Alfa Romeo แบรนด์รถยนต์ที่อยู่เบื้องหลัง จุดเริ่มต้นและความสำเร็จของ Ferrari
ในบ้านเรา หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกับ “อัลฟา โรเมโอ” แบรนด์รถยนต์สัญชาติอิตาลีกันสักเท่าไหร่นัก แม้จะเคยผ่านหูมาบ้างก็ตาม
แต่รู้ไหมว่าในฝั่งยุโรป อัลฟ่าโรเมโอ คือแบรนด์รถยนต์ที่เป็นต่อในวงการเป็นอย่างมาก
และรู้ไหมว่าแบรนด์ซุปเปอร์คาร์เบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่าง “เฟอร์รารี” ที่ประสบความสำเร็จมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
จุดกำเนิดทางอ้อม.. หากไม่มี “อัลฟาโรเมโอ” ในวันนั้น คงไม่มีซุปเปอร์คาร์ “เฟอร์รารี” เช่นทุกวันนี้..
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวจะน่าสนใจอย่างไรนั้น ผู้เขียนจะพาไปหาคำตอบกัน..
ย้อนไปยังจุดกำเนิดของอัลฟาโรเมโอ พวกเขาเป็นแบรนด์สัญชาติอิตาลีก็จริง แต่มีจุดสนใจที่ถือกำเนิดโดยนักลงทุนชาวฝรั่งเศสชื่อ Alexandre Darracq
Alexandre ได้ระดมทุนกับหุ้นส่วนชาวอิตาลีอีกสามคน ก่อตั้งกิจการผลิตรถยนต์ ใช้ชื่อว่า “Società Anonima Italiana Darracq” หรือ “SAID”
โดยได้เริ่มกิจการในปี 1906
ทว่าเส้นทางอุตสาหกรรมรถยนต์ของอิตาลีในเวลานั้น แม้จะเพิ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่รถยนต์ของ Alexandre ก็ไม่ได้ขายดีในทันที
พวกเขาจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น Anonima Lombarda Fabbrica Automobili หรือ A.L.F.A. เพื่อให้จำได้ง่าย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า Alfa นั่นเอง
แล้วคำว่า Romeo ล่ะ มาจากไหน ?
คุณ Nicola Romeo เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่อยู่กับ Alexandre มาตั้งแต่เริ่มแรก
แต่ในช่วงปี 1915 บริษัทต้องประสบกับภาวะสงคราม แล้ว Nicola Romeo ก็เป็นบุคคลที่นำพาให้บริษัทเป็นที่พึ่งทางการทหารของอิตาเลี่ยน
ซึ่งเขาได้เปลี่ยนไลน์การผลิตรถยนต์ มาผลิตยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพอิตาลีและฝ่ายพันธมิตร เพื่อใช้ในการสงคราม
ส่งผลให้ชื่อของเขา ได้รับการเรียกขานอย่างล้นหลามจากมวลมหาประชาชน
พอสงครามสิ้นสุด บริษัทได้กลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้ง และ Nicola Romeo ก็ครองกิจการแบบเบ็ดเสร็จ จึงได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น “Alfa Romeo” นับแต่นั้นมา
เวลาต่อมา เมื่อโลกสงบจากสงครามอยู่พักใหญ่ และอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เริ่มเติบโตขึ้นเป็นลำดับ
แต่นั่นไม่ใช่ความรุ่งเรืองสำหรับ Alfa Romeo เพราะแบรนด์ของพวกเขา ต่อให้จะสร้างความประทับใจด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้บนสงคราม
ทว่าหลังจากนั้นเพียงหนึ่งทศวรรษ บริษัทก็ประสบปัญหาทางการเงินจน Nicola Romeo ต้องตัดสินใจลาออก
แล้วขายบริษัทต่อให้กับรัฐบาลอิตาลี จนมีผลประกอบการดีขึ้น และได้หันมาผลิตรถหรู ตีตลาดในกลุ่มเศรษฐีแทน
นอกจากนี้แล้ว แบรนด์อัลฟาโรเมโอ ยังได้เบนการโปรโมทเข้าสนามการแข่งขัน เพื่อเป็นจุดสนใจจากผู้คนได้ง่าย
ซึ่งการแข่งขันบนสนาม ได้ดำเนินมาก่อนหน้านั้นหลายปีแล้ว
ความน่าสนใจคือเด็กหนุ่มอย่าง “เอ็นโซ เฟอร์รารี” ที่เคยถูกเกณฑ์เข้าไปเป็นช่างตอกเกือกลาในกองทัพตั้งแต่ปี 1914-1918
และก็เคยเกือบตาย เพราะติดเชื้อในปอดจากแนวรบส่วนหน้า แต่ในที่สุดก็รอดมาได้
พอสงครามสิ้นสุด เฟอร์รารีก็มาทำงานเป็นนักทดสอบรถยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายย่อย
ก่อนจะได้ไต่เต้ามาเป็นนักแข่งรถให้กับอัลฟาโรเมโอในปี 1924 ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม สามารถคว้าชัยชนะได้ในหลายสนาม
แต่ถึงแม้เขาจะทำหน้าที่ได้ดีสักแค่ไหน เฟอร์รารีก็ยังไม่กล้าพอที่จะทะยานไปถึงขีดจำกัด
ในปี 1929 แม้จะยังอยู่ภายใต้การเป็นนักแข่งของอัลฟาโรเมโอ แต่ในขณะเดียวกัน เฟอร์รารีก็ก่อตั้งทีมแข่งของตนเองในชื่อ “Scuderia Ferrari” ขึ้นด้วย
กระทั่งปี 1932 เมื่อเขาให้กำเนิดลูกชาย เฟอร์รารีก็ตัดสินใจเลิกแข่งขัน แล้วหันไปเป็นผู้จัดการทีมเท่านั้น
ช่วงปี 1939 เฟอร์รารีก้าวออกจากร่มโพธิ์ร่มไทรของอัลฟาโรเมโอ แล้วหันมาโฟกัสในทีมสคูแดเรียร์ และผลิตรถยนต์เพื่อใช้ในการแข่งขันของตัวเองขึ้นแทน
ทว่าทุกอย่างก็ไม่ได้ง่าย เพราะสงครามโลกได้เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
เฟอร์รารีจึงได้หันไปผลิตเครื่องยนต์ให้กับกองทัพ ก่อนที่โรงงานจะถูกระเบิดถล่มจนย่อยยับ
เมื่อสิ้นสุดสงครามเขาก็ได้กลับมาแจ้งเกิดให้กับแบรนด์รถยนต์เฟอร์รารี ด้วยการคว้าชัยชนะในการเข้าแข่งขัน “24 ชั่วโมง เลอม็อง”
แล้วชื่อของ “สคูแดเรียร์ เฟอร์รารี” ก็ได้รับการจดจำ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบัน เฟอร์รารีมีผลประกอบการจากการขายรถยนต์หรู และการแข่งขันรถยนต์ มากกว่าหลักแสนล้านบาท
หากจะบอกว่าเฟอร์รารีเริ่มต้นมาได้ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ Alfa Romeo ก็คงจะไม่ผิด
และหากจะบอกว่า Alfa Romeo อยู่เบื้องหลังจุดเริ่มต้นและความสำเร็จของ Ferrari ก็ย่อมได้..
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
The people
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
