20 ก.ค. 2020 เวลา 14:36 • ประวัติศาสตร์
ทำไมพรมแดนประเทศ อินเดีย-ปากีสถาน จึงเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดจากการกระทำของชาวอังกฤษ (British Raj) ?
จริงๆ เห็นข่าวของอินเดีย และจีนที่ทะเลาะกัน ที่เกียวกับพรมแดนของอินเดียและปากีสถาน หรือแคว้นแคชเมียร์และจัมมู (Jammu and Kashmir) ก็ด้วยจีนเค้าสนับสนุนปากีสถานอยู่อะเนอะ
แต่จริงๆเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับการทะเลาะกันในเรื่องของเจ้าแคชเมียร์อันนี้ เพื่อนๆน่าจะอ่านมาบ่อยแล้วเนาะ โดยเฉพาะในปลายปี 2019 ที่มีการวิเคราะห์เรื่องนี้ออกมาได้หลากหลายบทความมากเลยและดีมากๆ เราก็ตามอ่านอยู่เยอะเลย
และก็ตามชื่อบทความเลย โดยในบทความนี้เราจะมาเน้นการย่อยเรื่องราวนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกันถึง ต้นกำเนิด หรือตัวการหลัก ซึ่งก็คือประเทศอังกฤษนี้เอง หรือถ้าย้อนกลับไป เค้าเรียกว่า British Raj (หรือ British Empire in India, British crown in Indian subcontinent ก็จะดูแรงงๆขึ้นมาเน้อะ ฮาๆ)
เราขอพาเพื่อนๆไปอ่านเรื่องสนุกที่มาจากการย่อยของเรากันนนน !
ธงชาติก็คล้ายๆ ออสเครเลียเลย มี ธงUnion Jack อยู่ตรงมุม
เกี่ยวกับ British Raj สั้นๆ กันก่อน
- เริ่มตั้งแต่ปี 1858 จนถึง 1947
- โดยอาณานิคมของประเทศอังกฤษได้ขยายมาไกลจนถึงอินเดีย เรียกได้ว่าปกครองบางส่วนของอินเดียไปเลยละ
- แต่ที่แน่ๆคือระบบการปกครองต่างๆของอินเดียเป็นช่วงหนึ่งที่เรียกว่า Crown rule in India เลย
- รัฐดังๆต่อไปนี้ในอินเดีย เคยถูกปกครองด้วยอังกฤษเลยนะเช่น Assam, Bombay (อย่างเมืองสินธุ), Bengal(ซึ่งรวมบังคลาเทศ, Punjab (ซึ่งรวมนคร New Delhi), Burma (คุ้นๆไม๊ พม่าไง) เรียกได้ว่ามิอิทธิพลมากๆๆๆๆเลยละ
- อาณานิคมชาวอังกฤษมีปกคลุมไม่ว่าจะเป็น การเมือง การขนส่ง ธุรกิจ อาหารและยา การขนส่ง แรงงานและรวมถึงการศึกษาในอินเดีย โดยเฉพาะแคว้นหลักๆที่กล่าวมา
- พูดถึงเรื่องเงินแล้ว เงิน Indian Rupee เองก็ยังถูกเคยพิมพ์เป็นรูปของกษัตริย์อังกฤษมาแล้ว อย่าง Edward VII หรือ George VI
- เพิ่มเติมสนุกๆ King George VI เป็นลูกชายของพระเจ้าจอร์จที่ 5 George V, ซึ่ง George V เป็นพี่น้องกับพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 และเป็นจุดจบของราชวงศ์โรมานอฟ (ขุ่นพระ นี้เชื่อมกันหมดเลยยยย)
George VI บนเหรียญ Inidan Rupee ในปี 1940-1947 ก็คือจนหมดอาณานิคมอะ โหดเวอร์ มงกุฏนี้ชัดมาก
สงครามศาสนา ฮินดู (Hindu) และ อิสลาม (Muslim)
- ถึงแม้ว่า British Raj จะหมดสิ้นไปเมื่อปี 1947
- ก็อังกฤษนี้แหละที่เป็นคนแบ่งอำนาจไว้ใน 2 อาณาจักร ซึ่งในปัจจุบันก็คือ ปากีสถาน กับอินเดียนี้เอง
- เหตุการณ์เดือดๆคือเริ่มภายใน 10 ปี หลังจาก 1947 นี้ละ (ที่ว่าอังกฤษเข้ามายึดนี้ก็เดือดแล้ว แต่คิดว่าสิ่งที่พวกเค้าทิ้งไว้เนี่ย เดือดกว่า)
- ประชากรเกือบ 15 ล้านคน ที่แบ่งแยกตัวเองเป็นฝั่ง Muslim ก็เดินทางไปตะวันตก (หรือก็คือปากีสถาน) และส่วนที่เป็น ฮินดูและซิกข์ไปทางตะวันออกหรืออินเดีย
- โดยพวกเค้านั้นต้องเคลื่อนย้ายออกห่างกันด้วยการเดินเท้าข้ามประเทศทั้งนั้นเลย
3
จริงๆแผนที่นี้คือคำอธิบายหลักของเริ่มต้นของการแตกแยกทั้งหมดเลยละ จาก Wikipedia
- ไม่ใช่แค่การเดินทางอย่างสบายๆ แบกของไปตั้งถิ่นฐานนะ แต่มันคือการนองเลือดระหว่างทาง ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมและต่อสู้กัน
- มีการเสียชีวิตและการนองเลือดมากถึง 2 ล้านคน นี่รวมถึงประชากรผู้หญิงเกือบ 100,000 คนที่โดนทำร้าย ข่มขืน บางรายโดนฆ่าเลย คือกลายเป็นเรื่องที่ปกติแต่ไม่ปกติมากๆในสมัยนั้น (ซึ่งจริงๆไม่นานนะ หมายถึงไม่ได้เป็นยุคประวัติศาสตร์โบราณอะ แอบสมัยใหม่ด้วยซ้ำ)
ปล. จากภาพแผนที่ด้านบน เพื่อนๆสังเกตจุด Radcliffe Line เส้นสีดำๆที่แบ่งประเทศให้ดีนะ เพราะเดี๋ยวเพื่อนๆต้องกดขึ้นมาดูใหม่ 5555
รถไฟสายเลือด (หรือสายมรณะก็ได้ แต่ชื่อมันเหมือนนิยายไปหน่อย)
- รถไฟสายนี้ขนส่งผู้ลี้ภัยข้ามแดนออกจากอินเดีย
- ไม่ต้องห่วงนะเพื่อนๆ ภาพด้านล่างไม่ใช่ภาพ 18+ เพจเราไม่เน้นภาพรุนแรง 555 แต่ภาพด้านล่างนี้จะทำให้เพื่อนๆเห็นเลยว่า การแย่งกันเอาชีวิตรอดเนี่ยเป็นยังไง และขบวนรถไฟนี้แหละ ตายยกขบวน............
จาก https://medium.com - Kevin Shah
โหยยย...แล้วทำไมแค่ย้ายกันอยู่มันถึงไม่ได้จากกันไปดีๆ แต่ต้องเกิดสงครามแบบนี้?
- ต้องพาเพื่อนๆย้อนนนกลับไปในปี 1939 ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เยอรมันนำโดยฮิตเลอร์ ต่อสู้กับฝั่งพันธมิตรที่มีอังกฤษอยู่ในทีม (แน่นอน อินเดียโดนอังกฤษลากมาอยู่แล้ว แกรมันเป็นของชั้น)
- ทหารเกือบ 2.5 ล้านคนของอินเดียเข้าร่วมสู้รบ
- แต่สิ่งที่ทำให้อังกฤษหงุดหงิดและโมโหมากกที่สุดคือ มีผู้นำ 2 ท่าน คือ Mohandas K. Gandhi (เพื่อนๆคุ้นไม๊ มหาตมะ คานธีไงงง) และ Jawaharlal Nehru ได้ออกมาแสดงจุดยืนถึงความสงบสุขของการมีชีวิต โดยจะผลักดันให้อินเดียออกจากอาณานิคมอังกฤษ และถอนตัวจากสงครามโลกครั้งนี้
Jawaharlal Nehru และ Mohandas K. Gandhi
- จุดนี้ละๆ เพื่อนจำได้ใช่ไม๊ว่าอินเดียปึกแผ่นหลักๆคือศาสนา ซิกข์ ฮินดู
- นี่ละทำให้อังกฤษของขึ้นและ รวบรวมชาว Indian-Muslim เอาไว้ปึกแผ่นใหญ่ๆแผ่นนึงเลย (ราวๆ 25% ของคนอินเดียทั้งประเทศ โอววววว)
อังกฤษยกธงขาวแล้วจ้าาาา
- อังกฤษได้รวบรวมประชากร Muslim โดยอาศัยการนำของ Muhammad Ali Jinnah
- หลังจากที่รวบรวมได้แล้ว อังกฤษให้คำมั่นสัญญาว่า ชั้นจะปลดปล่อยพวกเธอ
- แต่อย่างไรก็ตาม Jinnah เนี่ย เค้ากลัวว่าถึงถูกปลดปล่อยแล้ว แต่ไม่พ้นถูกกดขี่แบบเดิมแน่นอนเลย
