⚠️ #อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้บัฟเฟตต์กลับมาลงทุนอีกครั้ง ?
มาถึงตอนนี้ทุกท่านคงทราบข่าวใหญ่ที่สุดในตลาดไปแล้วเมื่อวานนี้ว่า #บัฟเฟตต์ได้กลับมาเริ่มลงทุนอีกครั้งแล้ว ! และการเข้าลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ในครั้งนี้นั้นถือเป็นการส่งสัญญาณบวกมากๆต่อตลาดโดยรวมด้วยว่า #วิกฤตไวรัสโคิดนั้นอาจไม่ได้รุนแรงเหมือนที่ปู่คาดเดาไว้ตอนแรก ???
ถึงแม้ตลาดโดยรวมจะมองว่าเป็นเช่นนั้น แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปจนกว่าจะได้อ่านรายละเอียดนะครับ และ #ทำไมทางบัฟเฟตต์ถึงเลือกที่จะซื้อ สินทรัพย์จากบริษัท Dominion Energy ? ทำไมต้องเป็นธุรกิจขนส่งและจัดเก็บก๊าซธรรมชาติ ? ลองมาหาคำตอบกันได้ที่บทความนี้เลยครับ
📌 บัฟเฟตต์มองว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้วหรือ ?
หนึ่งในเหตุผลสั้นๆที่มือขวาของปู่บัฟเฟตต์อย่าง Greg Abel ผู้เป็นหัวหน้าของ 🛢 Berkshire Hathaway Energy หรือหน่วยการลงทุนด้านพลังงานของ Berkshire Hathaway ได้ให้ไว้ก็คือ
"ไม่ว่าไวรัสจะระบาดมากน้อยแค่ไหนแต่ทุกๆคนก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานอยู่ ธุรกิจเหล่านี้จะสร้างเงินสดแม้ว่าสัดส่วนกำไรของธุรกิจจะลดลงไปบ้างขึ้นอยู่กับความรุนแรงของไวรัสระบาด”
#จุดที่สำคัญ ของการเข้าซื้อสินทรัพย์ท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติและระบบกักเก็บพลังงานครั้งนี้ ที่ทางปู่บัฟเฟตต์ทุ่มเงินสดสูงถึง 1 หมื่นล้านเหรียญหรือ 7% ของเงินสดที่มีอยู่เข้าซื้อจนกลายเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของปู่ในรอบ 5 ปีนั้น #ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะให้กลายเป็นธุรกิจที่จะทำกำไรได้หลายเด้ง เหมือนการเข้าซื้อธุรกิจในอดีดของบัฟเฟตต์
#เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดไปว่าปู่มองว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้ว แต่ในทางตรงกันข้ามเลยทางปู่นั้นพยายามที่จะลดสัดส่วนของเงินสดลงมากกว่า และพยายามหาดีลที่ปลอดภัยและไม่เสี่ยงที่สุด และการเข้าซื้อธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังไงก็ตามคนก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้ เป็นธุรกิจที่จะสร้างกระแสเงินสดได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะไม่ได้มี Upside อะไรมาก #ก็ถือเป็นการใช้เงินสร้างเงินได้ดีตามทฤษฎีของปู่แล้ว 💵💵💵
#อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าปู่กลัวตกรถนะครับ แต่การเข้าซื้อครั้งนี้ก็ยังมองได้อีกมุมว่าปู่คงคิดว่าธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้นั้นคงยังไม่ราคาลงมาถูกๆในไม่ช้านี้ จึงยังไม่อยากถือเงินเป็นเงินสดและปล่อยให้เสียโอกาสไปเรื่อยๆ
📌 แล้วทำไมจะต้องเป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ?
นอกจากความเสี่ยงต่ำและจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้แน่นอนแล้ว จริงๆแล้วตลาดก๊าซธรรมชาติในสหรัฐนั้นก็มีแนวโน้มที่จะโตได้เรื่อยๆเลยครับ เพราะ #ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ค่อนข้างสะอาด ก่อให้เกิดมีมลพิษที่น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน, ดีเซล หรือถ่านหินอยู่มากนัก และบนเทรนด์ของโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมย่อมเป็นที่ต้องการสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกๆประเทศ ทางปู่คงได้มองจุดนี้ไว้แล้ว
มิหนำซ้ำในอนาคตตลาดที่กำลังจะโตคือ LNG (Liquefied Natural Gas) หรือก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งหลายคนนั้นเรียกได้ว่าเป็น #เชื้อเพลิงแห่งอนาคตเลยทีเดียว
📌 LNG คืออะไร ?
อย่างแรกเลยคือ LNG กับ LPG นั้นไม่เหมือนกันนะครับ...
LPG คือก๊าซที่เรารูเจักกันว่าคือก๊าซหุงต้มหรือก๊าซที่นำไปใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ต่อ แต่ LNG นั้นคือก๊าซธรรมชาติเหลว
อย่างที่ได้เรียนไปว่าก๊าซธรรมชาตินั้น #กำลังเป็นที่ต้องการของทั้งโลก เพราะสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าได้และเป็นพลังงานที่สะอาด #แต่ปัญหานั้นก็มีอยู่ว่า ในแต่ละภูมิภาคของโลกนั้นไม่ได้สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เพียงพอกันหมดและ #การขนถ่ายก็ยสกลำบาก !
ในอดีตการขนส่งผ่านท่อในระยะทางไกลๆนั้นต้องใช้เงินทุนก่อสร้างสูง และการขนส่งผ่านทะเลนั้นก็ทำได้ยากลำบาก แต่ด้วยเทคโนโลยีของ LNG ที่นำก๊าซธรรมชาติมาลดอุณหภูมิให้กลายเป็นของเหลว เพื่อให้สามารถขนถ่ายทางเรืออย่างสะดวกได้ จึงเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคตที่จะมีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ #โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา หากปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวของเราลดลง หรือการนำเข้าลดลง เราจะยิ่งต้องพึ่งพาการนำเข้า LNG เข้ามาทดแทนมากขึ้นเรื่อยๆครับ
#ทางปู่คงมองจุดนี้ออกด้วย จึงเร่งเข้าลงทุนในธุรกิจขนส่งและจัดเก็บก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีการลงทุนในตลาด LNG ของสหรัฐที่กำลังเติบโตในฐานะผู้ส่งออก LNG หลักของโลกเลยด้วย
📌 อะไรเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา LNG บ้าง?
แน่นอนครับเนื่องจาก LNG ก็คือก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) ดีๆนี่เอง แค่ปรับไปอยู่ในสภาพของเหลวเพื่อขนส่ง สุดท้ายพอถึงปลายทางก็จะเพิ่มอุณหภูมิกลับมาใช้งานเป็นก๊าซธรรมชาติตามปกติ ดังนั้นปัจจัยที่จะเป็นตัวกำหนดราคานอกจากค่าแปรรูปกับค่าขนส่งแล้ว หลักๆ ก็คือราคาก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคต่างๆ นั้นเอง ประกอบกับอุปสงค์และอุปทานของก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคนั้นๆ
ต้องขอย้ำว่าส่วนต่างของความต้องการก๊าซธรรมชาติในแต่ละภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไป จะมีความสำคัญมากๆ กับราคา LNG เพราะเป็นตัวกำหนดทิศทางและระยะทางของการขนส่ง
📌 แล้วความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?
1️⃣ #อุณหภูมิและฤดู - หลักๆก๊าซธรรมชาติทั่วโลกนั้นจะใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้ความร้อน (Heating) และการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ปัจจัยที่กระทบกับการใช้หลักๆนั้นคืออุณหภูมิและฤดูครับ หากหน้าหนาวนั้นหนาวกว่าปกติมากๆ การใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อ Heating ก็จะใช้สูงขึ้นมาก และหากหน้าร้อนนั้นร้อนกว่าปกติ การเปิดแอร์มากขึ้นก็จะใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน ทำให้อุณหภูมิและฤดูมีความสำคัญมากต่อปริมาณการใช้
2️⃣ #ราคาน้ำมัน – น้ำมันเป็นพลังงานที่สามารถเข้ามาผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซธรรมชาติได้ โดยหากราคาน้ำมันถูกมากๆ ก็อาจจะทำให้การใช้ก๊าซธรรมชาติลดลงได้และใช้น้ำมันแทน
3️⃣ #สภาพเศรษฐกิจ – เนื่องจากการผลิตในโรงงานใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานหลัก และสภาพเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการผลิตของแต่ละโรงงาน สภาพเศรษฐกิจจึงเป็นตัวกำหนดการใช้ก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ หากเศรษฐกิจไม่ดี การผลิตน้อยลง การใช้ก๊าซธรรมชาติก็จะลดลงด้วย
📌 แล้วอุปทานก๊าซธรรมชาติขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?
1️⃣ #การผลิตก๊าซธรรมชาติในภูมิภาดต่างๆ – ไม่ใช่ทุกภูมิภาคจะสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ และไม่ใช่ผู้ที่ผลิตน้ำมันได้เยอะก็จะผลิตก๊าซธรรมชาติได้เยอะนะครับ สหรัฐและรัสเซียนั้นเป็นสองผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำหน้าประเทศอื่นๆเยอะเลย โดยในส่วนของรายละเอียดนั้นเชิญดูได้ที่คอมเม้นนะครับ
2️⃣ #ระดับปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติแต่ละภูมิภาค – ก๊าซธรรมชาตินั้นเราก็สามารถเก็บสำรองได้นะครับ ไม่ว่าจะในสถานะเป็นก๊าซหรือของเหลว โดยประเทศที่มีความต่างของฤดูหนาวและฤดูร้อนมากๆ จำเป็นที่ต้องคอยเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติไว้เยอะ เพราะการใช้จะขึ้นลงสูงมาก ทำให้ปริมาณสำรองในภูมิภาคต่างๆมีการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา และระดับปริมาณสำรองนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดความต้องการใช้และราคาในภูมิภาค
3️⃣ #ระดับราคาน้ำมัน – อันนี้ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ แต่ราคาน้ำมันไม่ได้แค่เป็นตัวกำหนดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างเดียวแต่ยังกำหนดปริมาณการผลิตด้วย
ถึงแม้ด้านการใช้นั้น น้ำมันและก๊าซจะเป็นคู่แข่งกันในบางส่วน แต่ด้านการผลิตนั้นจะเป็นผลพลอยได้ของกันและกัน โดยจะได้รับผลไปในข้างเดียวกัน เพราะหลุมน้ำมันนั้นมีหลายแบบ และบางแบบก็จะมีก๊าซธรรมชาติออกมาจากการขุดน้ำมันด้วย ออกมาเป็นผลพลอยได้ (by-product) ทำให้หากราคาน้ำมันลง การขุดลดลง อุปทานก๊าซในส่วนนี้ก็อาจจะหายไปด้วย
📌 แล้วราคาของก๊าซธรรมชาติกับน้ำมันมีความสัมพันธ์กันไหม ?
จากที่อธิบายไป ราคาน้ำมันนั้นกระทบต่อทั้งอุปทานและอุปสงค์ของก๊าซธรรมชาติ เลยแปลว่าต้องมีความสัมพันธ์กันสูงแน่เลย ?
#มีความสัมพันธ์กันแน่ครับ แต่ต้องมองแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนของการใช้ที่แข่งกันนั้นจะทำให้ราคาไปในทิศทางเดียวกัน เป็นความสัมพันธ์เชิงบวก (Positive Correlation) ถ้าน้ำมันแพงก๊าซไม่มีคู่แข่ง การใช้ก็จะสูงและแพงตามไปด้วย แต่ในส่วนของการผลิตที่เป็นผลพลอยได้นั้นจะทำให้ราคาไปในทางที่ตรงกันข้ามกัน มีความสัมพันธ์เชิงลบ (Negative Correlation) ถ้าน้ำมันแพง มีการขุดเจาะกันเยอะขึ้น ได้ก๊าซออกมาเยอะทั้งๆที่ไม่มีการใช้เพิ่ม ราคาก๊าซก็จะลงครับ
ในสมัยก่อนปี 2007 นั้น ราคาก๊าซธรรมชาติกับน้ำมันนั้นจะไปในทิศทางเดียวกันตลอด ล็อคไปด้วยกันขึ้นลงด้วยอัตตรา 6 ต่อ1 กันตลอดหรือที่รู้จักกันว่า “BTU Ratio” เหตุผลก็เพราะค่าความร้อนที่ออกมาจากน้ำมัน 1 บาร์เรลนั้นจะเท่ากับความร้อนจากก๊าซธรรมชาติที่ 5,800 cubic feet หรือ ใกล้ๆกับ 5.8 MMBtu (one million British Thermal Unit) ซึ่งราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาตินั้นใช้หน่วยเป็นดอลลาร์ต่อ MMBtu และน้ำมันใช้เป็น ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้ราคาล็อคไปด้วยกันที่ 5.8 หรือ 6 เท่ามาตลอด
แต่ตั้งแต่สมัยปี 2007 เป็นต้นมานั้น หลังจากที่เกิดการ ปฏิวัติในการผลิต Shale oil ในสหรัฐขึ้นมา (Shale Oil + Gas Revolution) การผลิต Shale Oil นั้นจะได้ก๊าซธรรมชาติมาเป็น By-product ทำให้ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาตินั้นเพิ่มขึ้นไปด้วย ทั้งๆที่ความต้องการใช้ไม่ได้เพิ่มขึ้น (ดูกราฟปริมาณการผลิตได้ในคอมเม้นนะครับ) ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐตกลงมาอย่างรวดเร็ว และด้วยความสัมพันธ์ด้านลบ จาก byproduct นี้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของราคาของก๊าซธรรมชาติกับน้ำมันนั้นลดลง ราคาก๊าซต่อหน่วยเริ่มถูกลงกว่าน้ำมัน ถึงแม้ราคาของทั้งคู่นั้นยังไปในทิศทางเดียวกันบ้างอยู่ แต่อัตรา 6 ต่อ 1 นั้นไม่ได้คงเหมือนเดิมแล้ว
📌 Shale Oil + Gas Revolution เปลี่ยนโฉมตลาด LNG ไปอย่างไร ?
ด้วยราคาก๊าซธรรมชาติของอเมริกาที่ถูกขึ้นมากๆ นอกจากจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในอเมริกาให้มีต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกแล้ว ยังเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ของ LNG อย่างสิ้นเชิง ด้วยอุปทานที่มากขึ้นในอเมริกา เชื่อว่า #ทางปู่คงมองจุดนี้ออกด้วย จึงเร่งเข้าลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของสหรัฐครับ
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ 😊
#ทันโลกกับTraderKP #OilTraderKP
- 24
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
