13 ก.ค. 2020 เวลา 13:47 • ธุรกิจ
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับประเด็นที่ฮ่องกงสักเท่าไรนะครับ กรณีที่ทางรัฐบาลจีนกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ออกมาส่งสาส์นท้ารบกันด้วยการประกาศจะคว่ำบาตร และแบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในรัฐบาลของกันและกันเนี่ย แต่จะขอโน้ตไว้สักหน่อย เผื่อใครที่สนใจ
1
1. เมื่อกลางวันของวันนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนจึงได้ออกมาประกาศว่าทางจีนจะทำการลงโทษรัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วยการสั่งคว่ำบาตรบุคลากรภายในรัฐบาลอเมริกา
2. โดยจะนำร่องทำการคว่ำบาตรก่อน 4 คน คือ Marco Rubio วุฒิสมาชิกจากฟลอริด้า, Ted Cruz วุฒิสมาชิกจากเท็กซัส, Sam Brownback นักการทูต, และ Chris Smith ส.ส. เขต 4 จากนิวเจอร์ซี
3. บุคคลที่ถูกประกาศขึ้นบัญชีดำทั้งหมด 4 คนนี้เป็นคนจากพรรค Republican ทั้งหมด ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนอ้างว่าสาเหตุที่เลือกแบนบุคคลเหล่านี้เพราะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีส่วนในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนมาตลอด
4. อย่างวุฒิสมาชิก Marco Rubio ก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบออกมาแถลงข่าวด่ารัฐบาลจีน ชอบวิจารณ์รัฐบาลจีน ชอบสร้างกระแสเกลียดชังประเทศจีน
5. ส่วน ส.ส. Chris Smith ก็เป็นบุคคลสำคัญของรัฐสภาอเมริกาที่มีบทบาทสำคัญอยู่ภายในคณะกรรมาธิการติดตามปัญหาสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็มักออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน หาว่าจีนไม่เคารพสิทธิมนุษยชนเสมอ
6. ทางรัฐบาลจีนเลยประกาศว่าจะต้องแบน และลงโทษบุคคลเหล่านี้เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู และเป็นการขู่รัฐบาลอเมริกาว่าให้รีบจัดการปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ไม่งั้นครั้งต่อไปอาจจะมีการนำบุคคลสำคัญในอเมริกามาขึ้นในรายชื่อบัญชีดำเพิ่มอีก
7. ทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนยังระบุอีกด้วยว่า สหรัฐอเมริกานั้นกำลังคุกคามสิทธิ และวิถีปฏิบัติของนโยบายภายในประเทศของจีน ซึ่งขัดต่อธรรมเนียม และกติกาของการทูต และการระหว่างประเทศ
8. จีนอยากขอร้องให้สหรัฐอเมริกาหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เสีย เพื่อป้องกันที่จะไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอเมริกาตกต่ำ ร้าวรานไปมากกว่าในปัจจุบันนี้
9. และถ้าหากอเมริกายังไม่หยุด จีนก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการตอบโต้ที่หนักข้อขึ้นกว่านี้อีก (และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาวด้วย)
10. นอกจากนี้ จีนยังกล่าวอีกว่า สหรัฐอเมริกาควรเลิกยุ่งกับกิจการภายในของจีนไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่ซินเจียงด้วย เพราะจีนมีสิทธิที่จะบริหารจัดการพื้นที่ภายในประเทศของตนเอง
11. การกระทำของรัฐบาลจีนครั้งนี้ถือเป็นมาตรการโต้ตอบรัฐบาลสหรัฐอเมริกามาตรการหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อนสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนก่อน
12. ส่วนคำถามที่ว่าแล้วสหรัฐอเมริกาทำไมอยู่ๆถึงมาสั่งแบน หรือออกมาตรการคว่ำบาตรประเทศจีนตอนนี้? อันนี้ตอบง่ายๆว่าเรื่องซินเจียงนี้มันเป็นเรื่องที่ค้างคาอยู่ในความสนใจของรัฐบาลอเมริกา และสภาคองเกรสของอเมริกามานานหลายปีแล้ว
