27 ก.ค. 2020 เวลา 03:40 • ปรัชญา
คำสัญญา และบทเรียนชีวิต
จากนกพิราบสร้างรัง
Ep.004 นกพิราบสร้างรัง
มันเป็นเรื่องราวเมื่อ 7ปีก่อน
ที่มีชื่อเรียกว่า "ช่วงเวลาแห่งการล่าฝัน"
ตอนนั้นข้าพเจ้าพึ่งได้ย้ายมารับราชการ
ที่จังหวัดลพบุรีใหม่ๆ แต่เดิมอยู่ที่กรุงเทพฯ
ด้วยเหตุผลหลายๆประการ ทำให้ต้องย้ายมาที่นี่
หากจะนำเหตุผลมารวมกัน
จริงๆแล้วมีเพียงเหตุผลเดียว
ก็คือความล้มเหลวในชีวิตนั่นแหละ
เรื่องราวของนกพิราบ เป็นหนึ่งความทรงจำ
แห่งบทเรียนชีวิตที่ข้าพเจ้าไม่เคยลืม
การได้ศึกษาในเรื่องจิตวิทยา และปรัชญา
จึงได้เชื่อมโยงเรื่องราวความอัศจรรย์
ของวงจรชีวิตนกพิราบ จากการสังเกต
ให้กลายเป็นหนึ่งแรงบันดาลใจของชีวิต
ให้เปลี่ยนจากข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ระหกระเหิน
หนีชีวิตติดลบในเมืองหลวง มาอยู่ต่างจังหวัด
เริ่มพัฒนาตนเอง ตั้งใจทำงาน เรียนจบปริญญา
พัฒนาภาษาอังกฤษ จนได้รับทุนไปศึกษา
ณ ประเทศสิงคโปร์ และประเทศเยอรมนี
ได้ท่องเที่ยว ได้ทำธุรกิจ ได้ทำงานเขียนหนังสือ
และเขียนนิยาย ในแนวที่ตัวเองชื่นชอบ
สำหรับคนต้อยต่ำอย่างข้าพเจ้า ผู้ที่เคยได้ขึ้นชื่อว่าไอ้เหลวแหลก หรือไอ้ขี้แพ้....
ความอัศจรรย์แห่งปรัญญาชีวิต และจิตวิทยา
มันได้เปลี่ยนชีวิตข้าพเจ้า ไปตลอดกาล.....
เรื่องราวของนกพิราบสร้างรัง
เป็นประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนเอง
ข้าพเจ้า จึงขอนำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง
ใน Ep.นี้ ครับ
ณ บ้านพักข้าราชการชั้นผู้น้อย
ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง จังหวัดลพบุรี
ตรงหน้าประตูของบ้านพัก มีนกพิราบคู่หนึ่ง
กำลังขมักเขม้นกับการสร้างรัง อยู่บนสายไฟฟ้า
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นเรื่องปกติเฉยๆสำหรับนก
แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องปกติเฉยๆสำหรับข้าพเจ้า
เพราะที่ตรงนั้น..มันคือหน้าบ้านของข้าพเจ้า
การที่นกมาจะทำรัง อยู่หน้าบ้านพักได้ขนาดนั้น
มันบ่งบอกถึงการไม่ใส่ใจในทรัพย์สินของราชการ
ปล่อยร้างไว้ หรือมิได้พักอยู่จริง
ในเรื่องความสะอาด ตามระเบียบบ้านพัก
หากผู้บังคับบัญชามาตรวจพบเข้า
ข้าพเจ้าต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน
ทุกวันต้องคอยเก็บกวาด เศษหญ้า เศษกิ่งไม้
ที่พวกมันทำหล่นไว้ อยู่ตรงพื้น หน้าประตูบ้าน
เกิดจากการพยายาม จะสร้างรังของพวกมัน
ซึ่งดูแล้วจะเปล่าประโยชน์.....
ข้าพเจ้าพยายามไล่มัน ในตอนเช้าที่ไปทำงาน
แล้วกลับมาไล่มันอีกครั้งในตอนเย็นหลังเลิกงาน
ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะพวกมันยังมีเวลาอื่นๆ
ให้แอบมาสร้างรัง อย่างตั้งอกตั้งใจ
จนการเก็บกวาดเศษหญ้าหน้าบ้าน อันเหตุจากนก
ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว
ในแต่ละวัน นกพิราบ2ตัวนี้ จะบินไปคาบเศษหญ้า
และเศษกิ่งไม้ มาซ้อนทับกัน วันละหลายๆรอบ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
แต่พวกมันก็ยังทำรังนี้ ไม่เสร็จสักที
คงด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
1.โดนข้าพเจ้ารื้อบ่อยๆ
2. ทำเลไม่ดี
บางครั้งข้าพเจ้าต้องไปราชการต่างจังหวัด 2-3 วัน
เมื่อกลับมา ก็พบกับเศษกองหญ้า
กลาดเกลื่อนอยู่หน้าประตู
และจำนวนของกองเศษหญ้า เศษไม้
ที่สามารถสร้างรังนกแบบธรรมดาได้อีก 2 รัง
ขนาดนกอีกคู่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียงกัน
สังเกตเห็น อาจเป็นนกรุ่นราวคราวเดียวกัน
ตรงใต้หลังคาที่จอดรถ ซึ่งเป็นผิวราบเรียบ
พวกนั้นสามารถสร้างรังเสร็จ ตั้งแต่เดือนแรก
แต่เมื่อมองมายังนกพิราบ ตรงสายไฟหน้าบ้าน
จนป่านนี้พวกมันก็ยังสร้างรังไม่เสร็จสักที
จนพักหลังๆข้าพเจ้าไม่คิดจะรื้อรังของพวกมันแล้ว
รอเก็บกวาดเสียทีเดียว เดี๋ยวมันก็หล่นร่วงลงมา
ใจยังแอบลุ้นว่ามันจะสร้างรังสำเร็จได้หรือไม่
ในห้วงบ่ายวันหนึ่ง คำสนทนาระหว่างมนุษย์กับนก
ได้เกิดขึ้นท่ามกลางความฉุนเฉียวของมนุษย์
เมื่อมองเห็นมัน แล้วเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
ซึ่งความจริงเป็นการพูดอยู่ฝ่ายเดียวของข้าพเจ้า
" ทำไมพวกมึงถึงได้โง่ขนาดนี้ว่ะ !
ก็สายไฟมันห่างขนาดนั้น กิ่งไม้สั้นแค่นั้น
จะยึดอยู่ได้อย่างไร ยังไงมันก็หล่นลงมาอยู่ดี
ถ้าพวกมึงเข้าใจที่กูพูดนะ ย้ายไปที่อื่นเถอะ
อย่าพยายามเลย มันเปล่าประโยชน์ "
คำพูดประมาณนี้ ได้กรอกหูให้มันฟังทุกวัน
จนเดี๋ยวนี้มันไม่กลัวข้าพเจ้าแล้ว
และไม่บินหนีอย่างเช่นเคย
กลับหันมองดูข้าพเจ้า คล้ายกับให้ความสนใจ
และยังเอียงหัวไปมา เหมือนจะอยากฟัง
ว่าไอ้มนุษย์คนนี้ มันจะเพ้ออะไรอีก
อันที่จริงตอนนั้น ข้าพเจ้าเพ้อหนักมาก
เพราะต้องอยู่คนเดียว เคยทำธุรกิจล้มเหลว
เลิกกับแฟน ชีวิตเป็นหนี้สิน กินเหล้า ติดพนัน
จึงสอบย้ายหน่วยงานมา เพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่
ทุกอย่าง ยังคงเป็นเหมือนเช่นทุกวัน
คือคาบมาแล้วก็หล่น แล้วก็บินคาบอันใหม่มาจากที่อื่น โดยไม่เก็บเอาจากที่หล่นตรงพื้น
วันนั้นข้าพเจ้ายืนจ้องตากับมัน ไม่คิดจะบินหนี
เหมือนมันกำลังรอฟัง
ว่าข้าพเจ้าจะหาเรื่องด่าอะไรมันอีก
การสื่อสารระหว่างคนกับสัตว์ จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
แต่เป็นการพูดขึ้นมาอย่างเบาๆเท่านั้น
เพราะกลัวคนได้ยินถึงพฤติกรรมประหลาดนี้
" กูยอมใจพวกมึงจริง ๆ !
ทำไมมึงต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ด้วยว่ะ?"
"เอาอย่างนี้ ถ้าเกิดมึงสร้างรังขึ้นมาได้จริงๆนะ
กูจะให้สัมปทาน พื้นที่ตรงนี้ และให้สิทธิ์คุ้มครองพวกมึงไปตลอด กูให้สัญญา..."
ข้าพเจ้ากล่าวคำสัญญา
ที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันอยู่ภายในใจ
เพราะมันมิอาจเป็นไปได้ และสุดท้ายมันก็ต้องเปลี่ยนสถานที่สร้างรังใหม่ไปเอง
กาลเวลาได้ผ่านไปเดือนที่ 3 ย่างเข้าเดือนที่ 4
ได้มีสิ่งเหลือเชื่อเกิดขึ้น เมื่อกิ่งไม้เส้นหนึ่ง
เชื่อมพาดผ่านระหว่างสายไฟทั้ง4เส้นได้สำเร็จ
เป็นเส้นหลัก ให้กิ่งไม้เส้นอื่นๆ
โยงยึด ตัดเส้นขนานกับสายไฟ ทาบทับต่อๆกัน
จนเกิดเป็นฐานของรักนกได้สำเร็จ
ประจวบกับการไปราชการ 4-5 วัน
คราวนี้เมื่อกลับมาก็พบว่าโครงร่าง
ได้กลายเป็นรังเรียบร้อยแล้ว
และมองเห็นแม่นกพิราบ กำลังกกไข่
เมื่อมันเห็นข้าพเจ้าเลยบินหนีไป แต่ไม่ห่างนัก
ทำให้มองเห็นไข่นก 3 ฟองอยู่ในรัง
ข้าพเจ้ายืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ กับภาพที่เห็นตรงหน้า
มองไปยังรังนก ด้วยความปิติ ระคนความยินดี
ในที่สุดความพยายามที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
อันยาวนานของพวกมัน ประสบผลสำเร็จเสียที
บ่ายวันนั้นข้าพเจ้ายิ้มให้กับมัน
ยิ้มให้กับหัวใจตนเอง "นกน้อยสร้างรัง"
มันได้สอนอะไร บางอย่างให้กับเรา
ให้ได้ประจักษ์ถึงความพยายามที่ปราศจาก
ข้อสงสัย และข้อกังขา
สิ่งที่พวกมันกระทำ เป็นไปด้วยสัญชาตญาณ
เป็นไปด้วยความเชื่อ ว่าจะสร้างรังขึ้นมาได้
ภาพในวันนั้น มันได้ฉีกกฎของความเป็นไปไม่ได้
ในทางทฤษฎีของข้าพเจ้าไปเสียแล้ว
ก่อนฤดูมรสุมจะผัดผ่าน ก่อนย่างเข้าสู่ฤดูหนาว
นกน้อยได้ที่อาศัยอยู่ หน้าบ้านพักราชการเล็กๆ
ของมนุษย์ชั้นยศเล็กๆ อย่างปลอดภัย
ภายใต้คำสัญญา เยี่ยงลูกผู้ชาย
ว่าจะพิทักษ์ และคุ้มครอง จนนกน้อยนั้นเติบใหญ่
ความแปลกใจ และแอบนินทาของคนข้างบ้าน
ว่าเราไม่ดูแลบ้าน ถึงขนาดนกไปทำรังอยู่หน้าบ้าน
แถมยังไม่ยอมรื้อออก กลับแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
ตั้งแต่เป็นรังขึ้นมา จนไข่3ฟองฟักออกมาเป็นตัว
ไม่อาจมีสิ่งใด ทำให้ข้าพเจ้าผิดคำสัญญานั้นได้
ต่อให้ผู้บังคับบัญชาจะทำโทษข้าพเจ้าก็ยอมรับ
จนถึงปลายฤดูเหมันต์ เหล่าบรรดานกน้อย
ก็เริ่มหัดบินเป็นครั้งแรก โดยมีแม่เป็นผู้นำทาง
ท่ามกลางการเฝ้ามอง อย่างจดจ่อของข้าพเจ้า ราวกับเป็นญาติผู้ใหญ่ของพวกมัน
เพียงไม่นานนกน้อย ที่พึ่งผลัดขนใหม่
ก็โผทะยานสู่ท้องฟ้า อย่างเป็นอิสระ
ทีละตัว ทีละตัว จนครบทั้งสาม
บินออกไปสู่การเริ่มต้นใหม่ แห่งวัฏจักรของวิหค
ทำให้อดนึกอิจฉาไม่ได้ อันตัวเราก็อยู่ในกรอบของกองทัพที่เป็นทั้งเผด็จการ การกดขี่
และ มีระบบชนชั้นเป็นตัวกำหนดโชคชะตา
ว่าจะเดินทางไปซ้าย หรือไปทางขวา
อิสระภาพที่แท้จริง อาจเป็นการ ออกจากกรอบ
ที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ก็ได้ อิสระที่จะได้ทำในสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ หรือการทำความฝันให้สำเร็จ
ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง
นกน้อยอย่างเรา คงได้มีโอกาศโผบิน สู่อิสรภาพ
เฉกเช่นเดียวกับพวกนกน้อยเหล่านี้บ้าง
หลังจากนั้นไม่นาน แม่นกพิราบ ก็รื้อรังออกหมด
จนเหลือแค่สายไฟ ที่ปราศจากเศษไม้ เศษหญ้า
เป็นปริศนาให้ขบคิด ว่าไม่ให้ใครมาใช้รังต่อ
หรือวงจรชีวิต ต้องเริ่มต้นใหม่แบบนี้อีกครั้ง
เหตุการณ์ครั้งนั้น มันได้สอนอะไรหลายๆอย่างแก่ข้าพเจ้า ในช่วงเวลาที่ต้องการแรงใจเป็นอย่างมาก บางครั้งการสร้างมโนภาพ หรือการนึกคิดไปเอง อาจไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่อย่างน้อยมันได้ปรุงแต่งหัวใจที่เหี่ยวเฉา
กลับขึ้นมาสดชื่นได้บ้าง
ปรัชญานกสร้างรัง ข้าพเจ้าได้นำมาปรับใช้
ทั้งเรื่องความเพียร พยายามอย่างยิ่งยวด
และการตั้งเป้าหมายในชีวิต
ให้เข้าใจบทเรียนสำคัญ ของคำนิยาม
" ไม่มีอะไร ที่เป็นไปไม่ได้ "
การไม่ยอมแพ้ และความพยามที่ไม่มีสิ้นสุด
ในที่สุดย่อมนำผลลัพธ์ อย่างใด อย่างหนึ่งมาให้
อาจไม่ใช่ความสำเร็จ แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้
ได้ประสบการณ์ เพื่อเริ่มต้นใหม่ ที่ดีกว่า....
หลังจากนั้นไม่นาน ปรัชญานกพิราบสร้างรัง
ได้สอนบทเรียนใหม่ให้แก่ข้าพเจ้าอีกครั้ง
เมื่อพบว่านกพิราบในรุ่นต่อๆมา
พยามสร้างรังตรงที่แห่งเดิมนี้
แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จอีกเลย
มันบ่งบอกว่า บางครั้งความพยายาม
ก็ไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จเสมอไป....
การทำสิ่งเดียวกัน ในสถานการณ์เดียวกัน
บางครั้งผลลัพธ์ อาจไม่เหมือนกัน
แสดงให้เห็นถึงการเลือกหนทาง หรือกรรมวิธี
ที่ถูกต้องมากกว่า ย่อมได้ผลที่ดีกว่า และเร็วกว่า
โง่แล้วเสือกขยัน มักเป็นนิยามของผู้แพ้
ขยันแล้วสำเร็จ มักเป็นนิยามของผู้ชนะ
บางทีอาจเป็นเพียงมุมมองของผู้อื่น
ที่มองแค่ผลลัพธ์เท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเราจะสร้างรังนกแบบไหน
ด้วยวิธีการอย่างไร ก็สุดแล้วแต่เราจะสร้างสรรค์
เพราะตัวเราเท่านั้น เป็นผู้กำหนดโชคชะตา.......
ขอทุกแรงอธิษฐานจงสัมฤทธิ์ผล
........พี่ตอย
โฆษณา