8 ก.ค. 2020 เวลา 09:02
“ผมจะไปรอคุณที่ทางช้างเผือก..ฮิเดโกะ” EP 1/2
คำพูดก่อนสิ้นลมของโกโบริ แก่อังศุมาลิน ใน"คู่กรรม"นิยายดังของ
ทมยันตีนั้น สะท้อนถึงความเชื่อในนิทานญี่ปุ่นโบราณเรื่องทางช้างเผือก
และเป็นที่มาของวันแห่งเทศกาลทานะบาตะ (Tanabata)
ทางช้างเผือก เหนือโบราณสถานแห่งหนึ่ง
มนุษย์ในอดีต ยังเคยมีความเชื่อว่า แถบสายธารแห่งดวงดาว ที่ส่องแสงพาดผ่านท้องฟ้า
สวยระยิบระยับยามค่ำคืน หรือ ทางช้างเผือก เป็นปรากฏการณ์ภายในชั้นบรรยากาศของโลก เช่นเดียวกับเมฆ หมอก และรุ้งกินน้ำ
370 ปีก่อนคริสตกาล เดโมคริตุส นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ เป็นผู้ค้นพบคนแรกว่า ทาง
ช้างเผือก เป็นการรวมกันของกลุ่มดาวบนฟากฟ้า
ราวปี คศ. 1960 กาลิเลโอ นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี ได้ค้นพบต่อมาว่า แถบแสงส่องสว่างเป็นทางยาวของ Milky Way นั้นมาจากกระจุกของระบบดวงฤกษ์จำนวนมากมาย
มหาศาลในอวกาศ
กล้องโทรทัศน์ที่กาลิเลโอ ได้พัฒนาเพิ่มสมรรถนะเอง จนสามารถส่องดูจักรวาล และค้นพบความรู้่ทางดาราศาสตร์ระดับ Master Pieces มากมาย
ในปี พ.ศ. 2548 ผลประเมินทางดาราศาสตร์ ล่าสุดระบุว่า ทางช้างเผือก น่าจะเป็นดาราจักร Galaxy ชนิดก้นหอยมีคาน ลักษณะคล้ายกังหันที่มีเส้นโค้งวน หมุนกระจายตัวออก
จากศูนย์กลางคล้ายก้นหอย เส้นโค้งวน แต่ละเส้นนั้นเรียกว่า "แขน"
ระบบสุริยะ โลก และมนุษย์พวกเรา ก็อยู่ที่นี่ !
อยู่รอบนอกของทางแขนโค้ง ด้านกลุ่มดาวนายพราน และอยู่ห่างใจกลางของทาง
ช้างเผือก 28,000 ปีแสง
เครดิตภาพจาก https://ecospiritualityresources.files.wordpress.com/2017/05/galaxy-milky-way-you-are-here-800x500.jpg
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ ยังเชื่อกันว่า ทางช้างเผือก มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง
150,000 - 200,000 ปี* และมีอายุเก่าแก่มากกว่า 13 พันล้านปี
ดังนั้น ทางช้างเผือก จึงปรากฏให้มนุษย์เห็นมาแต่ครั้งบรรพกาล และยังมีอิทธิพลอย่าง
ลึกซึ้งต่อบรรพชน อันสะท้อนให้เห็นได้ใน ชื่อทางช้างเผือกในแต่ละประเทศ
ความเชื่อด้านสภาวะอากาศ ชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อในศาสนา โชคชะตาราศี
ตลอดจนโชคลาง ฯลฯ
(*1 ปีแสง เท่ากับระยะทางซึ่งแสงใช้เวลาเดินทางนาน 1 ปี หรือ 9.5 ล้านล้านกิโลเมตร)
天の川 ชื่อทางช้างเผือกในญี่ปุ่น
ความเชื่อเกี่ยวกับทางช้างเผือก มาจากนิทานของคนญี่ปุ่นโบราณ เรื่องราวความรักบน
สวรรค์ ระหว่างเจ้าหญิงทอผ้า โอริฮิเมะ และคนเลี้ยงวัว ฮิโกโบชิ โดยดาวแห่งเจ้าหญิงทอผ้า คือดาวเวก้า (Vega) ส่วนดาวคนเลี้ยงวัว คือดาวอัลแตร์ (Altair)
หลังจากทั้งคู่แต่งงาน เจ้าหญิงก็ไม่ขยันทอผ้า ฮิโกโบชิก็ปล่อยให้วัววิ่งเพ่นพ่านไป
ทั่วสวรรค์
เรื่องนี้ทำให้เทพเจ้าเทนไต เสด็จพ่อของเจ้าหญิงกริ้วธมาก จับเจ้าหญิ่งและเจ้าชาย แยกจากกัน โดยมี 天の川 กั้นกลาง
แต่แล้วพระบิดาก็อดสงสารต่อคำขอร้องของเจ้าหญิงไม่ได้ จึงยอมให้ทั้งคู่พบกันได้
ปีละครั้ง คือวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี และกลายเป็นที่มาของ วันทาคาบาตะ
เทศกาลที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น
(天の川 อ่านว่า อามาโนคาวา แปลว่า แม่น้ำแห่งสวรรค์ ซึ่งคือ ทางช้างเผือก )
2
ความรู้วันนี้ ต่อยอดความเชื่อในวันนั้น:
ดาราศาสตร์ปัจจุบัน อธิบายว่า ดาวเวก้า (Vega) และดาวอัลแตร์ (Altair) เป็นดาวฤกษ์
ในทางช้างเผือก และเมื่อดาว 2 ดวงนี้ และดาวเดเนบ (Deneb) เรียงตัวเป็นรูป
สามเหลี่ยมด้านไม่เท่า เรียกว่า Summer Triangle ซึ่งจะส่องสว่างชัดอยู่เหนือศีรษะ
พอดีในเวลาใกล้เที่ยงคืน ตลอดฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ
ดูจากรูป ตำแหน่งของดาวเวก้าแห่งเจ้าหญิงทอผ้า และดาวคนเลี้ยงวัว ดาวอัลแตร์ ตามนิทานญี่ปุ่น ก็น่าอยู่คนละฟากฝั่งของแกนทางช้างเผือก
ดาวอัลแตร์ เป็นดาวที่สว่างสุดในกลุ่มดาวอินทรีย์ บางครั้งเรียกดาวตาอินทรีย์ และ
เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดเพียง 16 ปีแสง
ส่วนดาววีกา เป็นอยู่ในกลุ่มดาวพิณ สว่างที่สุดเป็นอันดับสองในซีกโลกทางหนือ
เคยเป็นดาวเหนือเมื่อราว 12,000 ปีก่อน ค.ศ. และจะกลับมาเป็นดาวเหนืออีกราว
ค.ศ. 13727
天河 ของคนจีน
ชนชาติเก่าแก่อย่างจีน ก็มีความเชื่อในเรื่องทางช้างเผือก
และเป็นตำนานรักระดับ Original เลยทีเดียว (ว่ากันว่า เป็นตำนานที่มาของเจ้าหญิง
ทอผ้าและเจ้าชายเลี้ยงวัวของญี่ปุ่น)
เล่าสืบกันมาว่า มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง เลี้ยงวัวแก่ ๆ ตัวหนึ่งไว้เป็นเพื่อนยามเหงา
วันหนึ่งวัวเกิดความเห็นใจเจ้านาย จึงแนะชายหนุ่มให้ไปพบ เทพธิดาทั้ง 7 ของ
องค์เทพเจ้าเง็กเซียน ที่กำลังจะลงมาจากสวรรค์ มาเล่นน้ำที่สระในโลกมนุษย์
ชายหนุ่มจึงเดินทางไปที่สระน้ำ แล้วแอบหยิบเสื้อผ้าของเทพธิดาเก็บไว้ชุดหนึ่ง
แต่บังเอิญเขาเผลอสะดุดทำเสียงดัง เทพธิดาทั้งหมดต่างตกใจ รีบคว้าชุดเหาะขึ้นกลับ
สวรรค์ไป เหลือไว้แต่พระธิดาองค์ที่ 7....
