Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เกลา นิสัยอันตราย
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2020 เวลา 09:46 • ไลฟ์สไตล์
เริ่มเช้าวันใหม่ยังไงให้ทรงพลัง สำหรับคนกำลังเบื่อ ๆ และหมดไฟ.
.
บางคนตื่นมาอย่างเคร่งเครียดรีบไปทำงาน เปื่อย ขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร
ใช้ห้องนอนตั้งแต่ตื่นยันนอน ให้วันนั้นมีประสิทธิภาพ ให้กระชุ่มกระชวยทั้งวัน
youtube.com
รวมเทคนิคเริ่มเช้าวันใหม่ยังไงให้ทรงพลัง สำหรับคนกำลังเบื่อ ๆ และหมดไฟ
เริ่มเช้าวันใหม่ยังไงให้ทรงพลัง สำหรับคนกำลังเบื่อ ๆ และหมดไฟ. . บางคนตื่นมาอย่างเคร่งเครียดรีบไปทำงาน เปื่อย ขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร ใช้ห้องนอนตั้งแต่ตื่นยัน...
เช้าของหลายคนอาจจะไม่ใช่เช้าในฝันที่อยากให้เป็นสักเท่าไหร่
บางคนตื่นมาอย่างเคร่งเครียด รีบไปทำงาน
หรือตื่นมาเซื่องซึม เปื่อย ขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร
แปปเดียวก็หมดวันแล้ว
โดยที่ยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ถ้าคุณกำลังประสบกับปัญหาเหล่านั้นอยู่
วันนี้เราได้รวบรวมเทคนิคมาช่วยให้คุณ
ได้หันกลับมาเห็นคุณค่าของตัวเอง
กลับมากระชุ่มกระชวย
ใช้ชีวิตแบบเติมเต็มในทุก ๆ วัน
ไปดูกันเลยว่าเทคนิคเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง
1. พับผ้าห่ม หลังตื่นนอนทุกครั้ง
การพับผ้าห่ม คือ การทำอะไรเล็ก ๆ ให้สำเร็จตั้งแต่เราตื่นนอน
มันคือการสร้างนิสัยการมีระเบียบที่ง่ายที่สุดในชีวิต
Willliam H. McRaven
ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษแห่งสหรัฐอเมริกา
กล่าวคำปราศรัย ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ในปี 2557 ว่า
"ถ้าคุณจัดที่นอนทุกเช้านั้น
จะเปรียบเสมือนคุณได้ทำภารกิจแรกของวันได้สำเร็จ
จะทำให้คุณรู้สึกภาคภูมิใจเล็ก ๆ กับตัวเอง
และความภูมิใจนั้น
จะสนับสนุนให้คุณทำงานอย่างอื่นของวันนั้นสำเร็จไปด้วย"
2. ไม่จับโทรศัพท์
หลังจากตื่น คุณไม่ควรจับโทรศัพท์อย่างเด็ดขาด
พี่หนูดีได้ให้สัมภาษณ์ในรายการของพี่วู้ดดี้ไว้ว่า
“สมองของคนเรา เหมือนพลังงาน
มันเทียบเท่ากับหลอดไฟดวงเล็ก ๆ ในตู้เย็น
พลังงานน้อยขนาดนั้น แต่ว่าสมองต้องทำงานค่อนข้างซับซ้อน
มันต้องควบคุมอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย ”
แล้วโทรศัพท์เป็นอะไรที่รุนแรงมาก
สามารถทำให้การสื่อสารในสมองรวนได้ จริง ๆ แล้ว
ดังนั้นเราจึงไม่ควรเอาไปวางหรือชาร์จแบตไว้ในห้องนอน
ถ้าหลีกเลี่ยงไว้ห้องอื่นไม่ได้ ก็ให้ปิดเครื่อง
3. อยู่กับตัวเองโดยการทำสมาธิ 5 – 20 นาที / วัน
มีผลการทดลองออกมาแล้วว่า
“สมาธิส่งผลต่อการมุ่งมั่นตั้งใจ
การโฟกัสอยู่กับการทำสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น”
และพี่มิ้นท์ I Roam Alone ยังให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“ท้ายที่สุดแล้ว เราต้องมีเวลาอยู่กับตัวเอง
เพื่อที่จะถามตัวเองว่า ต้องการอะไร
ไม่ต้องการอะไร แล้วมันจะนำไปสู่สิ่งที่ควรทำหรือปฏิเสธในชีวิต
มีคนไม่น้อยที่ต้องทนทุกข์ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร…”
4. ยิ้มให้ตัวเองทุกเช้า
ในหลักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า มันคือการหลอกตัวเอง
แม้ว่าเมื่อวานจะมีเรื่องแย่แค่ไหน เศร้าแค่ไหน เครียดแค่ไหนก็ตาม
การยิ้มสามารถหลอกสมองให้เชื่อว่าคุณมีความสุข
ไม่ได้ชี้นำให้คุณหลอกตัวเอง
เพียงแต่จะบอกว่าเทคนิคการหลอกสมองนี้
ช่วยให้คุณลดความเครียด
กระตุ้นให้เคมีในสมองหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา
สมาธิดีขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น
ทำให้คุณกลับไปเผชิญกับปัญหาได้อย่างสตรองมากขึ้น
สัก 1 นาที ยิ้มพร้อมกับชมตัวเอง
ให้กำลังใจ อวยพรและมองภาพตัวเอง
ในอนาคตว่าเราเจ๋งแค่ไหน
สุดยอดแค่ไหน เราจะเป็นใครและที่สำคัญที่สุด
คือ เราจะทำประโยชน์อะไรให้กับโลกบ้าง
5. วางแผนจัดตารางเวลา To Do List
การเขียน To Do List จะช่วยให้เรารู้ว่า
วันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง
สิ่งที่เราต้องโฟกัสในวันนี้คืออะไร
หลายคนชอบบ่นว่า ตัวเองไม่มีเวลา
แต่กลับลืมไปมองว่า จริง ๆ แล้ว
ตัวเองสูญเสียเวลาหรือเศษเวลาไปกับอะไร
ถ้าเราเขียนสิ่งที่จะไม่ทำได้ก็จะดีมาก
เช่น วันนี้ฉันจะไม่เข้าเฟซบุ๊ก
คนเราใช้เวลาอยู่บนอินเทอร์เน็ตผ่านทางโทรศัพท์
เฉลี่ย 3 ชั่วโมง 14 นาที ต่อคนต่อวัน
เวลาขนาดนี้ อ่านหนังสือเล่มนึงเกือบจบเล่ม!!
เมื่อหมดวัน คุณอาจจะเขียนเพิ่มเติมว่า
วันนี้คุณทำอะไรดีแล้ว เขียนชื่นชมตัวเอง
แล้วลองคิดว่าจะพัฒนาจุดนี้ไปได้อีกบ้างไหม
ต้องทำอย่างไร แล้วอะไรที่ทำพลาดไป
สาเหตุของความผิดพลาดนั้นคืออะไร
จะทำอย่างไรไม่ให้พลาดอีก
ใครทำแบบนี้ทุกวัน
คุณจะเห็นการพัฒนาของตัวเองที่ไวแบบคาดไม่ถึง!!
6. อ่านหนังสือ
หนังสือเป็นอีกหนึ่งหนทางลัด
ที่เราไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง
เป็นวิธีที่ได้ความรู้และแนวคิดได้อย่างไวที่สุด
แต่เราไม่ค่อยได้อ่าน
เพราะเราคิดว่าอ่านหนังสือต้องใช้เวลานานในการอ่าน
แล้วเราจะอ่านหนังสือได้อย่างไร ในขณะที่มีเวลาน้อย ??
พี่นุ้ย School of change maker , พี่กระทิง KBTG , พี่ก๊อต จิรายุ
ให้สัมภาษณ์ถึงเคล็ดลับการอ่านของพวกเขาว่า
ให้พกหนังสือติดมือไว้ตลอดเวลา
หยิบขึ้นมาอ่านแทนการเล่นโทรศัพท์ อ่านอย่างน้อยวันละ 10 นาที
แทนการเล่นโทรศัพท์ 15 – 20 นาที / วัน จะกลายเป็น 3650 นาที/ปี
ตีเป็นเวลาที่ใช้อ่านหนังสือ 200 หน้า ได้ถึง 18 เล่ม
ดังนั้นเลิกพูดได้เลย ว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือ!!
สำหรับใครที่ไม่ถนัดอ่าน การฟังก็เป็นอีกทางหนึ่ง
คุณอาจฟังหนังสือเสียงหรือฟังเป็น Podcast
ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลย
7. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายในตอนเช้า
มันจะดีกว่าช่วงเวลาอื่น
ในเรื่องของระบบเผาผลาญที่ดีกว่า
เพราะในช่วงบ่าย – ค่ำ เป็นเวลาที่ร่างกาย
เตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อนมากกว่าการทำกิจกรรมต่าง ๆ
การออกกำลังกาย เป็นการกระตุ้นพลังงานให้ตื่นตัว
อารมณ์แจ่มใส ความคิดปลอดโปร่ง
1
แถมยังช่วยรักษาพลังงานให้อยู่ในระดับสูงตลอดทั้งวัน
ซึ่งเหมาะกับการเตรียมพร้อมให้วันทั้งวันของคุณทรงพลัง
ก่อนนอน ให้คุณปิดเครื่องมือสื่อสาร
กลับมาทำสมาธิ
เคลียร์ทุกอย่างที่อยู่ในหัวจัดระบบความคิดของสมองก่อนนอน
เพื่อเตรียมพร้อม
ให้เช้าวันใหม่อีกวันนึงของคุณทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าคุณตื่นสายจนเกินไป
แต่การตื่นเช้าก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่คุณตื่นมาทำอะไร
"ความสำเร็จคือผลรวมของความพยายามเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน"
- Robert Collier
https://klao365.org/video/doc-save-my-home-ep02/
บันทึก
5
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Klao at Home เกลานิสัยเกลาได้ที่บ้าน
5
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย