22 ก.ค. 2020 เวลา 02:15 • ธุรกิจ
Mega แบรนด์ผลิตและขายยาหมื่นล้าน
ปัจจุบันมีแบรนด์เกี่ยวกับอาหารเสริม และยาเวชภัณฑ์ ถือกำเนิดขึ้นอย่างมากมาย แต่มีแบรนด์หนึ่งที่คนไทยหลายคนจะคุ้นชื่อผ่านโฆษณาทีวี ซึ่งแบรนด์ที่ว่านั้นมีชื่อว่า “MEGA”
1
รู้ไหมว่า MEGA ที่เรารู้จัก ไม่ได้แค่ขายอาหารเสริมแค่อย่างเดียว แต่ยังมีเบื้องหลังที่จับตามองอยู่ด้วย
แล้ว MEGA ที่ว่าจะน่าสนใจอย่างไร ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จัก ให้มากกว่านี้กัน..
MEGA เริ่มต้นจากกิจการรับจ้างผลิตยา อาหารเสริม วิตามิน โดยมีโรงงานแห่งแรกอยู่ที่สมุทรปราการ
จุดแรกเริ่มในปี 2525 พวกเขาเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ใช้ชื่อกิจการในเวลานั้นว่า “วิคาส” ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น “เมดิแค็ป” และเป็น บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เมกะ” ในปัจจุบัน
รู้ไหมสิ่งที่เมกะพิเศษกว่าผู้รับผลิตยาแบรนด์อื่นคืออะไร ?
ช่วงแรกเริ่ม ในประเทศไทยยังไม่มีผู้ผลิต “แคปซูลเจลนิ่ม” หรือ “Soft Gelcapsule” ซึ่งต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่เมกะกลับเป็นรายแรก ๆ ในตลาดดังกล่าว
ไม่เพียงแค่นั้น เพราะอีกองค์ประกอบที่ช่วยให้เมกะ ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงได้ นั้นคือ ธุรกิจรับผลิต อย่างการผลิตยาความดันโลหิตสูงให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีฐานลูกค้ามากมายในตลาด
แต่รู้ไหมว่าปัจจุบัน เมกะกลายเป็นผู้ครอบครองกิจการจากบริษัทนั้น เบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว
ในปี 2537 เมกะขยายไลน์ธุรกิจออกจากการรับจ้างผลิต และได้เริ่มทำแบรนด์ของตัวเองภายใต้บริษัท เมกะ ไลฟ์ไซแอนซ์ พีทีวาย จำกัด ซึ่งคนไทยจะรู้จักกันดีผ่านเครื่องหมายการค้า “MEGA We Care”
โดยไม่ได้แค่ผลิตและจำหน่ายในไทยเท่านั้น แต่ยังได้ขยายไปยังต่างประเทศ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง รวมกว่า 34 ประเทศ แถมยังได้เพิ่มโรงงานผลิตในออสเตรเลียอีกด้วย
หากนับเฉพาะภาพรวมในปัจจุบัน เมกะมีรายได้มาจาก 3 ช่องทาง นั่นก็คือ..
1. แบรนด์วิตามิน MEGA We Care
2. จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ “Maxxcare” ใน 3 ประเทศ ไล่เรียงจาก เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา
3. ธุรกิจรับจ้างผลิตยาและอาหารเสริม
1
ซึ่งทั้ง 3 ช่องทาง แบรนด์ MEGA We Care ที่เรามักจะคุ้นเคยผ่านจอทีวี และโซเชียลมีเดีย ทำรายได้ให้บริษัทมากที่สุดที่ 49.8%
ทั้งนี้ เมกะเพิ่งจะจดทะเบีนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2556 หรือเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมานี้เอง
คำถามก็คือ เมกะมีรายได้จากอาณาจักรผลิตและขายยา มากถึงขนาดไหน ?
ปี 2560 มีรายได้ 9,640 ล้านบาท กำไร 1,113 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 10,456 ล้านบาท กำไร 1,206 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 11,179 ล้านบาท กำไร 1,138 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ศักราช 2020 นี้ โลกต้องเผชิญกับการมาของโรคระบาด สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษกิจอย่างรุนแรง
แต่ถึงกระนั้น เมกะก็พลิกหลังมือขึ้นมาเป็นหน้ามือรับทรัพย์ ด้วยการผลิตและจำหน่ายหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง และตีตลาดอาหารเสริมที่ดีอยู่แล้วให้แรงกว่าเดิมอีก ผ่านเทรนด์รักสุขภาพ ตลอดจนการกักตุนช่วงที่ผู้คนกักตัว
เฉพาะไตรมาสแรกของปี ช่วงที่ประเทศไทยกำลังหวั่นต่อโรคระบาดมากที่สุด รายได้ของเมกะเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 19 คิดเป็นเม็ดเงินไหลเข้ามากกว่า 3,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรกว่า 320 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เมกะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับปัจจัยที่มนุษย์ต้องการหนึ่งในสี่อย่าง นั่นก็คือ “ยา” ทว่ายาของเมกะ ถึงแม้จะเป็นอาหารเสริมทางเลือก แต่ก็เป็นทางเลือกที่อยู่ถูกยุคถูกสมัย
2
เพราะตอนนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มักจะพบเจอกับการออกกำลังกาย ตลอดจนการดูแลสุขภาพทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ เมกะก็เป็นหนึ่งในเอกชน ที่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี ต่อสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็ว ฉะนั้น จึงเป็นที่น่าจับตามอง ว่าต่อไปในอนาคต พวกเขาจะยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง ในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์เช่นนี้ เหมือนเดิมหรือไม่..
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Picture
โฆษณา