2 ส.ค. 2020 เวลา 13:27 • ข่าว
เมื่อคนขายและกินเนื้อมาตลอดชีวิตไม่รู้ว่าเนื้อที่ตัวเองกินนั้นคือหมู เป็นที่มาต้องหาข้อพิสูจน์ เมื่อคนที่กินทั้งหมูและเนื้อมาบอกว่า เนื้อที่ขายอยู่คือหมู เป็นเรื่องขึ้นมา เพราะกลายเป็นว่าเขียงขายเนื้อวัว แต่มีเนื้อหมูปนมาได้อย่างไร
cr:thaipbs.com
มีคนที่กินทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว เกิดปัญหาคาใจเมื่อวันหนึ่งเขาได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อแต่เขาแน่ใจว่าเนื้อที่เขากินคือเนื้อหมูอย่าแน่นอน เป็นที่มาของการตรวจสอบที่ไปที่มา นำไปสู่การตรวจสอบทั้งระบบ จากแหล่งขายเนื้อใหญ่ และโรงเชือดทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัด
จนทราบว่ามี แผงขายเนื้อที่นำเนื้อหมูมา ขายในราคาขายที่ถูกกว่าปกติ
(แต่แพงกว่าเนื้อหมูที่ขายทั่วไป)
1
อีกรายเป็นแม่ค้าที่เคยซื้อจากเขียงเนื้อเจ้าประจำ แต่ติดช่วงเทศกาลที่หยุดติดต่อกันหลายวัน ร้านที่ซื้อประจำหยุดจึงสั่งซื้อออนไลน์ไป โดยเลือกซื้อเนื้อหลายชนิดและหลังจากได้เนื้อมามีความรู้สึกไม่แน่ใจ ส่วนหนึ่งเพราะซื้อมาได้ในราคาถูกกว่าปกติ และเห็นเขาไลฟ์ขายได้ดีจึงลองสั่งมาทั้งหมดในราคา 7พันกว่าบาท แต่เมื่อได้เนื้อมาเห็นความผิดปกติตั้งแต่สีของไขมัน มีขนสีขาว ติดมา แต่ยอมรับว่าแยกไม่ได้ มีความสงสัยเมื่อทำอาหารที่ได้จากหมูนำมาเปรียบเทียบที่ทำจากเนื้อที่ซื้อมา ว่ามีลักษณะและความคล้ายกัน จึงตัดสินใจที่จะไม่ขายเนื้อที่ซื้อมา และโทรไปถามกับคนที่ขายเนื้อมาให้ซึ่งเป็นมุสลิมและยืนยันว่าเขานำเนื้อที่ถูกต้องมาขาย ได้มีการสอบถามกันไปมาถึงขั้นทะเลาะกัน และหาว่าเธอเจตนาหาเรื่องเป็นที่ไปที่มาทำให้ส่งเนื้อไปตรวจ
cr:thaipbs.com,youth.be
รายการเปิดปมได้ลงไปทำการตรวจสอบในตลาดย่านกรุงเทพมหานครและตามต่างจังหวัดที่มีแหล่งขายเนื้อวัวใหญ่ๆพบว่า
16/7/63 ตัวอย่างที่ส่งไป พบว่าตรวจเจอDNAของหมูถึง7ตัวอย่างจาก8ตัวอย่างที่ส่งไป มาจากบางกะปิ 1ตัวอย่าง ประเวศ 3 ตัวอย่าง
หนองจอก 1 ตัวอย่าง บึ่งกุม 2 ตัวอย่าง
แหล่งชำแหละ เนื้อที่หนองจอก ฉะเชิงเทรา ลพบุรี สระบุรี
cr:thaipbs.com
ทีมงานได้ลองไปสุ่มตรวจเนื้อที่เขียงเนื้อ 2 เขียง โดยตัดเอาไปเป็นส่วนๆ พบว่า มีเนื้อหมูที่ถูกนำมาปลอมวางขายในราคาที่ถูกกว่าและเจ้าของปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาที่จะเอาหมูมาปลอม เพราะเขาซื้อจากคนขายที่นำมาขายอีกที
เมื่อมีการนำเนื้อไปส่งตรวจ จนกระทั่งเป็นที่มาของการที่ผู้นำทางศาสนา โดยสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ออกคำสั่งให้ผู้บริโภคมุสลิม หยุดซื้อ หยุดขาย และบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลาม
หลักการส่งตรวจ ที่สถาบันฝ่ายกิจการฮาลาล มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ที่ได้มีการรับเนื้อสัตว์จากชาวมุสลิมนำมาส่งตรวจ เป็นระยะ แต่ช่วงนี้มีคนพุทธส่งมาให้ตรวจบ้างเพราะเกิดประเด็นการปลอมปน ซึ่งสถาบันก็จะนำเนื้อเหล่านั้นมาสะกัดเพื่อหาDNA ว่าเป็นสัตว์ประเภทใด เพราะดูภายนอกแยกด้วยสายตานั้นยากมาก โดยเฉพาะเมื่อเนื้อเหล่านั้นอาจผ่านการชุบด้วยเลือดวัว และเนื้อส่วนต้นคอกับสะโพกเป็นส่วนที่คล้ายกันมาก
เป็นเพราะช่วงที่มีการติดเชื้อโควิด-19 การขายของออนไลน์ได้รับความนิยม การสั่งซื้อผ่านช่องทางนี้ ที่มีคนนำมาไลฟ์ขายของที่ขาดคุณธรรมนำมาปลอมปนและลดราคาเพื่อแข่งขันกัน เนื้อวัวราคาแค่140-180 บาทซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เป็นที่มาของการนำเนื้อไปตรวจสอบ
มีผู้บริโภคชาวมุสลิมที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการซื้อเนื้อจะซื้อกับเจ้าที่รู้จักกัน อาศัยความเชื่อใจเป็นหลัก แต่เมื่อตรวจสอบแล้วก็กลายเป็นว่าเขาก็ถูกหลอกมาเช่นเดียวกัน ตอนนี้เลยมีความกังวล ขณะนี้เลยต้องซื้อกับเจ้าที่มีการยืนยันว่าซื้อมาจากโรงเชือดของคนมุสลิมที่มีใบอนุญาต
จากการสอบถามเขียงขายเนื้อที่ได้รับอนุญาตขายเนื้อที่เป็นฮาลาลซึ่งตอนนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะลูกค้ามั่นใจมากกว่าการซื้อจากร้านทั่วไปหรือการไลฟ์ขาย จากคนไม่รู้จักอื่นๆ มีวิธีสังเกตเนื้อคือสีจะแดงเท่าๆกันทั้งชิ้น ไม่ใช่ขอบสีแดงเนื้อข้างในสีซีดกว่า หรือสังเกต ริ้วเนื้อ และเนื้อหมูมักจะพบเส้นขนสีขาวติดมา แต่แม่ค้าเขียงเนื้อมุสลิมเองก็ยอมรับว่าแยกความแตกต่างกันยากมากที่เดียว
น่าเห็นใจชาวมุสลิมที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ในวิกฤตเพราะความเห็นแก่ตัว ทั้งที่คิดว่าจะปลอดภัย เพราะความไว้ใจ ตอนนี้ก็ได้แต่ต้องระมัดระวังและซื้อจากเจ้าที่ซื้อประจำเท่านั้น
1
reference
เนื้อวัวปลอม : เปิดปม (27 ก.ค. 63): https://youtu.be/YCU9NaWynjA
โฆษณา