Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บทสรุปฉบับ แฮม แฮม
•
ติดตาม
4 ส.ค. 2020 เวลา 02:30 • ปรัชญา
ชีวิตไร้อินเทอร์เน็ต
ภาพจาก pexels.com
ห่างหายจากการเขียนบทความ ไป 10 กว่าวัน แต่นั่นไม่ใช่แค่การเขียนบทความเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเล่นอินเทอร์เน็ตด้วย
หากคุณกำลังมองหาใครสักคน ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตมือถือในยุคสมัยนี้ ผมคือคนคนนั้น
ผมมีความรู้สึกว่า ไม่ว่าผมจะไปสถานที่ไหนก็ตามทุกที่ล้วนมี Wifi ฟรีให้ผมใช้ เวลาเดียวที่ผมจะไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็คือช่วงเวลาในการเดินทาง ซึ่งนั่นก็หมายถึงช่วงเวลาที่กำลังขับรถ และขณะขับรถก็ไม่สมควรที่จะเล่นมือถืออยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงหาเหตุผลไม่เจอว่า ทำไมผมถึงต้องสมัครเน็ตรายเดือนด้วย
ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาผมได้ไปอยู่ต่างจังหวัด อยู่ยาว 10 วันเลยทีเดียว และนั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมต้องใช้ชีวิตโดยไร้ซึ่งอินเทอร์เน็ต
ยอมรับตามตรง มันไม่ง่ายเลยที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างมันดูติดขัดไปหมด จริง ๆ จะสมัครอินเทอร์เน็ตก็ได้ แต่ไม่ดีกว่า นาน ๆ ที ก็อยากลองออฟไลน์ดูบ้าง
ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ Smartphone ของผม มันทำอะไรไม่ได้เลยหากไร้ซึ่งอินเทอร์เน็ต Application ทุกตัวหากไม่เชื่อมต่อกับเน็ตก็กดใช้งานไม่ได้ ผมไม่ได้โหลดหนัง หรือเพลงมาเก็บไว้ในมือถือเลยสักเรื่องเดียว ดังนั้น โทรศัพท์ของผมในตอนนี้โทรได้อย่างเดียว
มันเหมือนกับการอาบน้ำฝักบัว ที่ถ้าน้ำประปาหยุดไหลเราก็ อาบต่อไม่ได้ ไม่เหมือนกับคนสมัยก่อน ที่อาบน้ำจากตุ่ม ถึงแม้น้ำประปาจะไม่ไหล เราก็ยังมีน้ำสำรองในตุ่มอยู่ดี
แน่นอนตามประสาเพจปรัชญาแนวคิดดี ๆ ก็ต้องพยายามมองหาข้อดีของการอยู่โดยไม่มีอินเทอร์เน็ต ให้เจอเพื่อมาเล่าสู่กันฟังอย่างแน่นอน
ตอนแรกก็เขียนเป็นตุเป็นตะเลยทีเดียว ว่ามันทำให้เรามีเวลามากขึ้นอย่างนู้นอย่างนี้ แต่พออยู่ไปสักพัก แล้วเลิกหลอกตัวเอง
ผมถึงได้เห็นความเป็นจริงที่ว่า โลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็ไม่ได้ทำให้ ผมทำสิ่งที่ดีกว่า
ผมไม่ได้ตื่นเช้าขึ้น ไม่ได้มีเวลาไปออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้มีเวลาพูดคุยกับคนมากขึ้น ผมก็แค่มีเวลาว่างมากขึ้น แล้วก็ใช้ไปกับการนอนขี้เกียจ ก็เท่านั้นเอง
โลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตทำให้ผมมีเวลาว่างมากขึ้นจริงหรือเปล่า เรื่องนี้ก็สงสัยอยู่
บางครั้งเวลาผมสงสัย หรือต้องการรู้อะไร ผมจะ Search หาใน Google ทันทีแล้วผมก็จะได้คำตอบอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ผมต้องถาม ถามแล้วต้องรอคำตอบ
ถ้าเราไม่มี อินเทอร์เน็ต ความบันเทิงต่อไปของเราก็คือ TV ซึ่งผมไม่สามารถเลือกสิ่งที่ผมต้องการจะดูได้ กดข้ามโฆษณาก็ไม่ได้ เร่งความเร็ว หรือSearch หา สิ่งที่ต้องการจะดูจริง ๆ ก็ไม่ได้ ทำได้เพียงรอ รอจนกว่าจะถึงเวลาของมัน เราถึงจะได้ดู
และล่าสุดบทความที่เพื่อน ๆ กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ ผมต้องจดใส่สมุดแล้วต้องมา พิมพ์ลงคอมในภายหลังอีกที เสียเวลาเป็น 2 เท่าจากปกติเลยทีเดียว
ผมเคยโทษอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผมเลื่อนดูทั้งวันแล้วไม่ลุกขึ้นไปทำอะไร แต่วันนี้ผมไม่มีอินเทอร์เน็ต ผมก็ยังคงนอนขี้เกียจทั้งวันและไม่ลุกขึ้นไปทำอะไรอยู่ดี ตอนนี้ทุกอย่างมันแจ่มแจ้ง อาจจะไม่ใช่อินเทอร์เน็ตแต่เป็นตัวผมนี่แหละ
ผมยังคง กินของไม่มีประโยชน์ ไม่ดูแลสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย ขี้เกียจ แล้วหมดเวลาไปกับการพยายามเสาะหาสิ่งที่จะสร้างความบันเทิงให้กับตัวเอง มันฟังดูไม่ต่างจากตอนที่ผมมีอินเทอร์เน็ตเลยสักนิด
พอลองคิดดูดี ๆ เหมือนอินเทอร์เน็ตจะไม่เกี่ยวด้วยเลย แต่มันอยู่ที่ตัวผมเองล้วน ๆ ผมเลือกที่จะใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ แม้จะมีหรือไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ตาม
บางครั้งคนเราก็มองหาข้ออ้างต่าง ๆ และโยนความผิดไปให้มัน บอกกับมันว่าเพราะมันนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง แล้วก็ตามด้วยประโยคคลาสสิค เราไม่เคยโทษตัวเองบ้างเลย
ถ้ามองกันจริง ๆ อินเทอร์เน็ตมันก็เหมือนกับดาบสองคม ที่ใครบางคนเคยพูดว่า มีดถ้าเราไว้หั่นต้นหอมมันก็จะเป็นมีดครัว แต่ถ้าเรานำมันไปฟันคน มันก็จะกลายเป็นอาวุธ
ผมว่าอินเทอร์เน็ตก็ประมาณนั้นแหละ ถ้าเราใช้ให้มันเกิดประโยชน์ มันก็เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ถ้าเราใช้ให้มันเกิดโทษ มันก็เป็นสิ่งที่ก่อโทษอย่างมากเช่นกัน
ดังนั้น มันไม่เกี่ยวว่าเราจะใช้มัน หรือไม่ใช้มัน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เราใช้มันอย่างไร และเพื่ออะไรต่างหาก
สิ่งที่เราต้องควบคุมไม่ใช่อินเทอร์เน็ต แต่สิ่งเดียวที่เราต้องควบคุมคือตัวของเราเอง
เพราะตัวเราคือคนกำหนดทุกอย่าง
ถ้าวันนี้ชีวิตคุณแย่มาก ๆ เพราะคุณติดอินเทอร์เน็ตจนไม่มีเวลาไปทำอะไร โปรดจงรู้ไว้ว่าต้นเหตุ อาจไม่ใช่เพราะอินเทอร์เน็ต
ที่สำคัญก็คือ หากเวลาส่วนใหญ่คุณอยู่กับอินเทอร์เน็ตแล้ววันนึงคุณไม่มีอินเทอร์เน็ตคุณจะมีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว หากทำกิจกรรมหนึ่งเป็นประจำแล้วเลิกทำไปก็ต้องมีช่องว่างของเวลา ที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ที่ผมจะบอกก็คือ ถ้าเรามีเวลาว่างมากขึ้น แต่เรา ไม่รู้จักวิธีจัดการกับเวลา ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาที่เพิ่มมากขึ้นไปทำอะไร มีเวลามากขึ้นสักแค่ไหน ก็เปล่าประโยชน์
หากคุณไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไปทำอะไร คุณจะใช้เวลาไปอย่างสูญเปล่าอยู่ดี
ดังนั้นนอกจากควบคุมตัวเองให้ได้ยังต้องหัดวางแผนใช้เวลาให้เป็นอีกด้วย
พูดมาถึงตรงนี้ทุกคนคงเห็นด้วยกับผมแล้วล่ะ ว่าอะไรคือประเด็น มันไม่ใช่อยู่ที่ว่าเรามีหรือไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่มันอยู่ที่ว่า เราจะใช้ชีวิตของเรา ใช้เวลาของเรา ให้เกิดประโยชน์กับตัวเราได้อย่างไร
ผมมีเวลามากขึ้นจากการไม่มีอินเทอร์เน็ตเล่น แต่ผมกลับไม่รู้ว่าจะใช้เวลาที่มีมากขึ้นไปทำอะไร สุดท้ายก็เลยนอนดูทีวี และดูเหมือนมันจะให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการเล่นอินเทอร์เน็ตเลยสักนิด
คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าคิดต่ออย่างมาก หากวันนึงคุณมีเวลาว่างมากขึ้นอย่างกะทันหัน คุณจะใช้เวลาของคุณไปกับการทำอะไร และใช้เวลาอย่างไรไม่ให้ย้อนกลับไปเสียใจภายหลัง
ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษ ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่โดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต คุณจะสูญเสียโอกาสมากมายเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไม่ระมัดระวัง คุณจะสูญเสียโอกาสในการใช้ชีวิตเช่นเดียวกัน
#บทสรุปฉบับแฮมแฮม
ถ้าชอบบทความของผมฝากกด Like เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
2 บันทึก
50
42
3
2
50
42
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย