25 ส.ค. 2020 เวลา 13:10 • ปรัชญา
สังคมที่มี "หนี้บุญคุณ" ทำให้คน "คิดนอกกรอบ" น้อยกว่าสังคมที่ไม่มี
In Short: สังคมไทยมี “หนี้บุญคุณ” เพราะมีวัฒนธรรมคติรวมหมู่ โดยภายใต้วัฒนธรรมนี้ ผู้คนมักทำตามกรอบสังคมมากกว่า ส่งผลให้มีการคิดนอกกรอบน้อยลงไปด้วย ว่ากันว่าอากาศเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดวัฒนธรรม
ตอนที่ ๑: ทำไมสังคมไทยมี "หนี้บุญคุณ" แต่สังคมฝรั่งถึงไม่ค่อยมี
หลังจากที่เราเล่าเรื่องความต่างทางวัฒนธรรม ที่ส่งผลให้ประเทศไทย (รวมถึงประเทศในแถบเอเชียเกือบทั้งหมด) มีวัฒนธรรม “หนี้บุญคุณ” แต่ประเทศในแถบอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลียกลับไม่ค่อยมี ไปแล้วนั้น
วันนี้ The Columnist จะมาเล่ากันต่อ ว่าอะไรคือต้นเหตุที่แท้จริง ที่ทำให้บางประเทศมีวัฒนธรรมคติรวมหมู่ (และมีเรื่องหนี้บุญคุณ) แต่บางประเทศกลับมีวัฒนธรรมปัจเจกนิยม (และไม่ค่อยมีเรื่องหนี้บุญคุณ) ครับ
อากาศคือต้นตอวัฒนธรรม
สมมติฐานสำคัญ มาจากการสังเกตว่าประเทศที่มีอากาศอบอุ่น หรืออยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรนั้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชีย อเมริกาใต้ และแอฟริกา มีวัฒนธรรมค่อนไปทางคติรวมหมู่ซะมากกว่า
ในขณะที่ประเทศที่มีอากาศเย็น เช่น อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะค่อนไปทางปัจเจกนิยม
การสังเกตนี้นำไปสู่ข้อสันนิษฐานที่ว่า “อากาศ” น่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความต่างทางวัฒนธรรม
โดยมีการอธิบายว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ย่อมมีการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่แล้ว แต่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น มนุษย์อาจจะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมน้อยกว่า
เพราะอากาศมันหนาวมากๆ และหนาวเกือบตลอด จะให้ออกไปเจอกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ไม่ง่ายหรือทำได้บ่อยๆ เท่ากับพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นครับ
ส่งผลให้มนุษย์ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น มีระดับความเป็นปัจเจกนิยมสูงกว่า และจากนั้นวัฒนธรรมปัจเจกนิยมก็ได้รับการส่งต่อกันไปเรื่อยๆ
สังคมหนี้บุญคุณมักคิดนอกกรอบน้อยกว่า?
ทีนี้ เรื่องอากาศ วัฒนธรรม และหนี้บุญคุณ มันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องการคิดนอกกรอบล่ะครับ?
เรื่องนี้มาจากการสังเกตเห็นว่า ฝรั่งมักจะประดิษฐ์คิดค้นอะไรใหม่ๆ ในระดับยูเรก้าได้มากกว่า
จึงนำไปสู่สมมติฐานทางวัฒนธรรมที่ว่า ฝรั่งมีวัฒนธรรมปัจเจกนิยม > มีความเป็นปัจเจกสูง > จึงมีโอกาสคิดอะไรนอกกรอบได้มากกว่า (เพราะไม่ได้สนใจสังคมมากนัก)
ในขณะที่ คนไทย (ยกตัวอย่าง) > มีวัฒนธรรมคติรวมหมู่ > จะทำอะไรก็ต้องคิดถึงสังคมก่อน > จึงไม่ค่อยกล้าคิดนอกกรอบ หรือแหกกฎเท่าไรนัก (เพราะต้องทำตามกรอบสังคมก่อน)
ทั้งนี้ มุมมองดังกล่าว เป็นการมองในภาพรวมในเชิงวัฒนธรรมเท่านั้นนะครับ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นเช่นนั้นทั้งหมด
โพสต์หน้า (โพสต์สุดท้าย) เราจะมาพูดต่อกันว่าทำไมเด็กยุคใหม่ถึงไม่ค่อยอินกับเรื่องหนี้บุญคุณ ทั้งๆ ที่เด็กบางคนก็อยู่ในวัฒนธรรมคติรวมหมู่แท้ๆ แล้ววัฒนธรรมในอนาคตจะมีทิศทางเป็นอย่างไร
The Columnist - ทุกการกดติดตาม คือกำลังใจดีๆ ในการแบ่งปันเรื่องราวของเรา
สำหรับผู้อ่านที่ใช้ Facebook สามารถติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/TheCOLUMNISTth
โฆษณา