13. ถ้ายังจำกันได้ เมื่อช่วง 1-2 ปีก่อน มีเอกสารที่เกี่ยวกับวิถีปฏิบัติของรัฐบาลจีนที่มีต่อชาวมุสลิมอุยกูร์หลุดออกมา แล้วมีรายละเอียดเกี่ยวกับการทารุณกรรมชาวมุสลิมที่ค่ายกักกันหลากหลายรูปแบบ
14. อันนี้เผื่อใครยังไม่ทราบ คือ ผู้บริหารระดับสูงของจีนเนี่ย กังวลเกี่ยวกับการมีอยู่ของมุสลิมเป็นพิเศษ แถมดินแดนที่ชาวมุสลิมกระจุกตัวอยู่ในจีนยังอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางอำนาจของรัฐบาลอีก
15. ทำให้รัฐบาลจีนค่อนข้างกลัวว่าจะมีกบฎ หรือ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลก่อตัวขึ้นมา เลยตัดสินใจรวบตัวพวกมุสลิมที่อาศัยอยู่ในแถบซินเจียงนั้นมาเข้าค่ายปรับทัศนคติให้หมด
16. ค่ายปรับทัศนคติ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Re-education camp ภายในซินเจียงนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากค่ายกักกัน ค่ายล้างสมองสมัยก่อน
17. คือใครถูกจับเข้าไปอยู่ในค่ายก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้คุม ครูฝึก และเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่รัฐบาลจีนส่งมาดูแล คำสั่งก็จะมีหลายแบบ เน้นการฝึกพฤติกรรม และสั่งสอน
18. ตัวอย่างเช่น เอาตำราแบบเรียนที่รัฐบาลจีนคิดค้นขึ้นมาให้ท่องจำ และต้องจำให้ได้ด้วย ไม่งั้นไม่ได้ออกจากค่าย ต้องมีการฝึกเข้าแถว ฝึกให้เลิกเป็นมุสลิม ฝึกให้เชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์
19. โดยรัฐบาลจีนอ้างว่าเป็นการป้องกัน และมาตรการเชิงรับเพื่อลดปัญหาการก่อการร้าย และกบฎแบ่งแยกดินแดนซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ก็เลยต้องจับคนมาเข้าค่าย
20. หลายคนออกมาจากค่ายแล้วก็แทบจะกลายเป็นคนละคน เหมือนถูกล้างสมองออกไปเลย เพราะอยู่ในค่ายนั้นต้องท่องจำปรัชญาคอมมิวนิสต์ ปรัชญาของประธาน Xi Jinping
21. รัฐบาลจีนอ้างว่าไม่ใช่คุก ไม่ใช่ค่ายแต่เป็น "โรงเรียน" ที่สอนให้คนเลิกคลั่งศาสนา ก็เลยต้องมีมาตรการบางอย่างที่พยายามเปลี่ยนแปลงความคิดและความเชื่อของคน (แต่เป็นโรงเรียนที่มีป้อม มีทหารยืนอยู่บนหอคอยสังเกตการณ์อยู่ทุกๆมุม คอยป้องกันคนหนี)
22. ประเด็นนี้ทำให้คนในสหรัฐอเมริกาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพฤติกรรมและนโยบายที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ไม่อดทน ยอมรับต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรม
23. อันนี้ไม่ใช่แค่คนในรัฐบาล Donald Trump หรือพรรค Republican เท่านั้นที่จ้องจะเล่นงานจีนในประเด็นนี้ แต่พรรค Democrat หลายคนก็เห็นตรงกันว่ารัฐบาลอเมริกาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อลงโทษจีน
24. จริงๆมีการเรียกร้องและผลักดันกันในรัฐสภา กระทรวงการต่างประเทศ และสภาความมั่นคงแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2018 แล้วว่าให้ทำการคว่ำบาตรประเทศจีน และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนกรณีเหตุการณ์ในซินเจียง
25. ด้วยการใช้กลไกและบทบัญญัติตามกฎหมายชื่อ Global Magnitsky Act ที่ผ่านสภาในปี 2016 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสามารถสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาล หรือบุคคลใดๆก็ได้ทั่วโลก หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
26. แต่ตอนนั้นประธานาธิบดี Donald Trump ปฏิเสธที่จะสั่งคว่ำบาตรรัฐบาลจีน เพราะตนเองกำลังอยู่ในท่ามกลางสงครามการค้ากับจีนอยู่ เลยกลัวว่าถ้ามีการกดดันจีนมากไป จะทำให้เจรจาการค้า เจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้ากันลำบาก
27. ตอนนั้น Donald Trump เลยตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เอาไว้เล่นทีหลัง เรื่องมันเลยค้างอยู่ที่สภามาจนกระทั่งถึงปี 2020 ที่มันผ่านกฎหมาย Uyghur Human Rights Policy Act พอดี
28. กระแสการแบนจีนเพราะประเด็นอุยกูร์มันเลยกลับมาอีกครั้ง บวกกับที่ว่าช่วงนี้ Donald Trump กำลังเจอปัญหาการเมืองภายในประเทศอย่างหนักจนอาจทำให้เขาแพ้เลือกตั้งในช่วงปลายปี
29. ดังนั้น Donald Trump จึงตัดสินใจเปลี่ยนเกม แล้วหันมาเล่นเรื่องอุยกูร์ และสิทธิมนุษยชนภายในจีนแทน เพื่อเป็นการเรียกเสียงสนับสนุน ยิ่ง Trump แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนมากเท่าไรก็ยิ่งสามารถเบี่ยงประเด็น เบี่ยงความสนใจของสาธารณชนให้เพ่งเล็งเขาได้มากเท่านั้น
30. หวยมันเลยมาออกเมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลอเมริกาจึงได้โอกาสสั่งแบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในรัฐบาลจีนเพื่อส่งสัญญาณเลย ฝั่งจีนเลยโดนแบนไป 4 คน
31. คือ Chen Quanguo (เลขาธิการพรรคประจำซินเจียง) Zhu Hailun (อดีตรองเลขาธิการพรรคประจำซินเจียง) Wang Mingshan (ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงเขตซินเจียง) และ Huo Liujun (อดีตเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงเขตซินเจียง)
32. อธิบายนิดหนึ่ง คือที่เขียนว่าแบนๆ หรือคว่ำบาตรกันระหว่าง 2 ฝ่ายเนี่ย ไม่ใช่อะไรใหญ่โตหรอกครับ เป็นแค่การแบนแบบเล็กๆน้อยๆ คือ ห้ามบินเข้าประเทศ และอาญัติทรัพย์สินในประเทศที่ถูกแบนเท่านั้น
33. ตัวอย่างเช่น ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนถูกกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาแบน หรือคว่ำบาตร ยกเลิกวีซ่า ก็แปลว่าเขาและครอบครัวจะไม่สามารถบินเข้ามายังอเมริกาได้อีก
34. นอกจากไม่สามารถบินเข้าประเทศแล้ว ถ้าบังเอิญว่าคนที่ถูกแบนนั้นถูกกระทรวงการคลังของอเมริกาแบนอีกต่อหนึ่ง ก็จะถูกอาญัติทรัพย์สินที่อยู่ในอเมริกา
35. ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรครับ อย่างที่บอกคือ มันเป็นแค่เกมการแลกหมัดเล็กๆน้อยๆ เหมือนเกมบลัฟธรรมดาๆระหว่าง 2 รัฐบาล
36. ถ้าสังเกตดูรายชื่อที่ถูกแบนนั้น จะเห็นว่ามีแต่รายชื่อที่ไม่ใช่บิ๊กเนม ไม่ใช่คนใหญ่คนโตของรัฐบาลทั้ง 2 ฝั่งเลย อย่าง Marco Rubio ก็ไม่ใช่คนสำคัญของรัฐบาลอเมริกาเหมือนกัน
37. การแบนในครั้งนี้จึงเหมือนการนัดกันมาต่อย แต่พอมาเจอหน้ากันก็ผลัดกันหยิกเนื้อคนละทีสองที ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรใหญ่โตในระยะสั้น หรือในภาพกว้างมากนัก นอกจากสงครามจิตวิทยา
38. จะมีก็แต่ผลกระทบในระยะกลาง และระยะยาว ที่ถ้าทั้ง 2 ฝั่งไม่หารือกัน หรือจัดเจรจากัน ก็อาจจะมีการกดดันกันด้วยมาตรการที่รุนแรงขึ้นกว่านี้ได้ (อาจเพิ่มระดับทีละน้อยๆ) แต่โดยรวมคือไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
References
1. บทความจาก The Straits Times ชื่อ "China to sanction US Senators Marco Rubio, Ted Cruz over Xinjiang"
2. บทความจาก BBC ชื่อ "Trump held off sanctioning Chinese over Uighurs to pursue trade deal"
3. บทความจาก Reuters ชื่อ "China trades sanctions with U.S. in row over Uighur Muslims"
4. บทความจาก The Guardian ชื่อ "China announces retaliatory sanctions against Marco Rubio and Ted Cruz"
5. บทความจาก Al Jazeera ชื่อ "US sanctions top Chinese official over Xinjiang crackdown"
6. บทความจาก BBC ชื่อ "Xinjiang: Rubio and Cruz hit with tit-for-tat China sanctions"
โฆษณา