5 ส.ค. 2020 เวลา 09:09 • สุขภาพ
6 วิธีรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า
คุณเป็นกังวลกับรอยแผลเป็นบนหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้หายไปดีใช่หรือไม่? มาหาวิธีทำให้แผลนั้นดีขึ้นกว่านี้กันเถอะ
สาวๆ คงจะเคยได้แผลกันมาบ้างใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ต้องเจอ หรือจากความซุ่มซ่ามไม่ตั้งใจก็ตาม ถ้าโชคดีก็อาจจะเป็นแผลเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็จะจางหายไปได้แทบไม่เห็น แต่บางครั้งก็โชคไม่ดีเลยที่กลายเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ แถมยังไม่ยอมหายอยู่บนหน้าให้เป็นตำหนิหมดสวยไปอีก ได้แต่กลุ้มใจจริงๆ
แผลเป็นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
แผลเป็นเกิดจากแผลสด ที่ทำการสมานแผลที่ฉีกขาดของเนื้อเยื่อ สร้างเนื้อเยื่อเป็นคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนเนื้อส่วนที่ถูกทำลายไป เป็นกระบวนการการรักษาแผลตามธรรมชาติของร่างกาย เมื่อแผลหายดีแล้ว ก็อาจมีการทิ้งรอยแผลไว้ที่แผลอยู่ตามขนาดและอาการบาดเจ็บในตอนนั้น
ตามปกติแล้วแผลเป็นมักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล หรือสีแดง อาจจะนูนขึ้นกว่าผิวหนังปกติตามกระบวนการธรรมชาติที่จะทำให้แผลนั้นกลับมาเชื่อมต่อกันดังเดิม แผลเป็นอาจจะจางลงและเล็กลงไปได้เองแต่จะต้องใช้เวลาจะใช้ถึง 1 หรือ 2 ปีเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลที่ได้รับด้วย หากแผลลึกมากก็อาจจะคงอยู่เป็นแผลเป็นที่เห็นชัดมากจนใครๆ ก็มองเห็นได้นั่นเอง
หากแผลเป็นไม่ยอมหายไปเอง เราจะหาวิธีรักษาอย่างไรให้แผลนั้นจางหายไปได้ ดีกว่าที่เป็นอยู่ได้บ้างนะ เจ้จะมาแนะนำกันค่ะ
6. ใช้ยาทาเพื่อแก้รอยแผลเป็น
ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยให้แผลเป็นสีจางลงหรือบางลงได้แล้ว ยังจะช่วยลดอาการคันในตอนที่มีแผลได้ด้วย แต่การทายาควรรีบทาตั้งแต่แผลสดเริ่มหายใหม่ๆ และจะต้องทาอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอถึงจะเห็นผล ยาที่ใช้ลดรอยแผลเป็นจะอยู่ในกลุ่มยาสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E วิตามิน B3 หรือวิตามิน A ยาที่มีส่วนผสมของซิลิโคนเจลเป็นส่วนประกอบ การใช้แผ่นซิลิโคนเจลจะช่วยซ่อมแซมและลดการขยายตัวของแผลเป็นที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อใช้ยาให้เหมาะกับผิวของตัวเอง
5. ฉีด Filler เติมเต็ม
หากว่ารอยแผลเป็นมีลักษณะบุ๋มลงไปจากผิวหนัง สามารถใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มสกัดมาจากไฮยาลูโรนิคแอซิด เข้าไปเติมเต็มรอยบุ๋มของแผลเป็นให้กลับมาเต่งตึงได้ แต่ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้หายถาวร สารนี้จะคงอยู่ได้นาน 6-8 เดือนก่อนที่จะค่อยๆ สลายหายไป และหากต้องการกลับมาฉีดเติมใหม่อีกครั้งค่ะ
4. ฉีดสารต่างๆ เข้าไปลดขนาดของรอยแผลเป็น
มียาชนิดต่างๆ ที่ออกฤทธิ์ในการลดขนาดของรอยแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่ เป็นแผลนูนแผนกว้างให้เล็กลงและอ่อนนุ่มได้ เช่น สารที่มีส่วนผสมของ Bleomycins และยาในกลุ่มของสารสเตียรอยด์ ที่จะทำให้แผลเป็นที่นูนแข็งอ่อนนุ่มลงได้ แต่ทั้งนี้การรักษาจะต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์เพื่อปรับปริมาณการใช้ยาได้อย่างเหมาะสมด้วย
3. การฉายรังสี
การฉายรังสี มีทั้งที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้แผลเป็นที่มีลักษณะลึก ให้กลายเป็นแค่แผลตื้นๆ แทนได้ หรือมีส่วนที่ช่วยให้แผลเป็นยุบลง ลดสีแดงที่เห็นได้ชัดของแผลลดลง เป็นการผลัดผิวด้วยวิทยาการ M.D. เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เหมาะที่รักษาสำหรับการเป็นแผลเป็นที่ยังตื้นๆ จะยังพอใช้วิธีการนี้ได้
2. ทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
เป็นการใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อส่งผ่านเข้าไปสู่ชั้นผิวหนัง เพื่อทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอยแผลเป็นที่แข็งให้เรียบเนียนนุ่มขึ้น เช่น การใช้คลื่นแสง VIPL (V-Intense pulse light) เป็นพลังงานแสงที่จะทำให้เนื้อเยื่อของรอยแผลเป็นเกิดการเรียงตัวใหม่อย่างเป็นระเบียบ หากได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องแล้ว รอยแผลเป็นก็จะมีขนาดเล็กลงได้
1. การศัลยกรรมผ่าตัด
เป็นวิธีแบบเก่าที่ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด คือการเปลี่ยนแผลเป็นเก่าให้กลายเป็นแผลใหม่ที่ดูดีกว่าเดิมแทน การผ่าตัดนี้มีผลเพื่อตกแต่งรอยแผลเป็นให้มีขนาดเล็กลง มีการจัดรูปทรงและตำแหน่งของรอยแผลเป็นให้ดูดีขึ้น หรือตัดส่วนที่เป็นแผลนูนให้ยุบและเล็กลง เป็นวิธีที่เหมาะกับแผลเป็นที่เป็นมานาน รักษาด้วยวิธีอื่นๆ ไม่หาย
สำหรับสาวๆ ที่อยากให้แผลเป็นบนหน้าจางหายไป ไม่ต้องมากังวลกับรอยตำหนินี้ ก็ให้เลือกวิธีที่ตัวเองสนใจเหมาะกับทุนทรัพย์ของตัวเอง และลองศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลให้เยอะๆ ก่อนการตัดสินใจไปทำดูค่ะ เพื่อที่จะได้แผลเป็นหลังรักษาที่ดีขึ้นกว่าและคุ้มค่ากับเงินเสียไปด้วย
คุณมีแผลเป็นบนใบหน้าที่ต้องการรักษาให้หายบ้างไหม?
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
โฆษณา