24 ก.ค. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
ตระกูล Rothschild ตระกูลอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
เจฟ เบโซส เจ้าของอเมซอน คือเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกมีทรัพย์สินสุทธิ 1.13 แสนล้านเหรียญ หรือมากกว่า 3.5 ล้านล้านบาท
ขณะที่ บิล เกตส์ รำ่รวยเป็นอันดับสองของโลก มีทรัพย์สินสุทธิ 9.8 หมื่นล้านเหรียญ หรือมากกว่า 3.1 ล้านล้านบาท
แค่มหาเศรษฐีสองอันดับแรกของโลกว่ามีทรัพย์สินมากแล้ว แต่รู้ไหมว่าถ้าเอามหาเศรษฐี 8 อันดับแรกของโลกมารวมทรัพย์สินกัน
1
จะมีค่าเท่ากับ 1 ใน 5 เท่าต่อทรัพย์สินของตระกูลรอธส์ชิล
1
แล้วตระกูลรอธส์ชิลที่ว่านี้จะน่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงมีสมบัติมากมายถึงขนาดนั้น
1
ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักกับตระกูลมหาเศรษฐีนี้กัน..
เริ่มต้นเมื่อปี 1528 ยุคที่ดินแดนยุโรป ปกครองโดยศาสนาคริสต์ ส่วนชาวยิวที่ไม่ได้นับถือคริสต์ ก็จะอาศัยอยู่นอกกำแพงเมือง
ว่ากันว่าธรรมเนียมของชาวยิว มักจะแขวนรูปครอบครัวไว้หน้าบ้าน เพื่อแสดงให้เห็นว่าบ้านนี้เป็นของใคร
ทว่ามีบ้านหนึ่งที่แปลกไปจากคนอื่น เพราะพวกเขาได้แขวนรูปโล่สีแดงไว้หน้าบ้านของตนเอง
ซึ่งโล่สีแดงในภาษาอังกฤษนั้นเรียกว่า “Red Shield” แต่ถ้าเป็นภาษาเยอรมันจะเรียกว่า “Roth Schild”
1
และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อตระกูลรอธส์ชิล นั่นเอง..
รู้ไหมนอกจากธรรมเนียมการแขวนรูปไว้หน้าบ้านแล้ว ธรรมเนียมของคริสเตียนในยุคนั้น ยังมองว่าการยืมเงิน รวมถึงการคิดดอกเบี้ยจะเป็นบาป
1
เมื่อมีใครมาปล่อยให้กู้ยืมซักคน ก็จะไม่ได้รับดอกเบี้ย เสมือนว่าให้ยืมไปเฉยๆ ก็เลยไม่มีใครสนใจในการประกอบธุรกิจด้านดังกล่าว
1
ฉะนั้น การปล่อยกู้ส่วนใหญ่ จึงเป็นไปทางฝั่งของชาวยิวหลายๆ กลุ่มแทน
1
หนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวรอธส์ชิล..
2
ทว่าก่อนจะมาปล่อยกู้ รอธส์ชิลก็ไม่ได้เป็นตระกูลที่มั่งมีกว่าใครแต่อย่างใด
เพราะที่จริงแล้ว พวกเขามีฐานะที่ยากจนซะด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าจะพูดรายละเอียดอีกนิด ก็คงต้องย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของ “ไมเออร์ อัมส์เชล รอธส์ไชลด์” บุคคลสำคัญของตระกูลนี้
ไมเออร์ รอธส์ชิล กำเนิดที่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี แม้จะมีฐานะยากจน แต่ไมเออร์ก็ทะเยอทะยานจนได้เข้าทำงานใน Hanover Bank คอยดูแลเกี่ยวกับการแลกเงินและเก็บภาษี
1
จนเขามีความรู้และทรัพย์สินมากมาย จึงได้นำเอาความรู้ไปสืบทอดเจตนารมณ์ของครอบครัว ด้วยการปล่อยเงินกู้
กระทั่งในปี 1769 ชื่อเสียงของไมเออร์ ได้โด่งดังขึ้น ในฐานะเศรษฐี..
ขณะที่มีเงินทองมากขึ้น เบื้องลึกเบื้องหลัง ไมเออร์ก็มีเส้นสายเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ด้วยความที่เส้นสายมากขึ้นนี้เอง ไมเออร์จึงได้ส่งลูกทั้ง 5 คน ไปประจำอยู่ตามประเทศสำคัญในยุโรป
เพื่อสนองโมเดลธุรกิจในความคิดของไมเออร์ ให้มีเครือข่ายมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ที่ไมเออร์ใช้เวลานั้น คือการที่ให้คนในประเทศต่างๆ มายืมเงินก่อน หลังจากนั้นจึงเก็บรายได้และดอกเบี้ยอีกที
ซึ่งนี่ก็เป็นระบบที่สถาบันการเงินใช้ในปัจจุบัน
1
ศตวรรษที่ 19 (ระหว่างปี 1801-1900) เป็นยุคที่ตระกูลรอธส์ชิลรำ่รวยและถือครองทรัพย์สินมากที่สุดในโลก
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น เมื่อเครือข่ายของไมเออร์ใหญ่โตมากขึ้น ธุรกิจของเขาต้องเข้าไปพัวพันกับสงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้
1
เพราะการรบต้องใช้งบประมาณในยุทโธปกรณ์สูงเป็นอย่างมาก กองทัพต่างๆ จึงหนีไม่พ้นการมากู้เงินแลกกับดอกเบี้ยที่ตั้งไว้สูง
ตระกูลรอธส์ชิลยังเคยให้เงินกู้ยืมมหาศาล อย่างสงครามนโปเลียนในปี 1815 ระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ
1
รู้ไหมว่าเพียงปีเดียว รอธส์ชิลปล่อยเงินกู้ยืมไปมากกว่า 9.8 ล้านปอนด์ หรือเทียบเท่ากับทองคำ 70 ตัน เพื่อสนับสนุนให้กับฝ่ายพันธมิตรของอังกฤษในการสู้รบ
1
หน้าประวัติศาสตร์หลายฉบับยังให้ข้อสงสัยว่า รอธส์ชิลอาจชักใยอยู่เบื้องหลังของสงครามเสียเองด้วย
แต่แม้จะมีคำครหาถึงขนาดไหน ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเพียงพอ
ที่สำคัญหลังสงครามจบลง ตระกูลรอธส์ชิลยังได้รับคุณงามความดีจากจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย ด้วยการแต่งตั้งตระกูลรอธส์ชิล สาขาออสเตรีย ให้เป็นขุนนางออสเตรีย
2
นอกจากนี้ในปี 1847 ตระกูลรอธส์ชิลสาขาอังกฤษ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางอังกฤษเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าการที่มีทรัพย์สินล้นมือมหาศาล แถมอยู่ใต้การเป็นสถาบันการเงินของราชวงศ์ พวกเขาย่อมมีอำนาจบารมีพอๆ กับเงินในกระเป๋าที่มีนับไม่ถ้วน
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังเคยประสบกับวิกฤติอยู่บ้าง
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง มีภัยคุกคามจากนาซีเข้ามาในออสเตรีย ส่งผลให้รอธส์ชิลสาขาออสเตรียที่เป็นยิว ต้องหนีตายออกจากยุโรปไปอเมริกา
1
ความมั่งคั่งทั้งกิจการด้านการเงินที่ถูกยึด รวมไปถึงทรัพย์สิน และคฤหาสน์หลายหลังในเวียนนาต้องถูกทำลาย
ปัจจุบันธุรกิจของตระกูลที่สืบทอดมาสองร้อยกว่าปี นอกจากพวกเขาจะเป็นเจ้าใหญ่แห่งอุตสาหกรรมการเงินแล้ว
2
ตระกูลรอธส์ชิลยังได้เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เหมือง พลังงาน ฟาร์ม
ซึ่งเม็ดเงินล้นมือของพวกเขา มีมากมายมหาศาลเกินกว่าจะประเมินได้
ในปี 2016 Oxfam International องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินของตระกูลรอธส์ชิล มีมูลค่าอยู่ราวๆ 1,000,000,000,000 เหรียญสหรัฐฯ
2
คิดเป็นจำนวนเงิน 5 เท่า ของมหาเศรษฐี 8 อันดับแรกของโลกรวมกัน..เลยทีเดียว
4
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
1
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
1
Reference
Picture
Wikipedia
โฆษณา