27 ก.ค. 2020 เวลา 14:52 • ประวัติศาสตร์
ตำนานหมีที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น....
1
เจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนี้ถูกขนานนามว่าเป็นหมียักษ์ที่มีความดุร้ายมาก ซึ่งมันฆ่าคนไปประมาณ 40 คนต่อปี ทำให้ในตอนนั้นชาวบ้านต่างพยายามที่จะปกป้องตัวเองจากเจ้าหมี "Kesagake" พร้อมทั้งขับไล่มันแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายต้องพากันละทิ้งหมู่บ้านเพื่อเอาตัวรอด...
เรามาดูความโหดร้ายของมันกันค่ะ
การโจมตีของหมีที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านซังเกเบ็ตสึ เกาะฮอกไกโด เมื่อปี 1915
ในเวลานั้น "ซังเกเบ็ตสึ" เป็นหมู่บ้านยุคบุกเบิกมีชาวบ้านเพียงไม่กี่คนอาศัยอยู่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในป่า
บริเวณนี้มีหมียักษ์สีน้ำตาลที่ชื่อว่า "Kesagake" อาศัยอยู่ ซึ่งมันเคยไปที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อกินข้าวโพดที่รอการเก็บเกี่ยว สร้างความเดือดร้อนและรำคาญให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ต่อมามันถูกยิงได้รับบาดเจ็บโดยชาวบ้านสองคนและได้หนีไปหลบซ่อนตัวที่ภูเขา
ฝ่ายชาวบ้านเองเชื่อว่าหลังจากถูกยิงเจ้าหมี Kesagake คงจะรู้สึกกลัวคนและไม่มาใกล้กับผลผลิตของพวกเค้าอีก
แต่พวกเค้าคิดผิด...!!!
ต่อมาในวันที่ 9 ธันวาคม 1915 เจ้า Kesagake ปรากฏตัวอีกครั้ง มันตรงเข้าไปในบ้านของครอบครัวโอตะที่มีภรรยาเจ้าของบ้านอยู่กับลูกน้อยเพียงสองคน มันจู่โจมใส่ทารกจนเสียชีวิตจากนั้นก็หันไปหาผู้เป็นแม่ เธอพยายามปกป้องตัวเองด้วยการขว้างฟืนใส่สัตว์ร้ายตัวนี้ แต่ในที่สุดก็ถูกหมีลากตัวเข้าไปในป่า
1
เมื่อสามีกลับมาบ้านก็พบว่าที่พื้นและกำแพงเต็มไปด้วยรอยเลือด จึงได้ระดมชายสามสิบคนเข้าไปที่ป่าด้วยความมุ่งมั่นที่จะฆ่าหมีและหาร่างของภรรยา
และแล้วชาวบ้านก็พบเจ้าหมี Kesagake จึงได้ยิงปืนใส่ส่งผลให้มันได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไป พวกเค้าพบว่าร่างของภรรยาบ้านโอตะบางส่วนถูกฝังอยู่ใต้หิมะ คาดว่าเจ้าหมี Kesagake คงจะเก็บไว้เพื่อกินในภายหลัง
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหมี Kesagake ก็กลับไปที่บ้านของตระกูลโอตะอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเค้าใช้อาวุธที่เตรียมไว้ต่อสู้กับมันจนต้องล่าถอยไป
เจ้า Kesagake จึงเปลี่ยนใจมุ่งตรงไปที่บ้านของครอบครัวมิโยเกะแทนเมื่อไปมันถึงก็ลงมือทำร้ายทุกคนภายในบ้าน แม้ว่าจะมีบางคนหนีรอดไปได้แต่ก็มีเด็กสองคนถูกฆ่าตายพร้อมกับหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง
ตามคำให้การของพยานที่รอดชีวิตเล่าว่า... หญิงคนนั้นร่ำไห้ขอร้องให้ไว้ชีวิตลูกน้อยในครรภ์ของเธอในขณะที่หมีตัวใหญ่ก้าวเข้ามาภายในบ้าน แน่นอนมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เจ้าหมี Kesagake ลงมือฆ่าเธอเป็นรายต่อมา...
ในเวลาเพียงสองวัน Kesagake ได้ฆ่าคนไปถึงหกคน ชาวบ้านต่างหวาดผวาทำให้ส่วนใหญ่ทิ้งบ้านแล้วหลบหนีไปด้วยความกลัว
Yamamoto Heikichi นักล่าหมีผู้โด่งดังในขณะนั้นได้รับการติดต่อให้ไปล่าหมี Kesagake ที่ขึ้นชื่อว่ามีความดุร้ายที่สุดในขณะนั้น
ซึ่งในตอนแรกเค้าปฏิเสธ แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนใจตอบตกลงแล้วเดินทางไปล่าหมียักษ์ตัวนี้พร้อมกับอาสาสมัครอีกหลายคน
และแล้ว... ในวันที่ 14 ธันวาคม เจ้าหมียักษ์ Kesagake ก็ถูกฆ่าตายปิดตำนานหมีสีน้ำตาลที่โหดร้ายที่สุดในยุคนั้นลงในที่สุด...
โดยหมีตัวนี้มีความสูงเกือบ 3 เมตรและหนักถึง 380 กิโลกรัม หลังจากที่ทำการผ่าท้องของมันออกดูพบว่า มีชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ยังไม่ย่อยอยู่ในนั้นด้วย
เหตุการณ์ที่น่ากลัวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ชาวบ้านบางคนที่รอดชีวิตจากการโจมตีเสียชีวิตจากบาดแผลที่ถูกมันทำร้ายใน้วล่ต่อมา หนึ่งในผู้รอดชีวิตจมน้ำตายในแม่น้ำ ในไม่ช้าหมู่บ้านนี้ก็ถูกทิ้งร้างจนกลายเป็นเมืองผีสิง
แม้กระทั่งทุกวันนี้เหตุการณ์ที่หมู่บ้านซังเกเบ็ตสึ ก็ยังคงเป็นการโจมตีจากสัตว์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้เลยทีเดียว...
ทุกวันนี้ที่หมู่บ้านจะมีศาลเจ้ากลางป่าที่สร้างขึ้น ชื่อว่า “ศาลเจ้าที่ระลึกของเหตุการณ์หมีสีน้้ำตาลแห่ง Sankebetsu” ที่นั่นความทรงจำของทุกคนในเหตุการณ์และสิ่งปลูกสร้างได้ถูกสร้างขึ้นอีกครั้งเพื่อเป็นอุทาหรณ์ของความโหร้ายและน่ากลัวของเจ้าหมีสัน้ำตาลชื่อ Kesagake
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
By... ❤แอดมิ้นท์❤
อ้างอิง :
โฆษณา