19 ส.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นได้อย่างไร?
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี 1914 และ จบลงในปี 1918 เป็นสงครามที่สร้างความเสียหาย ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
มีคนเสียชีวิตเพราะสงครามครั้งนี้ ถึง 16 ล้านคน และบาดเจ็บจากสงครามถึง 21 ล้านคน ในตำราเรียนต่าง ๆ มักจะเริ่มอธิบายการเกิดของสงครามโลกครั้งที่ 1 จากเหตุการณ์สังหารอาร์ชดยุก "ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์" มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี และพระชายา เจ้าหญิงโซฟี ที่กรุงซาราเจโว เมืองหลวงของบอสเนียเฮอร์เซโกวีน่า
WIKIPEDIA PD
จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีนี้ก็เรียกว่าเป็นมหาอำนาจหนึ่งของยุโรปดังนั้นการที่ทั้งมกุฎราชกุมาร และ มกุฎราชกุมารีจะถูกสังหารอย่างอุกอาจตอนกลางวันแสกๆขนาดนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน
แต่ถ้าเราจะพูดว่านี่คือสาเหตุหนึ่งเดียวของการเกิดสงครามโลกที่ทำเอาคนตายไป 16 ล้านคน ก็ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ แต่การสังหารมกุฏราชกุมารฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายพอดีที่จุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น
WIKIPEDIA PD
สาเหตุหลัก ๆ ที่นำพามหาอำนาจยุโรปเข้าสู่สงครามนั้นอาจจะสรุปเป็นปัจจัยต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. การล่าอาณานิคม การล่าอาณานิคมนั้น ประเทศเจ้าอาณานิคมจะต้องมีกองทัพขนาดใหญ่เพื่อเอาไว้ไปเฝ้าควบคุมอาณานิคม อาณานิคมที่พูดถึงนี้ ส่วนมากอยู่ในทวีปอาฟริกา ทั้งฝรั่งเศส เยอรมัน และ อังกฤษ ต่างก็เข้าไปแย่งพื้นที่ในอาฟริกากันอย่างสนุกสนาน แล้วก็ขัดแย้งกันไปมาตามประสาประเทศมหาอำนาจ
WIKIPEDIA PD
2. การแข่งขันสะสมอาวุธและขยายขนาดกองทัพ การที่จะล่าอาณานิคมก็ต้องมีกองทัพขนาดใหญ่ นอกจากคนแล้วก็ยังต้องมีแสนยานุภาพทางอาวุธยุทโธปกรณ์อีกด้วย ใครมีอะไรตัวเองก็ต้องมีมากกว่า ทับถมกันไปเรื่อย ๆ สร้างความรู้สึกไม่มั่นคงให้ฝ่ายตรงข้ามกันไปมาไม่จบสิ้น
WIKIPEDIA PD
3. การจับมือเป็นพันธมิตรด้วยกฎเกณฑ์ที่รัดรึงหนักมาก คือ ประเทศต่าง ๆ เมื่อรู้สึกไม่มั่นคงก็พยายามหาพันธมิตรโดยการทำสนธิสัญญา คือ นอกจากจะไม่รุกรานกันแล้วต่างฝ่ายก็ต้องเข้าช่วยเหลือกันเมื่ออีกฝ่ายถูกรุกราน
แต่มักไม่ใช่สนธิสัญญาแค่ 2 ฝ่าย คือ ในกลุ่มนี้ใครโดนรุกรานทุกคนจะต้องส่งทหารไปช่วย ดังนั้น แม้การกระทบกระทั่งเพียงเล็กน้อยก็อาจลุกลามกลายเป็นสงครามใหญ่ได้อย่างง่ายดาย แล้วเค้าไม่ได้เซ็นกันเฉพาะในภาคพื้นยุโรป สัญญาพวกนี้หมายรวมถึงเหล่าอาณานิคมด้วย คือ มีตีกันที่อาฟริกา ประเทศเจ้าอาณานิคมก็จะต้องรบกันตามที่ตกลงไว้
WIKIPEDIA PD
4. การปั่นกระแสชาตินิยมของรัฐบาลต่างๆ การปลุกกระแสชาตินิยมเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำหากจะเตรียมประเทศให้เข้าสู่สงคราม นอกจากนี้การจะเอาเงินภาษีไปลงกับอาวุธเยอะ ๆ และเกณฑ์เอาประชาชนไปเป็นทหาร ก็จำเป็นต้องมีความยินยอมพร้อมใจจากประชาชน ไม่งั้นรัฐบาลก็คงโดนต่อต้านและโค่นล้มได้ง่าย ๆ
คราวนี้พอประชาชนประเทศต่าง ๆ พากันฮึกเหิมรักชาติหรือเข้าขั้นคลั่งชาติหนัก ๆ ก็จะประเมินตัวเองว่าเก่งเกินความเป็นจริง โดนใครมาหลู่เกียรตินิดหน่อยก็จะต้องอาละวาดเล่นใหญ่ สนับสนุนให้เอาทหารมายกพวกตีกันทันที ปั่นง่ายชักจูงง่ายสุด ๆ ความจริงข้อนี้ก็มีให้เห็นอยู่ทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องมองไกลถึงยุโรป
WIKIPEDIA PD
ในปัจจุบันนักวิชาการทางรัฐศาสตร์ก็ยังถกเถียงกันไปเรื่อย ๆ
ว่าสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนั้นเป็นสงครามที่เกิดจากความบังเอิญแบบตกกระไดพลอยโจน หรือ เกิดจากความตั้งใจของบางประเทศที่จะทำให้เกิดสงคราม
บางทฤษฎีบอกว่า 4 ข้อที่กล่าวมาเป็นเหตุให้เกิดสงครามแม้จะไม่มีใครอยากให้เกิด แต่นักวิชาการบางสายก็ปฎิเสธความคิดนี้โดยสิ้นเชิง
กล่าวคือความบังเอิญไม่มีจริงในการทำสงคราม นักวิชาการสายนี้บอกว่า เยอรมันซึ่งเป็นมหาอำนาจต้องการทำสงครามกับรัสเซียในปี 1914 เพราะเป็นเวลาที่แสนยานุภาพของเยอรมันกำลังพีค และมีแต่จะลดลง ผิดกับรัสเซียซึ่งกำลังปฎิรูปกองทัพและปฎิวัติอุตสาหกรรมในประเทศตัวเองและหากทำได้สำเร็จ รัสเซียก็จะกลายเป็นมหาอำนาจใหม่ของยุโรป และเขี่ยเยอรมันตกกระป๋องไป
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
(คลิป) สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นได้อย่างไร?
WIKIPEDIA PD
โฆษณา