ถึงแม้ว่าบริษัทอย่าง MINT จะมีการกระจายพอร์ตไปยังฝั่งยุโรปเป็นหลัก แต่ก็โชคร้ายเหลือเกินที่โควิดมันไม่เลือกพื้นที่ ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงมาอย่างหนักในช่วงวิกฤติรอบนี้
โดยสัดส่วนรายได้จาก “ต่างประเทศ” จะถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงหลักของ MINT ในสัดส่วนที่ 73% ส่วนที่เหลืออีก 27% ก็คือรายได้จากภายในประเทศไทยเราครับ ซึ่งถ้าหากเทียบกันดูแล้วธุรกิจโรงแรมที่เป็นธุรกิจหลักก็จะมีกำไรดีกว่าธุรกิจอื่นๆ
ซึ่งถ้าหากเจาะกันลงไปให้ลึกอีกนิดก็จะพบว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมของ MINT จะมีฐานหลักอยู่ในทวีปยุโรปเป็นหลักในสัดส่วน 62% รองลงมาจะเป็นโรงแรมในไทยที่ 14% ส่วนที่เหลือจะกระจายๆกันอยู่ตามพื้นที่ที่เหลือ
และถ้าเป็นฝั่งของธุรกิจอาหารของ MINT ที่ส่วนใหญ่จะมีรายได้มาจากในประเทศนั้น The Pizza Company ก็จะถือว่าเป็นเชนที่สร้างรายได้สูงที่สุดสำหรับธุรกิจอาหาร รองลงมาเป็น Swensens และ Dairy Queen ตามลำดับ โดยตลาดหลักๆรองจากไทยก็จะเป็นในโซนของออสเตรเลียและจีนที่มีความน่าสนใจ
เช่นเดียวกันกับธุรกิจในกลุ่มร้านอาหารที่มียอดขายหดตัวลงมากว่า 36.8% และยอดขายต่อสาขาเดิม(SSSG) ที่หดตัวลง 7.2% แต่ทาง SSSG ของเชน The Pizza Company กลับมีการเติบโตขึ้นมาที่ 24.7% จากโปรโมชั่นต่างๆที่ MINT ได้ปล่อยออกไปในช่วงโควิด
ไม่ว่าฉากหน้าของ MINT จะดูย่ำแย่ไปตามวิกฤติบ้างก็ตาม แต่หากเราไปดูในส่วนของค่าใช้จ่ายแล้วก็จะพบว่าในไตรมาส 2 ทางบริษัทนั้นสามารถลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ถึง 50% หากเทียบกับปีก่อน และในส่วนของยอดขายของร้านอาหารที่เริ่มดีขึ้นจากมาตรการคลายล็อคต่างๆที่ทำให้สามารถเปิดขายได้
นอกจากนี้ MINT ก็ยังจะถือว่ามีเงินสดอยู่ในมือมากถึง 3.6 หมื่นล้านบาทและเพดานของสินเชื่ออยู่อีกที่ 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะถือว่าเพียงพอต่อการหมุนเวียนในธุรกิจสำหรับในอนาคตและอดทนกับ Covid-19 ได้ต่อไป
และสำหรับ Key point หรือประเด็นหลักๆในการฟื้นตัวที่ “อาจจะ” เร่งให้ไวกว่าคาดก็น่าจะต้องไปลุ้นกันกับความคืบหน้าของวัคซีนต่อเพราะว่ายิ่งถ้ามีวัคซีนออกมาไวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เนื่องจากกิจการต่างๆจะได้กลับมาดำเนินได้ตามปกติและเหล่านักท่องเที่ยวจะได้คลายความกังวลกันอีกครั้ง
ถึงจะดูแย่แต่ก็น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของ MINT กับวิกฤติครั้งนี้ไปแล้ว และสัญญาณของกิจการต่างๆในยุโรปก็จะเริ่มเห็นได้แล้วว่าคนที่นั่นเริ่มกลับมานิยมท่องเที่ยวภายในประเทศกันมากขึ้นแล้ว
แต่ยังไงก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อไปว่า Covid-19 นั้นผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดจริงๆไปหรือยัง และกำไรของ MINT จะกลับมาได้ไหมหากว่ากิจการสามารถกลับมาเปิดได้เป็นปกติ ?