17 ส.ค. 2020 เวลา 04:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Mike Gleason (14/08/2020)
ความกลัวเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ผู้คนหันมาสนใจโลหะมีค่า
ในขณะที่ Joe Biden
ประกาศเลือก Vice president ของเขา
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานที่ลดลง
ทำให้ Wall street มีความหวังมากขึ้น
marketwatch
ความหวังว่าจะเกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แบบ V-Shaped
S&P 500 กำลังเข้าใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล
แต่ในขณะเดียวกันตลาดโลหะมีค่าก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากความผันผวนที่สูง
วันอังคารที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงมากกว่า 100 ดอลล่าร์ ถือว่าเป็นการปรับตัวลงครั้งใหญ่และรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้ และเป็นการลดลงจากราคาที่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์
ที่ระดับเหนือ 2000 ดอลล่าร์ต่อออนซ์
ในขณะที่ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
เราคาดว่าจะเห็นราคาที่ swing
ในระดับ 100 ดอลล่าร์ในเเต่ละวัน
(มองว่าความผันผวนระดับนี้เป็นเรื่องปกติ)
เช่นกัน ความผันผวนระดับ 100 จุดใน
Dow Jones Industrial
ซึ่งเคยเป็นสิ่งเป็นไปได้ยากแต่
ตอนนี้กลับเป็นเรื่องปกติ
มันเหมือนกับ Blue-Chip ที่มีการ trade
เฉลี่ยอยู่ที่ 28,000
Nasdaq ก็เช่นกัน
Nasdaq มีแนวโน้มที่จะผันผวนมากกว่า Dow ด้วยซ้ำ
การ Trade Silver ก็จะมีความผันผวนมากกว่าทองคำ
ในวันอังคารโลหะสีขาวได้รับผลกระทบอย่างมาก
นับเป็นการปรับตัวลดลงของราคาในระดับ 15% หรือมากกว่า 4 ดอลล่าร์ต่อออนซ์
เเต่สุดท้าย
ราคากลับพลิกกลับและพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีเพื่อชดเชยในส่วนที่เสียไปก่อนหน้านี้
นักลงทุนควรจะโฟกัสไปที่การเลือกตั้งที่จะถึงนี้เพราะพรรค Democrats ได้ออก Presidential Ticket แล้ว
อดีตรองประธานาธิบดี Joe Biden
แต่งตั้งวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย Kamala Harris
เป็นผู้ร่วมหาเสียงของเขา
ประธานาธิบดี Trump
ตอบโต้โดยโทรไปในช่อง Fox Business
และเรียก Biden และ Harris ว่า “Big Taxers”
และพวกเขาจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดพัง
Trump กล่าวว่า “หล่อน เป็น Big Taxer เหมือนๆกับที่ Joe เป็นนั่นแหละ พวกเขาต้องการ Tax จำนวน 4 trillion dollars ซึ่งจะเป็นการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งที่ไม่ได้ผลหรอก คุณจะเห็น depression ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกคนรู้ดีว่าถ้า Biden เข้ามาก็จะทำให้ตลาดนี้พัง เขาจะสร้างกฎขึ้นมาและจะเก็บภาษีประชาชน 4 trillion dollars”
ปฎิเสธไม่ได้ว่าตลาดหุ้นทำได้ดีหลังจาก Trump ได้รับเลือกขึ้นมาดำรงตำเเหน่ง
แม้ว่าการเทขายขนาดใหญ่ในเดือนมีนาคมเนื่องจากการ lockdown อันเป็นผลมากจากไวรัส
ทำให้เป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ประธานาธิปดีวางไว้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ตอนนี้ Wall street ก็กลับมาเติบโตอีกครั้ง
แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำและเงินกลับราคาเพิ่มสูงขึ้น
เงินจำนวนหลาย Trillion ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเงินในภาวะฉุกเฉิน
กำลังทำให้ความกลัว inflation เพิ่มขึ้นเนื่องจากพวกเขาได้เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และเพิ่มความต้องการให้นักลงทุนกระจายไปสู่โลหะมีค่า
การซื้อทองคำแท่งพุ่งสูงขึ้นมากหลังจากที่ทางการวอชิงตันตัดสินใจที่จะบิดเบือนคำสั่งที่แท้จริงแทนที่จะรายงานสภาวะเศรษฐกิจจริงๆที่กำลังทรุดตัวลง..
มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของตลาดทองคำและเงินอย่างมากในช่วงสามปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิปดี Donald Trump ซึ่งไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก
หาก Trump ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งการซื้อขายทองคำแท่งก็จะชะลอตัวลงชั่วคราว นักลงทุนส่วนใหญ่ซื้อทองคำและเหรียญเงินไว้เพื่อป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงก็จะรับรู้ได้ถึงความเสี่ยงทางการเมืองที่น้อยลงในระหว่างการบริหารของพรรค Republican
เหมือนที่เราเห็นว่าความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้เพิ่มขึ้นอย่างมากแม้ว่า Trump จะดำรงตำแหน่งอยู่ในทำเนียบขาว
ทองคำทำสถิติสูงสุดภายใต้การดำรงตำแหน่งของ Trump และหาก Trump ไม่ชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะเป็นการทำลายตลาดทองคำในระยะยาว..
ในความเป็นจริงแล้วทั้ง Trump และ Biden ไม่มีแผนหรือวิธีการที่จะหยุดการขาดดุลงบประมาณหรือหยุด Fed จากการดำเนินแผนการที่จะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ
Inflation เป็นเส้นทางเดียว ที่รวมพรรคสองพรรคเข้าสู่วอชิงตันแม้ว่าทั้ง Republican และ Democrats จะทะเลาะกันเรื่องภาษีและโครงการต่างๆ แต่เมื่อพูดถึงนโยบายทางการเงิน พวกเขาก็มีข้อยกเว้นบางประการในข้อตกลงพื้นฐานที่พวกเขาทำไว้
ผลการเลือกตั้งจะไม่เปลี่ยนแนวทางปัจจุบันของ Fed ที่มีการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0%
และ Quantitative Easing เเบบไม่จำกัด
ในสภาพแวดล้อมแบบนี้นักลงทุนควรที่จะให้ความสำคัญกับภาพรวมของการเสื่อมราคาของสกุลเงินและผลกระทบมากกว่าเรื่องทางการเมือง
การเลือกตั้งมีผลกระทบแน่นอนแต่เราไม่คิดว่าจุดจบตลาดกระทิงของโลหะมีค่าจะเป็นหนึ่งในนั้น..
การพิมพ์เงินและนโยบายทางการเงินต่างๆ
ทำให้ผู้คนเริ่มมีความหวาดกลัวของการเสื่อมค่าของสกุลเงิน
(1)ความไม่มั่นคงทางการเมือง
(2)ผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดี
(3)เงินเฟ้อ
(4)อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง
(5)การเสื่อมค่าของสกุลเงิน
ทุกปัจจัยล้วนส่งผลดีต่อทองคำเเละโลหะเงิน หรือเเม้กระทั่งสกุลเงินคริปโต
เราได้เห็นถึงความผันผวนในตลาดโลหะมีค่ากันเเล้ว
ดังนั้นในอนาคตเราไม่ต้องแปลกใจเลยนะครับถ้าเราจะได้เห็นการปรับตัวขึ้น-ลงระดับ 100 เหรียญในทองคำ
บริหารจัดการความเสี่ยงให้ดีนะครับ
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ตอนนี้บังได้สร้างซีรีส์อัลบั้มของบทความไว้เเล้ว
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดตามอ่าน
ย้อนหลังได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
ถ้าตลาดหุ้นกำลังจะถล่ม
เราอยู่ในจุดที่ต่ำสุดเเล้วหรือยัง ?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา