกแรง
***********************
ณ สำนักงานทนายความดำรงธรรม อมัญญาเข้ามานั่งรอสัมภาษณ์งานได้ประมาณ 10 นาทีแล้ว พนักงานต้อนรับแจ้งว่าคุณดำรงติดธุระให้รอสักครู่ หญิงสาวนั่งรอด้วยใจจดจ่อ และออกจะตื่นเต้นเล็กน้อยเนื่องจากเธอไม่ได้ทำงานมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่ลาออกไปเพื่อเป็นแม่บ้านเต็มตัว และงานครั้งนี้สำคัญกับชีวิตเธอและครอบครัวเป็นอย่างมาก เธอเข้าห้องน้ำสำรวจตัวเองอีกครั้งและสงบสติอารมณ์พร้อมที่จะสัมภาษณ์แล้ว ก่อนตัดสินใจเดินออกจากห้องน้ำ
“คุณอมัญญา ใช่มั๊ยคะ เชิญที่ห้องคุณดำรงได้เลยค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ขอบคุณค่ะ” อมัญญาเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปตามทางเดิน ขณะนั้นเธอเดินสวนกับผู้ชายตัวโต ดูหน้าก็รู้แล้วว่า ไม่ใช่คนไทยแน่นอน ทั้งๆที่พนักงานต้อนรับพยายามจะยิ้มทักทาย แต่เขาก็ยังตีหน้าเฉยไม่สนใจ ถ้ายิ้มจะดูดีกว่านี้ อมัญญาคิดในใจ แต่ตอนนี้หน้าตาของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างแรง เค้าเหลือบมามองอมัญญาแว่บเดียว ก่อนจะเดินหน้าบึ้งออกไปยังลานจอดรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเข้าไปในห้องคุณดำรง หลังจากที่พนักงานต้อนรับแจ้งกับคุณดำรงแล้ว ก็เดินกลับไปรอด้านนอก
“เชิญนั่งครับ” คุณดำรงเชื้อเชิญให้นั่ง
“สวัสดีค่ะ ดิฉันอมัญญา ศารทูล”
“เริ่มเลยนะครับ คุณคงทราบคร่าวๆ แล้วเรื่องงานที่ทางเราประกาศรับสมัครไป” ดำรงเปิดฉากถาม
“ทราบค่ะ หน้าที่คนดูแลคนชราและทำงานบ้าน ต้องไปทำที่ต่างประเทศ” อมัญญาตอบ
เมื่อคุยกันไปได้สักพักบรรยากาศเริ่มคลายความตื่นเต้นลง
“ทางเราอ่านประวัติของคุณแล้ว ด้านการศึกษาและการทำงานที่ผ่านมาถือว่าโอเค แต่คุณจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับที่ต้องไปทำงานไกลบ้าน ตามประวัติเห็นว่าแต่งงานแล้วมีลูก 1 คน”
“ปัจจุบันดิฉันหย่าแล้วค่ะ เลี้ยงลูกเพียงลำพัง ถ้าจำเป็นต้องห่างกันเพื่อให้ได้เงินมาใช้ในครอบครัวก็ต้องยอม ทุกวันนี้ดิฉันก็อาศัยอยู่กับแม่และน้องชายค่ะ ส่วนลูก แม่และน้องชายก็ช่วยดูแลอยู่ค่ะ อย่างวันนี้มาสัมภาษณ์งานก็ฝากให้น้องชายรอรับกลับจากโรงเรียนค่ะ”
“งานของเราจะเป็นสัญญาปีต่อปีนะครับ เงินเดือนก็อยู่ที่ 2,300 ยูโรต่อเดือน จะโอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ส่วนสวัสดิการอื่นๆ ที่อยู่อาศัย ค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วย ทางนายจ้างคุณจะเป็นคนจัดเตรียมให้ คุณพอใจมั้ยครับ” ดำรงแจ้งรายละเอียดต่าง
“ดิฉันพอใจมากค่ะ แต่ขอเวลาดิฉันกลับไปแจ้งทางบ้านแล้วพรุ่งนี้ดิฉันโทร.มาให้คำตอบได้มั้ยคะ ว่าจะไปหรือไม่ไป เพราะว่าต้องไปไกลพอสมควร” อมัญญาตอบออกไป
“ได้ครับ ผมจะรอคำตอบจากคุณพรุ่งนี้ หวังว่าเราคงได้ร่วมงานกัน.........................”
หลังจากนั้นอมัญญาก็ลาคุณดำรงเพื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ตลอดทางเธอนั่งครุ่นคิดมาตลอดทางว่าจะไปหรือไม่ไปดี ใจหนึ่งก็ห่วงลูก อีกใจหนึ่งก็อยากได้เงิน เธอจะพูดกับลูกอย่างไร จะอธิบายอย่างไรให้เด็กเล็กๆ อายุ 5 ขวบเข้าใจว่า แม่ต้องไปทำงานหาเงินมาให้หนู หนูจะได้มีเงินซื้อขนม ซื้อของเล่น เธอตั้งใจจะเก็บเงินให้ได้สักหนึ่งล้านบาทเพื่อกลับมาเปิดร้านขนม เธอต้องอดทนอยู่ที่โน่นสัก 1-2 ปี เท่านั้น เธอจะได้กลับมาอยู่กับลูกตามที่วางแผนไว้
“แม่ญากลับมาแล้ว!!!” เด็กน้อยตะโกนอย่างตื่นเต้น
“ดื้อหรือเปล่าลูก วันนี้” อมัญญาถามลูกพร้อมเดินเข้ามาหา
“ไม่ฮะ น้าวีไปรับที่โรงเรียน กลับมาทำการบ้าน แล้วก็รอทานข้าวนี่ล่ะฮะ”
“แม่ซื้อโดนัทมาฝากหนูด้วยนะ เอาไปให้คุณยายในครัวนะลูก เดี๋ยวแม่ลงมาขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“ได้เลย ค้าบบบบบ” อมัญญ์พูดพร้อมกับวิ่งถือถุงขนมเข้าไปให้ยายในครัว
“คุณยายฮะ แม่ญากลับมาแล้วนะฮะ ซื้อขนมมาฝากด้วย คุณยายดูสิ” เด็กน้อยพูดพลางยื่นถุงขนมให้คุณยาย
“เหรอลูก ดีเลยจะได้ตั้งโต๊ะทานข้าวพร้อมกัน นึกว่าจะถึงบ้านมืดกว่านี้ซะอีก” นางมนัญญาพูดพลางรับขนมไปเตรียมจัดลงจานและหันไปเตรียมกับข้าวต่อ
ที่โต๊ะอาหาร ทุกคนกลับมากันพร้อมหน้าแล้ว วันนี้คุณยายทำกับข้าว 3 อย่าง ไข่ยัดไส้ ของโปรดของอมัญญ์ แกงส้มดอกแค และผัดผักรวมมิตร วันนี้ยังมีผลไม้ในสวนหลังบ้าน และโดนัทที่แม่ญาซื้อมาด้วย อมัญญ์มองอย่างพอใจ
“พี่สัมภาษณ์เป็นงัยบ้างครับ” มนัสวีถามขณะตักแกงส้ม
“ก็ดี เป็นงานที่เงินดีมาก แต่ติดปัญหาเรื่องนึง ที่พี่อยากกลับมาคุยกับที่บ้านก่อน ก็เลยยังไม่ได้ให้คำตอบเค้า” อมัญญาบอกทุกคน
“เรื่องอะไรเหรอลูก” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นบ้าง
“คืองานนี้ เค้าต้องให้ไปอยู่ต่างประเทศค่ะแม่ สัญญาปีต่อปี ใจจริง หนูก็อยากได้ตังค์เพื่อเอามาเป็นทุนทำร้านขนม แต่ยังห่วงเรื่องลูก ต้องห่างกันนี่สิคะ” หญิงสาวตอบแบบครุ่นคิด
“เรื่องอมัญญ์ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวอยู่ทางนี้พวกเราช่วยกันดูแลได้ ” น้องชายถามพร้อมกับหันไปทางเด็กน้อย “ว่างัยตัวเล็ก อยู่ได้มั้ยกับน้ากับยายน่ะ”
“แล้วพี่คิดว่า พี่จะไปสักกี่ปีล่ะ” น้องชายถามอีก “พี่กะจะไปเก็บตังค์แค่ปีเดียว เพราะเค้าก็ให้เงินเดือนเยอะอยู่ ที่อยู่ที่กิน เค้าก็ให้ไปพักกับเค้าเลย พี่กะจะส่งเงินกลับเมืองไทยทั้งหมด”
“แค่ปีเดียวเอง ผมนึกว่านานกว่านี้”
“อมัญญ์ แม่เค้าจะไปทำงาน 1 ปี เราอยู่ทางนี้แค่เรียน ป.1 จบ พอขึ้น ป.2 แม่เค้าก็กลับมาแล้ว เราว่างัย” น้องชายหันไปถามหลาน
“ก็ได้ฮะ ตอนนี้อมัญญ์อยู่ อ.3 แล้ว ปีหน้า ก็ขึ้น ป.1 แม่ญาก็กลับมาตอนขึ้น ป.2 แน่ๆ ใช่มั๊ยฮะ” อมัญญ์ถามพลางเขี่ยข้าวในจานเล่น
“กลับสิลูก แม่ตั้งใจไปแค่ 1 ปี เก็บตังค์แล้วก็กลับ” เธอบอกลูก
“แต่อมัญญ์ต้องคิดถึงแม่ญาแน่ๆ ฮะ” เด็กน้อยครวญ
“เอางี้ เดี๋ยวให้แม่เราเค้าไปดูก่อนที่โน่น พอมีทางเล่นเน็ตได้มั้ย ถ้ามีอินเตอร์เน็ตค่อยสไกฟ์กันดีมะ” น้าชายพูด
“ถ้าไม่มีล่ะฮะ” เด็กชายถาม “ไม่มี ก็โทรศัพท์ก็ได้ ทุกเดือน แป๊บเดียวก็เดือนๆแล้ว” น้าชายบอกอีก
“ก็ได้ฮะ” “แต่สัญญาว่าต้องกลับมาเร็วๆแน่นอนนะฮะ” เด็กชายยังไม่วางใจ
“ต้องกลับมาสิลูก แม่คิดถึงอมัญญ์คนเดียว แม่ต้องกลับมาแน่ๆ” ผู้เป็นแม่บอกอย่างเชื่อมั่น โดยหารู้ไม่ว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน บางทีโชคชะตาก็อาจจะเล่นตลก
เมื่อรับประทานข้าวกันเสร็จแล้ว ทุกคนต่างมานั่งดูทีวีกันที่ห้องรับแขก นางมนัญญาผู้เป็นแม่พูดขึ้นกลางวง
“ญา ไม่ต้องห่วงนะลูก อยู่ทางนี้ แม่กับวีจะช่วยกันดูแลอมัญญ์เอง อมัญญ์เป็นเด็กดี พูดรู้เรื่อง คงไม่งอแง คุณครูที่โรงเรียนยังชมนะ วันก่อนแม่เจอคุณครูของอมัญญ์ที่ตลาด”
“ค่ะแม่ หนูจะเก็บเงินให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้แล้วรีบกลับ” หญิงสาวบอกแม่
เมื่อถึงเวลาเข้านอน เธอและลูกนอนคุยเรื่องนี้กันอีกสักพักจนลูกเข้าใจและหลับไป แต่หญิงสาวยังไม่สามารถข่มตาหลับได้เนื่องจากเธอมีเรื่องให้ต้องคิด คิดถึงอนาคต เรื่องลูก ต่างๆ นานา เธอตั้งใจไปทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เรื่องอื่นเธอจะไม่สนใจ หญิงสาวพยายามสร้างกำแพงเพื่อป้องกันตัวเองไว้ เพื่อจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดในชีวิตอีก เหมือนครั้งที่ตัดสินใจผิดพลาดเรื่องพ่อของหนูน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น หญิงสาวกดโทรศัพท์กลับไปยังสำนักงานของคุณดำรงทันทีเพื่อตอบรับเข้าทำงาน คุณดำรงแจงรายละเอียดต่างๆ และนัดให้หญิงสาวเข้าไปพบใน 2 วันต่อมาเพื่อจัดการเรื่องเอกสารการเดินทาง และรายละเอียดต่างๆที่ต้องเตรียมตัว เพื่อเดินทางไปประเทศสเปนในอีก 1 เดือนข้างหน้า
เวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือนแล้วหลังจากตอบรับเข้าทำงาน หญิงสาวได้กลับมารายงานตัวกับคุณดำรงอีกครั้ง
“ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วนะครับ คุณอมัญญา วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน พอคุณไปถึงสเปนจะมีคนมารับคุณที่สนามบิน”
“ผมได้แจ้งทางเจ้านายไปแล้ว ว่าคุณจะไปถึงวันที่.......... เวลาประมาณบ่าย 2 ให้เตรียมคนไปรับด้วย คุณมองหาป้ายชื่อคุณ คนไปรับจะมาจากไร่ ริคาเดโล เด กรานาด้า ครับ”
“ได้ค่ะ คุณดำรง” หญิงสาวรับคำ
“ผมขอให้คุณโชคดี ถ้ามีปัญหาติดขัดอะไรก็โทรมาได้ ทางเรายินดีช่วยเหลือ แต่เจ้านายเป็นคนใจดี คุณไม่ต้องกังวล ยิ่งคุณมาลินีคุณยายของคุณอัลเฟรโด้ยิ่งใจดีใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ใจดีไม่จุกจิก ผมเชื่อว่าท่านต้องชอบคุณ” คุณดำรงพูดให้กำลังใจ
พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่เธอจะต้องเดินทางไปดินแดนแสนไกลที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เพียงแค่รู้จักผ่านตัวหนังสือเท่านั้น คิดแล้วก็ใจหายที่ต้องจากลูกไป แต่ก็แค่ 1 ปีเท่านั้นล่ะน่า 1 ปีเพื่ออนาคต กลับมาอยู่กับลูกได้ตลอดไป................
.........................................................................................................................
1กรานาด้า : ชื่อเมืองในแคว้นอันดาลูเซีย อยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน
2 ยิปซี-มัวร์ : เชื้อสายผสมระหว่างชนเผ่าเร่ร่อนในอดีตในประเทศโรมาเนียเดินทางเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสเปน และเชื้อสายมุสลิมในสเปนก่อนเมืองกรานาดาถูกยึดโดยชาวคริสเตียน
3ริโอฆา : เป็นแคว้นหนึ่งของสเปนตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือ เป็นแคว้นที่นิยมปลูกองุ่นกันมาก และแคว้นนี้ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียง
4หมู่เกาะคานารี่ : เป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสเปนค่อนไปทางประเทศโมรอคโคทวีปแอฟริกา ประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆหลายเกาะ ที่มีชื่อเสียงเช่น เตเนริเฟ่ , ลา ปัลม่า ฯลฯ
5อันดาลูเซีย : แคว้นใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน เป็นแคว้นที่ตั้งของเมืองกรานาด้า
6บายาโดลิด : เมืองหลวงของแคว้นกัสติย่า และ เลออง ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศสเปน
คิดพล็อตเรื่องนี้ตอนไปเที่ยวกรานาด้า เดินอยู่ใน อัลอัมบร้า มันมีความสุขจริงๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา