ทุกอย่างล้วนผลักดันให้ Tokyo Drift กลายเป็นภาคที่ถึงแม้จะเปลี่ยนสีเปลี่ยนกลิ่น และเป็นภาคที่ทำรายได้น้อยสุดของแฟรนไชส์ แต่สุดท้ายหนังก็ยังคงทำกำไร มีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ราว 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5,000 ล้านบาท จากทุนสร้าง 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,600 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับหนังที่ไม่ได้ใช้ดาราแม่เหล็กอย่าง พอล วอล์คเกอร์ (รับบท ไบรอัน โอคอนเนอร์) กับ วิน ดีเซล (เจ้าของบท โดมินิค ทอเร็ตโต้) เหมือน 2 ภาคแรก ... และที่สำคัญ มันทำให้ Fast & Furious กลับมาฟื้นคืนชีพ กลายเป็นแฟรนไชส์หนังดังระดับโลกมาถึงทุกวันนี้