- ประกอบกับประชากรมุสลิมต่างเริ่มลุกฮือ เพื่อให้แยกออกไปสร้างรัฐของตัวเอง และนั้นก็คือ Pakistan นี่เองจ้าาาาา
- โดยหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เนี่ย อังกฤษ ก็มองเห็นแล้วว่า ตายแล้ว เงินหมด ไม่มีเงินมา support การปกครองประเทศอย่างอินเดีย ก็เลยแสร้งทำมุขว่า "ชั้นจะปล่อยประเทศเธอให้เป็นอิสระ"
- ในการนี้อังกฤษได้ส่ง Lord Louis Mountbatten เป็นตัวแทนในการปลดอินเดียของจาะระบบการปกครองในปี 1947
- และสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ที่จะเขียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่คือ นาย Cyril Radcliffe นักกฏหมายชาวอังกฤษที่ได้รับมอบหมายให้มาขีดเส้นแบ่งประเทศระหว่าง India และ Pakistan ....... ปัญหาก็คือ ลุงคนนี้เค้าไม่เคยมาเยือนอินเดียเลย หรือเอาง่ายๆเค้าพึ่งจะรู้จักอย่างจริงจังก็จากภารกิจในครั้งนี้
Cyril Radcliffe
- โดยนี้ละคือการถือกำเนิด เส้นพรมแดนแบ่งประเทศ Radcliffe
- แต่การแบ่งประเทศครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่การขีดเส้นนะสิ มันเหมือนเป็นการแยกศาสนาไปเลยละ
Hindu บางส่วนก็จำต้องทิ้งบ้านเรือนของตัวเองไว้ใน Pakistan และได้มาขอให้ Radcliffe ขีดเส้นประเทศใหม่เพื่อให้พวกเค้าได้มีอาณาเขตที่กว้างขึ้น
- โดยที่ Radcliffe ต้องเปลี่ยนการเขียนไปมา อยู่ 3 ครั้งเลยละ (เด่วนะ นี้แบ่งประเทศน้าาาลุงงงงง)
- ละไงต่อ สุดท้ายลุง Radcliffe ก็มาบอกว่า โอยชั้นงงไปหมดแล้ว ชั้นสับสนแล้ววว หลังจากใช้เวลาเกือบปี แล้วก็ปล่อยเส้นขีดพรมแดนค้างไว้ในการแก้ครั้งที่ 3 นั้นแหละ
สุดท้าย เรื่องราวต่อมาคือ การแตกหักของ 2 ประเทศ
- อังกฤษ โอ้ยยย ชั้นไม่ไหวแล้ว ชั้นจะออกจากพวกแกรให้เร็วที่สุด
- สงครามระหว่าง 2 ประเทศนี้ก็ยังครุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ สงครามนองเลือดที่หนักกว่าเดิม
- และที่แย่ที่สุดคือ อังกฤษไม่ยากให้ทหารหรือเลือดเนื้อของตัวเองต้องมาป่นปี้เพราะการ ห้ามศึก 2 ประเทศ
- เอางี้ละกัน ในเมื่อพวกแกร 2 ประเทศอยากแย่งกันก็แย่งไปเลย ชั้นเหลือที่ตรงกลางไว้ที่ยังขีดเขียนไม่เสร็จ ไปจัดการกันเองนะ บาย
ซึ่งนั้นคือ the state of Kashmir แคชเมียร์ จ้าาาาาาาา
จบแล้วเด้ออ ยาวไปไม๊น้ะ !
ที่น่าแปลกก็คือ ทั้ง 2 ประเทศเนี่ย จริงๆแล้วมีวัฒนธรรมเดียวกัน ภาษาก็ภาษาเดียวกัน (ถึงแม้ว่าจะมีแบ่งเป็นอินเดียหลายๆสำเนียง และภาษาก็เถอะนะ)
Amritsar (India) และ Lahore (Pakistan) ก็มีสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน แต่ทั้งหมดนี้ผู้คนแตกแยกกัน เข่นฆ่ากันเอง
และเรื่องราวในปัจจุบันก็ดันไปไกลมากกว่าแค่ 2 ประเทศแล้ว วิกฤตและประเทศมหาอำนาจของโลก ก็อยากเข้ามาสนับสนุนเพราะต้องการ แรงและทรัพยากรเป็นผลตอบแทน ....... อัยหยาาาาา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา