15 ก.ค. 2020 เวลา 05:24 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา WUTTISAK CLINIC
“ล้มละลาย”
เมื่อพูดถึงหุ้นที่มีชื่อว่า EFORL แล้วนั้น เชื่อว่าเพื่อนๆนักลงทุนที่อยู่ในตลาดก็น่าจะเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักกันเป็นอย่างดีในนามบริษัทแม่ของธุรกิจคลีนิคเสริมความงามสุดฮิต(ในอดีต)นั่นเอง
ซึ่งก่อนหน้านี้สัก 5 ปีหากบอกว่าธุรกิจคลีนิคเสริมความงามจะต้องปิดตัวลงก็คงจะไม่มีใครเชื่อ ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมนี้ก็ยังไม่ล้มหายตายจากไปไหน แต่เมื่อมีการแข่งขันที่รุนแรงก็ย่อมมีผู้ที่พ่ายแพ้หรือไปต่อไม่ไหว
และแน่นอนว่า “วุฒิศักดิ์ คลีนิค” ก็คือกิจการที่เราได้พูดถึงกันอยู่ เพราะล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาว่าทางบริษัทได้ตัดสินใจยื่นคำร้อง “ขอฟื้นฟูกิจการ” ต่อศาลล้มละลายกลาง ตามกฎหมายการล้มละลายไปเรียบร้อยและในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรออนุมัติจากศาล
หากจะย้อนกลับไปเมื่อก่อนนั้น บจ. วุฒิศักดิ์ คลินิก ก็จะถือว่าเป็นบริษัทที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยนายแพทย์ วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช, พลภัทร จันทร์วิเมลือง และณกรณ์ กรณ์หิรัญ เพื่อประกอบธุรกิจด้านการเสริมความงามและผิว
1
ซึ่งก็คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าชื่อของคลีนิคนี้เคยประสบความสำเร็จอย่างมากในไทย เพราะในช่วงปีพ.ศ. 2556 นั้น วุฒิศักดิ์ คลีนิค มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทยทั้งหมดถึง 120 สาขา แถมยังมีสาขาที่อยู่ในกลุ่มประเทศลาว, พม่า, กัมพูชาและเวียดนามรวมอีกนับ 11 สาขา แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองที่เคยสวยงามในอดีต
แต่เรื่องนี้ก็คงจะไม่เป็นอะไร ถ้าหากว่า EFORL หรือบมจ. อี ฟอร์ แอล เอม ผู้ที่เดิมทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือการแพทย์นั้นไม่ได้ยื่นมือเข้ามาจับความเร่าร้อนของ วุฒิศักดิ์ คลีนิค ในปีพ.ศ. 2557 ด้วยการเข้ามา “ลงทุน” ด้วยการถือหุ้นของคลีนิคในสัดส่วนถึง 60% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท
ซึ่ง EFORL ก็หวังที่จะทำให้การลงทุนครั้งนั้นสามารถสร้างการเติบโตและรายได้กลับมายังทางบริษัทแม่เหมือนปกติทั่วไปนั่นแหละครับ แต่ผลปรากฎว่า วุฒิศักดิ์ คลีนิค กลับเริ่มถอยหลังลงมาเรื่อยๆแบบกู่ไม่กลับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2556 ที่เปรียบเสมือนยุครุ่งเรืองที่สุดของธุรกิจ
และถ้าหากว่าเราย้อนกลับไปดูงบการเงินของ วุฒิศักดิ์ คลีนิค ที่เป็นบริษัทลูกของ EFORL แล้วเราก็จะพบว่า
💰งบการเงินย้อนหลังของบจ. วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป
ปี 2556 รายได้ 3,498 ล้านบาท
กำไร 414 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 2,922 ล้านบาท
กำไร 71 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 2,584 ล้านบาท
กำไร 149 ลัานบาท
ปี 2559 รายได้ 1,623 ล้านบาท
ขาดทุน 528 ล้านบาท
การลงทุนถือหุ้นกว่า 60% ใน วุฒิศักดิ์ คลินิก นั้นกลับกลายจากจุดสูงสุดเป็นขาลงในทันทีที่ EFORL เริ่มเข้าไป อีกทั้งต่อมาเพียง 3 ปีหรือในปีพ.ศ. 2559 ทาง วุฒิศักดิ์ คลินิก ก็ต้องพบกับการขาดทุนเป็นครั้งแรกไปกว่า 528 ล้านบาท
เช่นเดียวกันกับราคาหุ้นของ EFORL ที่เคยขึ้นไปถึงเกือบๆ 2 บาท (1.97 บาท) ในปีพ.ศ. 2557 จากประเด็นข่าวดีในการลงทุนกับคลีนิคเสริมความงามที่กำลังมาแรงสุดๆ
แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้น EFORL ก็ต้องพบกับความผิดหวังและการลงโทษด้วยการ “เทขาย” หุ้นทิ้งกันไปอย่างหนัก เมื่ออะไรๆมันไม่เป็นไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์กันไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นซึมตัวลงลดลงมาเรื่อยๆจากจุดสูงสุดถึงประมาณ 98% จนเหลืออยู่ที่ 0.03 บาทต่อหุ้นในปัจจุบัน
สาขาของ วุฒิศักดิ์ คลินิก ก็เริ่มลดลงมาด้วยเรื่อยๆเช่นกันจากปัญหาหนี้สินที่พะรุงพะรังเกินตัว จากที่เคยมีอยู่ 120 สาขาก็เหลือ 116 สาขาในปีพ.ศ. 2561 และลดลงเหลือเพียง 49 สาขาในปีพ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงอาการป่วยที่ชัดเจนของ “วุฒิศักดิ์ คลินิก”
เมื่อลูกป่วย บริษัทแม่อย่าง EFORL ก็ป่วยไปด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากไปดูผลงานที่ผ่านมาแล้วเราก็จะพบว่า EFORL ก็ยังคงขาดทุนต่อเนื่องมาโดยตลอดซึ่งในปีพ.ศ. 2562 ที่ผ่านมานั้นพบว่ายังขาดทุนอยู่ถึง 272 ล้านบาท และมีหนี้สินอยู่ทั้งหมด 2,548 ล้านบาท
และสำหรับงบในไตรมาส 1 ที่ต้องเผชิญวิกฤติ Covid-19 นี้เราก็ยังคงไม่ได้เห็นงบของ EFORL กันออกมาเพราะมีการขอเลื่อนจากเหตุผลหลักๆก็คือเรื่องของ วุฒิศักดิ์ คลินิก นี่เอง แต่สุดท้ายเราก็พบว่าทางวุฒิศักดิ์ คลินิก ก็ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการไปเรียบร้อยแล้วเนื่องจากไปต่อไม่ไหว
ใครจะไปรู้ว่าคลีนิคเสริมความงามชื่อดังอันดับ 1 ในอดีตของไทยอย่าง “วุฒิศักดิ์ คลินิก” จะปรากฎชื่อตัวเองอีกครั้งบนหน้าสื่อกับการยื่นคำร้อง “ขอฟื้นฟูกิจการ” ในยุคที่ต้องเจอกับ Covid-19 เช่นนี้
แต่ที่จริงแล้วก็คงจะไม่ใช่เพราะโควิดซะทีเดียวที่ทำให้ วุฒิศักดิ์ คลินิก ต้องเป็นแบบนี้ เพราะเพื่อนๆก็คงจะเห็นว่าทุกวันนี้การแข่งขันในอุตสาหกรรมของพวกเค้านั้นรุนแรงกันมากเพียงใด ขนาดโรงพยาบาลใหญ่ๆก็ยังลงมาร่วมแจมและจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า
หวังว่าบทเรียนของ วุฒิศักดิ์ คลินิก และหุ้น EFORL ในครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่คอยเตือนใจเพื่อนๆนักลงทุนกันได้ว่าการลงทุนคือความเสี่ยง ขนาดผู้นำที่เคยแข็งแกร่งในอดีตยังร่วงลงมาบาดเจ็บได้ในวันนี้
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง EFORL ยังสามารถลงทุนแล้วพลาดได้ซึ่งเราก็คงจะได้เห็นบทเรียนแบบนี้กันมานักต่อนักแล้วเพราะฉะนั้น ทุกๆการลงทุนของเราก็ควรจะต้องมีความรอบคอบ บริหารจัดการเงินทุนและวางแผนไว้สำหรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ
และสำหรับในวันนี้พวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด ก็คงจะต้องขาตัวลากันไปก่อน หวังว่าเพื่อนๆจะประสบความสำเร็จทั้งในการใช้ชีวิตและการลงทุนกัน แล้วอย่าลืมมาติดตามความรู้ดีๆจากเราได้ที่นี่เสมอ
สวัสดีครับ...
⭐️กลับมาอีกแล้วว...รถด่วนขบวนสุดท้ายสำหรับห้อง VIP...TFEX สุด Exclusive By ทีมงานไก่จ๋า⭐️
เพียงแค่ท่านเปิดบัญชีกับเรา โดยมีผู้สนับสนุนใจดี
เปิดบัญชี TFEX สัญญาละ 25
หุ้นค่าคอม ล้านละ 500
.
.
สิทธิพิเศษลูกค้าใหม่ หุ้น& TFEX รับสิทธิเข้าห้องไลน์ VIP สุดพิเศษพร้อมแนะนำกลยุทธ์ทุกวัน ฟรี!!! ย้ำว่าฟรี‼️‼️
.
ด่วน!! จำนวนจำกัด...
กดได้เลย
โฆษณา