9 ก.ค. 2020 เวลา 12:19 • ครอบครัว & เด็ก
🎈รถหัดเดิน อันตราย!🎈!
เด็กที่ใช้รถหัดเดิน เกิดอุบัติเหตุ ถูกรถชน บ้างก็จมน้ำ เป็นข่าวเศร้าสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้อ่าน
ทำไมยังไม่มีการสั่งห้ามขายเสียที
ประเทศ คานาดา เป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามขายรถหัดเดิน ตั้งแต่ปี2004 ถ้าพบว่ามีการขาย ผู้ขายก็จะถูกปรับเป็นเงิน 100,000ดอลล่าร์ และจำคุก 6 เดือน ทีเดียวค่ะ
แต่ในประเทศไทยเรา ยังคงมีการซื้อขายรถหัดเดิน ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์กันอยู่เป็นปกติ
ราคาก็ใช่ว่าจะถูกๆ เหตุผลที่ซื้อไปใช้ พ่อแม่มักบอกว่าเพราะ
“คิดว่าจะช่วยให้ลูกเดินได้เร็วขึ้น” จริงหรือ?
เรามาดูกันค่ะว่า รถหัดเดิน มีความเสี่ยง อะไร และมีประโยชน์ช่วยหัดเดินได้ จริงหรือไม่?
🎈รถหัดเดิน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ🎈
 
เวลาเด็กอยู่ในรถนี้ แล้วไถไปเร็วๆ เราจะวิ่งไล่ตามไม่ทันเลยนะคะ เคยเจอรายหนึ่ง ทั้งรถทั้งเด็กไถลลงมาตามขั้นบันไดจากชั้นบนลงมาถึงชั้นล่างเลยค่ะ
เด็กบางคนเอื้อมมือชะโงกออกมาหยิบของที่พื้น รถพลิกคว่ำหน้าคะมำก็มี ไถลรถสะดุดสายไฟ ไปชนกาน้ำ น้ำร้อนลวกบ้าง นิ้วมือนิ้วเท้าถูกหนีบบ้าง สารพัดอุบัติเหตุที่เกิดจากอุปกรณ์ชิ้นนี้
ในประเทศอเมริกา ระหว่างปี 1990-2014 พบว่า มีการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับรถหัดเดิน 230,000ครั้ง ส่วนใหญ่เป็น การบาดเจ็บที่ศีรษะ ถือว่าการใช้รถหัดเดิน ต้องระมัดระวังค่ะ ถ้าไม่ใช้ได้ก็จะดีที่สุดค่ะ😀
ขอบอกว่า ชื่อที่ใช้เรียกว่า รถหัดเดิน ทำให้เข้าใจผิด คิดว่าจะช่วยหัดให้เดินได้เร็วขึ้น
🎈เด็กที่ใช้รถหัดเดินกลับเดินได้ช้ากว่า เด็กที่ได้ฝึกเดินตามธรรมชาติ 🎈เสียอีก
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
เวลาทารกเริ่มฝึกหัดใช้กล้ามเนื้อในการเดิน เมื่ออายุประมาณ 9-10 เดือน กล้ามเนื้อต้นขาต้องแข็งแรง เพราะได้รับการฝึกฝนการใช้บ่อยๆ โดยการใช้มือเหนี่ยวขึ้นมาเกาะยืนก่อน อาจจะเหนี่ยวกับขอบเตียง ขอบโซฟา หรือมือของพ่อแม่ ยืนสักพักก็นั่งลงไปใหม่
การลุกขึ้นยืน ๆนั่งๆ นี้เองช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงค่ะ
ภาพจาก https://www.lifealth.com/pregnancy-and-parenting/new-born-babycare/how-to-help-your-baby-to-stand-and-walk-for-the-first-time-dc/45214/
แต่ถ้าเด็กอยู่ในรถหัดเดินที่มีล้อ ไม่มีที่มั่นคงให้เหนี่ยวลุกขึ้นนั่งลง มีแต่การใช้ขาท่อนล่าง และปลายเท้าไถไป
กล้ามเนื้อต้นขาไม่แข็งแรง ซ้ำเติมด้วย การเกร็งกล้ามเนื้อจิกปลายเท้า เหมือนเต้นบัลเล่ท์ ทำให้การทรงตัวไม่ดี ทั้งหมดนี้ไม่ช่วยในการเดินแม้แต่น้อย!😥
ถ้าเริ่มใช้รถหัดเดินตั้งแต่อายุ 5-6 เดือน และให้ทารกอยู่ในรถนานวันละหลายชั่วโมง ทารกจะไม่ได้นอนกลิ้งเล่นกับพื้น ก็ไม่ได้ฝึกทั้งกล้ามเนื้อลำตัว และต้นขาค่ะ
การศึกษาวิจัยหนึ่งในสิงคโปร์ในเด็ก 185 คน พบว่า ร้อยละ 10.8 ของเด็กใช้รถหัดเดินเป็นประจำ จะมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้รถหัดเดิน
นอกจากนั้น การอยู่ในรถหัดเดิน ทำให้ทารกมองไม่เห็นขาของตัวเอง เขาก็จะไม่รับรู้ว่า ขยับขาแล้วเกิดอะไรขึ้น การพัฒนากล้ามเนื้อต้องอาศัย การรับรู้ทางตาเชื่อมโยงกันด้วย จึงจะก้าวเดินได้อย่างมั่นคง และมั่นใจค่ะ
สรุปจากการศึกษาหนึ่ง(1) ในทารก 109 รายอายุ 6-15 เดือน พบว่า ทารกที่ใช้รถหัดเดิน นั่ง คลาน เดินได้ช้ากว่า กลุ่มที่ไม่ใช้รถหัดเดิน
จากข้อมูลการบาดเจ็บ และ พัฒนาการของทารก สรุปได้ว่า
🎈ความเสี่ยงจากการใช้รถหัดเดิน มีมากกว่า ประโยชน์ที่จะได้รับ 🎈
🌻เปลี่ยนชื่อเรียกอุปกรณ์นี้เป็น “รถพยุงตัว “ น่าจะดีกว่า ค่ะ เพราะแท้ที่จริงแล้ว รถนี้ทำให้เดินได้ช้าลง และเดินด้วยท่าที่ผิดปกติด้วยค่ะ🌻
เรามาใช้วิธีดั้งเดิมของไทยๆดีกว่าค่ะ สมัยเด็กๆ พ่อแม่ใครเคยใช้ผ้าขาวม้าดึงรั้งรอบอกลูก แล้วค่อยๆให้เดินไปด้วยกันบ้างคะ?
หรือเวลาเด็กเริ่มจะยืนได้เอง ก็จะร้องเพลงคล้องจองให้
ฟังเพลินๆ เผลอๆ ก็จะยืนได้นานโดยไม่รู้ตัว
“ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน ไข่ตกดิน อดกินไข่ต้ม “
“ตั้งเอ๋ยตั้งไข่
จะตั้งไยไข่กลมก็ล้มสิ้น
ถึงว่าไข่ล้มจะต้มกิน
ถ้าตกดินเสียก็อดหมดฝีมือ
ตั้งใจเรานี้จะดีกว่า
อุตส่าห์อ่านเขียนเรียนหนังสือ
ทั้งวิชาสารพัดเพียรหัดปรือ
อย่าดึงดื้อตั้งไข่ร่ำไรเอย”
🍄เด็กได้ฟังคำกลอน พร้อมกับหัดเดินอย่างอบอุ่น ในแวดวงของครอบครัวที่เขารัก เป็นสิ่งที่สุดวิเศษเลยค่ะ🍄
🌺หลีกเลี่ยงการใช้รถพยุงตัว เพราะ จะทำให้พัฒนาการทางกล้ามเนื้อไม่ดี ไม่ช่วยในการฝึกเดิน
ให้เด็กฝึกเดินตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมของผู้คนในครอบครัวเถอะค่ะ🌺
เอกสารอ้างอิง
1.Effect of Baby Walkers on Motor and Mental Deveolment in Human Infant J Dev Behav Pediatr 1999Oct ;20(5):355-61

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา