9 ส.ค. 2020 เวลา 16:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปคลิปงาน Investment seminar by CISSA group
Speaker
1. คุณอิก บรรพต จากเพจถามอีกกับอิก
2. คุณเคน จักรกฤษณ์ จากเพจ money buffalo
3. คุณเบส กิตติศักดิ์ จากเพจลงทุนศาสตร์
4. คุณป๊อต อรรถนพ president and CEO CISSA group
สรุปจากคุณอิกให้สัมภาษณ์:
- ถ้าเปรียบเทียบเศรษฐกิจโลกก่อนหน้านี้ เปรียบเหมือนคนไข้แต่ยังประคองตัวอยู่ได้ในหลายๆประเทศ แต่ถ้าตรวจละเอียดดูข้างในจะพบว่ามีปัญหาไม่ว่าจะเป็นหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน หนี้เอกชน รวมๆทั่วโลกประมาณ 255 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้คิดเป็น 322%
- ปัญหาความเหลื่อมล้ำของชนชั้นโดยคนที่มีความรู้ด้านการลงทุนจะยิ่งมั่งคั่งมากขึ้น คนรวยจะรวยขึ้น คนที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อยจะมั่งคั่งได้ลำบาก
- ปัญหาเรื่องสงครามการค้าที่เคยเป็นชนวนสงครามของเศรษฐกิจโดยเฉพาะระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งตอนนี้มีวิกฤติโควิต-19 เข้ามาแทรกและรุนแรงมากส่งผลต่อทุกประเทศโดยทั่วถึงซึ่งแตกต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งและวิกฤติ subprime โดยตอนนี้ FED ได้พยายามอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อช่วยเหลือและพยุงเศรษฐกิจ
- ในปัจจุบันเป็นยุคดอกเบี้ยต่ำไปเรื่อยๆ
- หลังจากจบโควิต-19 เรื่องสงครามการค้าน่าจะกลับมาอีกและจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้
- เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นจะไปเปลี่ยนทัศนคติของนักลงทุน โดยอาจจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงและเสี่ยงต่ำโดยหวัง yield ที่สูง
สรุปจากคุณเคนให้สัมภาษณ์:
- เริ่มจากเกริ่นว่าทำไมต้องวางแผนการเงินและเครื่องมืออะไรที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนมือใหม่
- เรื่องการวางแผนการเงินเพิ่งจะเข้ามามีอิทธิพลในไทยได้ไม่ถึงสิบปี โดยความรู้ตรงนี้หยิบยกจากประเทศสิงคโปร์มาเป็นแบบอย่าง ซึ่งการวางแผนการเงินมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เราสามารถมีเงินใช้ได้ตลอดที่มีชีวิตอยู่
- ทางตลาดหลักทรัพย์เคยให้ตัวเลข 4 ล้านบาทเป็นจำนวนเงินอย่างน้อยที่คนไทย 1 คนควรต้องมีสำหรับการเกษียณ
- เราไม่สามารถทำงานตลอดชีวิตได้ ซึ่งช่วงภาวะโควิต-19 และการ work from home เป็นการจำลองภาวะเกษียณได้อย่างดี ซึ่งสังเกตุได้ว่าช่วงโควิต-19 เราจะใช้จ่ายเยอะมากจากการซื้อของออนไลน์เพราะเราว่าง ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่ารายจ่ายเพิ่มขึ้นในขณะที่ไม่มีรายได้นั่นเอง
- โครงสร้างของประชากรส่วนใหญ่ตอนนี้เริ่มเป็นรุ่น baby bloomer มากขึ้นในขณะที่ประชากรวัยทำงานน้อยลง นั่นคือ คนวัยทำงานกำลังแบกภาวะผู้สูงอายุอยู่ตอนนี้ ซึ่งในอนาคตจะส่งผลให้สวัสดิการรัฐอาจจะไม่เพียงพอ
- สังเกตได้ว่าช่วง lock down คนส่วนใหญ่มีเงินสดสำรองฉุกเฉินไม่เพียงพอ จากการที่มีเรียกร้องเงินช่วยเหลือจากภาครัฐและปัญหาการจ่ายเงิน
- การวางแผนการเงินมีในแง่ที่เป็นบวกคือการนำเงินไปลงทุนต่อยอด แต่ก็มีในแง่ที่เป็น
ลบคิอการบริหารและจัดการหนี้ที่มีอยู่
- กองทุน คือ เครื่องมือที่นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มศึกษาเพราะเราจะยังไม่ชำนาญมากถ้าไปลงทุนในหุ้นเลย การลงทุนในกองทุนอย่างน้อยก็มีมืออาชีพเป็นคนคอยบริหารเงินให้เรา
การลงทุนในตลาดหุ้นเข้าง่ายแต่ไม่หมูอย่างที่หลายคนคิด
สรุปจากคุณเบสให้สัมภาษณ์:
- กล่าวถึงหุ้น VI ว่ามีลักษณะอย่างไร ก่อนอื่นเลยให้เรามองการลงทุนในหุ้นเหมือนการมองธุรกิจ ซึ่งหุ้นที่ดีจะประกอบด้วย 3 อย่าง คือ 1. แข็งแกร่งซึ่งดูได้จากความสามารถในการแข่งขันและความเป็นผู้นำ 2. ดูการเติบโตว่าในอนาคตธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างไร 3. หาราคาและมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้น
- กองทุนอสังหาอาจจะตอบโจทย์มากกว่าการซื้ออสังหาจริงๆเพราะเราไม่ต้องลงไปดูพื้นที่จริงเหมือนสมัยก่อน
- ลองดูว่าเราสามารถศึกษาดูหุ้นเองและทำผลตอบแทนได้เก่งกว่าการมีผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหารเงินหรือไม่ ถ้าไม่เก่งพอ เราอาจจะลงทุนในกองทุนรวมดีกว่า
- จำนวนเงินไม่สำคัญเท่ากับความรู้ เราลองดูว่าเราสามารถจัดสรรเวลาให้กับหุ้นได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อยให้ลงทุนในกองทุนรวมจะดีกว่า
สรุปจากคุณป๊อดให้สัมภาษณ์:
- การลงทุนแบบมี leverage คือการลงทุนโดยไม่ใช้เงินตัวเอง 100% ซึ่งการลงทุนในอสังหาเราจะสามารถใช้ leverage ตรงนี้ ไม่ว่าจะซื้ออสังหาเองหรือซื้อแบบ investment property
สรุปคำถามก่อนจบ ในปัจจุบันนี้ ถ้าเราจะลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนประมาญ 7% ขึ้นไปและมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วย เราควรเลือกสินทรัพย์ใด
คุณอิก: ในยุคนี้มีการลงทุนที่เชิญชวนให้นักลงทุนหลงเชื่อได้ง่ายด้วยผลตอบแทนที่สูงเกินจริง เราควรหลีกเลี่ยงการลงทุนแบบนี้ นอกจากนี้เราต้องรู้ว่าเรารับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุน ซึ่งควรเอา lifestyle ของเรามาคำนวนมากกว่าอายุ เช่น ถ้าเรามีครอบครัว มีลูกแล้ว เราอาจจะรับความเสี่ยงได้น้อยแม้ว่าเราจะยังอายุไม่เยอะ เป็นต้น
คุณเคน: ยุคนี้เป็นยุคของข้อมูลข่าวสารที่เข้าได้ถึงง่ายมาก ซึ่งทำให้เราสบายในการหาข้อมูล ควรลงทุนในความรู้เพราะจะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นบนความเสี่ยงที่ต่ำ
คุณเบส: ถ้าต้องการผลตอบแทนระดับนั้นจริงๆ อาจจะต้องเป็นหุ้นกับอสังหา แต่หุ้นจะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะฉะนั้นการลงทุนในกองทุนอสังหาหรือ investment property อาจจะเป็นคำตอบในเรื่องผลตอบแทนเทียบความเสี่ยง
คุณป๊อด: investment property อาจจะให้ผลตอบแทนได้ถึงระดับนั้นโดยคิดจากปันผลรวมกับส่วนต่างราคา
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลและข้อคิดจากงานสัมมนาครั้งนี้ของ CISSA group จาก เพจ Money buffalo ครับ
สามารถชมคลิปการบรรยายตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f3612cd3aca810caa8ea31f
โฆษณา