ชายหนุ่มได้ขอให้พระธิดาแต่งงานกับตน แล้วจะคืนชุดเสื้อผ้าให้
พระธิดาเองเห็นชายหนุ่ม ก็มีใจตอบตกลงแต่งงาน แล้วทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอย่างมี
ความสุข จนมีพยานรัก 2 คน
เมื่อเทพเง็กเซียนทราบข่าว จึงให้ทหารลงไปจับตัวพระธิดากลับขึ้นมายังสวรรค์
หนุ่มเลี้ยงวัว และลูกทั้ง 2 วิ่งไล่ติดตามขอคืนภรรยาและแม่ ไปอย่างไม่ลดละ
องค์เง็กเซียน กริ้วจัด ถึงกับใช้ปิ่นปักผมของพระธิดา
กรีดแหวกท้องฟ้าสว่างจ้าออกกลายเป็นแม่น้ำยาว 天河 กั้นความรักของทั้งคู่ไว้
(天河 อ่านว่า เทียนเหอ แปลว่า แม่น้ำแห่งสวรรค์ ซึ่งคือ ทางช้างเผือก)
ขอบคุณภาพ จากที่มา http://www.planet789.com/2019/06/the-four-great-folktales-in-china.html
ความรู้วันนี้ ต่อยอดความเชื่อในวันนั้น :
ส่วนที่สว่างจ้าที่สุด ของทางช้างเผือก อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู
ซึ่งเป็นทิศทางไปสู่ใจกลางทางเผือก ที่ที่มีดาวฤกษ์รุ่นเก่าส่องสว่างรวมอยู่กันอย่างหนาแน่น รวมถึงฝุ่น แก๊สกระเจิดกระเจิงจำนวนมาก และมีหลุมดำมวลมหาศาล ที่มีชื่อ
Sagittarius A
Milky Way ของคนยุโรป (กลุ่มคนภาษาละติน)
ในภาษาอังกฤษนั้น ทางช้างเผือก จะถูกเรียกว่า Milky Way ภาษาเยอรมัน เรียกว่า
Milchstrasse และภาษานอร์วิเจียน เรียกว่า Melkeveien แต่ต่างแปลเป็นความหมาย
เดียวกันคือ ทางน้ำนม
Milky Way มาจากเรื่องเล่าในตำนานของเทพเจ้าชาวกรีก คือ เทพซูส ที่แอบไปมี
สัมพันธ์กับสตรีชาวมนุษย์ แล้วมีลูกออกมา ชื่อ เฮอคิวลิส
เมื่อพระองค์กลับสู่สวรรค์ เพื่อให้ทารกเฮกคิวลิสของพระองค์ มีพลังอำนาจเท่ากับเทพ จึงนำทารกเฮอคิวลิส ไปแอบไว้วางบนทรวงอกของเทพีเฮรา
ขณะที่นางหลับ เพื่อให้ทารกได้ดื่มน้ำนมของนาง
เมื่อเทพีเฮราตื่นขึ้นก็ต๊กใจ ....
ไว้อ่านต่อต่อไปนะคะ ว่าเมื่อนางต๊กใจ แล้วจะทำอะไร
แต่ EP 2/2 ยังมีเรื่องราวของ ชื่อและที่มาทางช้างเผือกในอีกหลายประเทศที่
น่าสนใจไม่แพ้กัน และที่สำคัญ ได้รู้ถึงที่มาของชื่อ ทางช้างเผือกของไทยเรา
ติดตามไปกับกวีธาราใน EP 2/2 นะคะ เร็ว ๆ นี้
อ่านแล้วชอบ กด Like ส่งกำลังใจให้กวีธารา รวบรวม คัด เขียน และแชร์บทความดี
ต่อ ๆไป เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย ด้วยนะคะ
และไม่ลืมค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาอ่านกัน
กวีธารา เป็นร้านค้าแนวอนุรักษ์ ขายโปสการ์ดและถุงผ้า Handmade ภาพลิขสิทธิ์ และรับสั่งทำถุงผ้าลดโลกร้อน อยู่ตลาดน้ำลัดมะยมโซน 7 กทม. และ Line ID 770 9601
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่ใช้อ้างอิง:
-The Night Sky: Soul and Cosmos: The Physics and Metaphysics of the Stars and Planets Updated, Expanded Edition by Richard Grossinger (Author), Bernadette Mayer (Foreword)
-ttps://www.swedishlapland.com/stories/astrophotography/
- Exploring the Southern Sky: A Pictorial Atlas from the European Southern ...
by Svend Laustsen, Claus Madsen, Richard M. West

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา