21 ส.ค. 2020 เวลา 04:48
วิธีเอาตัวรอดเมื่อสายไฟพาดรถ
ยาวหน่อย แต่อ่านจบ โอกาสรอดสูงขึ้นแน่นอน
เกิดวันนึง มีสายไฟมาพาดรถเรา เราจะเอาตัวรอดอย่างไร
วันก่อน มีเหตุเกิดที่ภูเก็ต ชายขับรถบรรทุกชนโครงเหล็ก ขับในเมืองภูเก็ต โครงเหล็กเกิดไปเกี่ยวสายไฟขึ้น ชายคนนั้นก้าวลงจากรถ ทันทีที่เหยียบถึงพื้น ก็เกิดไฟ spark ขึ้นท่วมตัว ล้มทั้งยืน โชคดีไฟลุกไม่นานก็ดับลง แต่ชายคนนี้ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
เพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน กระโดดลงจากรถ...กลับไม่เป็นอะไรเลย
เป็นเพราะอะไร?!?!
ความแตกต่าง ของชาย 2 คนคือ
1. คนแรก เท้าข้างหนึ่งแตะพื้น ขณะที่อีกส่วนหนึ่งของร่างกายยังสัมผัสกับรถอยู่ (เช่น มือจับรถอยู่ เท้าแตะพื้นแล้ว อันนี้จะเป็น touch voltage กระแสไฟ จะวิ่งจากมือที่จับรถลงที่เท้าที่แตะพื้นทันที รองเท้าก็ไม่สามารถกั้นได้ เพราะกระแสไฟแรงสูง
2. คนที่สอง กระโดดออกมาทันที โดยร่างกายหลุดออกจากตัวรถทั้งหมด ก่อนเท้าถึงพื้น ดังนั้น ไม่มีส่วนใดเป็น touch voltage
เพื่อนอีกคน ที่โดดออกมา ไม่เป็นอะไร
ดังนั้นหลักการเอาตัวรอดแบ่งตามสถานการณ์ ดังนี้
1. รถยังขับได้มั้ย ถ้าขับได้ให้ขับต่อได้เพื่อเอารถออกจากสายไฟ เหตุผลเพราะตราบุใดที่เราอยู่ในรถ ไฟจะไม่ดูดเรา
(กระแสไฟฟ้าจะไม่วิ่งเข้าสู่ตัวเราเนื่องจากตัวรถเป็นโลหะนำไฟฟ้าทั้งหมด เรียกว่า Faraday Cage)
2. เราขับรถต่อไม่ได้ เช่น ชนแรงๆ
อย่าลงจากรถเด็ดขาด!!
ให้โทรขอความช่วยเหลือเช่น 1130 การไฟฟ้านครหลวง หรือ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่
3. อยู่ในรถไม่ได้ เช่น รถไฟไหม้ หรือเรียกแล้ว ไม่มีใครมาช่วยเรา ตั้งสติดีๆ เพราะตอนนี้สำคัญมาก
ถ้าพยายามเปิดประตูลงมา อาจต้องพยายามลงจากรถ โดยไม่เอามือแตะรถ เช่นกระโดดหนีออกมา โดยท่าที่กระโดด ต้องกระโดดเท้าคู่ อย่าให้เท้าทั้ง 2 แยกจากกัน
กระโดดให้ไกลสุดที่ทำได้
แขน 2 ข้าง ต้องชิดติดตัว เก็บระยางค์ให้เรียบร้อย
เพราะถ้าเท้าแยกจากกัน กระแสไฟสามารถวิ่งจากเท้าข้างนึง ไปสู่ เท้าอีกข้างนึงได้ เพราะความต่างศักย์ของ 2 เท้า ต่างกันมาก (Step Voltage)
ัหลังจากนั้น ก็กระดึ้บออกมาไกลๆรถ
โดยใช้ได้ 2 ท่า ตามพละกำลังเดิม
-กระโดดเท้าคู่ มาเรื่อยๆ
-เดินซอยเท้าถี่ๆ โดยเท้าทั้ง 2 ข้างต้องไม่แยกจากกันและต้องสัมผัสพื้นเสมอ
ไปไกลแค่ไหน ถึงจะปลอดภัย
คำตอบคือ ประมาณ 10 ม.
ให้คิดไว้เสมอว่า ที่พื้นยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ได้ ดังนั้น ถ้าแยกเท้าไกลกัน อาจจะเกิด step voltage ได้อยู่
4. ไม่ได้อยู่ในรถ แต่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์
ให้ตามเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาช่วย
ช่วยบอกคนในรถด้วย ว่ายังไม่ต้องออกมา
อยู่ให้ไกล ประมาณ 10 ม.จากรถ หรือแหล่งกำเนิดไฟ
โดยอันตรายจากเหตุการณ์นี้ จะขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่วิ่งผ่านร่างกาย (แปรตามความต่างศักย์) และตำแหน่งที่ไฟวิ่งเข้าและออก แต่ถ้าปริมาณกระแสไฟสูงมากผ่านตรงไหนก็อันตรายสูงมากพอๆกัน อาจทำให้เสียชีวิตฉับพลันได้ถ้าเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงได้
ดูคลิปเต็มของเหตุการณ์นี้ได้ที่ https://www.facebook.com/watch/?v=2563480480629337&extid=6uUezgFngsttQ2Pu
โฆษณา