29 ส.ค. 2020 เวลา 11:01 • สุขภาพ
ประสบการณ์ ของการส่องกล้องตัดนิ่วในถุงน้ำดี
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบว่าก่อนเลยว่าตัวเองเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
จนมาวันนึง ไปหาหมอ ที่ รพ.เอกชนแห่งนึง ก็เลยบอกบอกขออัลตร้าซาวช่องท้องให้หน่อย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอาการอะไร แต่ก็อยากตรวจไปงั้น ๆ
เมื่อทำการอัลตร้าซาวเสร็จ คุณหมอก็วินิจฉัยว่า พบนิ่วในถุงน้ำดีขนาด 1.5 ซม. จำนวน 3 คน ซึ่งหมอก็ว่ารวมๆกันมันก็จะเต็มถุงน้ำดีแล้วนะ แต่ไม่ซีเรียส ว่างเมื่อไหร่ก็มานัดผ่า หรือ เจ็บเมื่อไหร่ก็มาผ่าออกได้เลย ใช้วิธีส่องกล่อง 3-4 รูที่ช่องท้องเท่านั้นเอง
จากนั้นกลับมาบ้านก็เริ่มศึกษาเรื่องนิ่วในถุงน้ำดี และ การผ่าตัดถุงน้ำดีทิ้งแบบส่องกล้อง ซึ่งดูเหมือนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แต่ที่น่ากลัวก็คือ ค่าผ่าตัดนี่สิครับ ตรวจสอบแต่ละที่ จะมีค่าผ่าตัดอยู่ที่ 120,000 - 150,000 บาท ได้ฟังดังนี้แล้วจะเป็นลม
2
แผนต่อไปจึงไปติดต่อที่ รพ.ประกันสังคมที่เราใช้อยู่ ปรากฏว่า "ฟรี" ฟังไม่ผิดครับ ฟรีจริง ๆ มันสุดยอดมาก จึงทำการปรึกษาคุณหมอขอนัดวันเข้าผ่าตัด โดยไม่ต้องรอให้มันปวดหรืออักเสบซะก่อน เราต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม
facebook.com
หลังจากได้วันผ่ามาเรียบร้อย ก็ไปทำเรื่องของห้องพักเดี่ยวพิเศษ ซึ่งตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษ ที่จะต้องจ่ายเอง แต่ ประกันสังคมออกให้คืนละ 400 บาท บวกกับประกันส่วนตัวเราอีก ก็เท่ากับเราไม่ต้องเสียค่าห้องพิเศษเลย
1
จึงได้ทำการจองห้องพักล่วงหน้า 3 อาทิตย์ โดยเขาจะให้โทรมาคอนเฟิร์มห้องล่วงหน้า 1 วัน
และแล้ว วันนั้นก็มาถึงรีบโทรยืนยันห้องเดี่ยวทันที ผลปรากฏว่าเต็ม ไม่สามารถจองห้องที่ต้องการได้ จึงต้องยอมรับสภาพไปครับ เตียงพัดลมรวม
👉เช้าวันอังคาร งดน้ำ งดอาหารไป ตรวจเลือด และ ไปที่ห้องรวมพัดลม โชคดี ที่ยังได้เตียงริมหน้าต่าง ชั้น 8 ลมโกรกดีมาก บวกกับอากาศไม่ค่อยร้อนด้วยในวันนั้น
ในขณะญาติ ๆ ก็เร่งกันขอห้องพิเศษ ว่าจะได้วันไหนกันแน่ จนมั่นใจว่าไม่ได้ห้องแน่ ๆ ญาติ ๆ จึงกลับบ้านหมด จากนั้น ครึ่งชั่วโมง ทางพยาบาลมาบอกว่า ได้ย้ายไปเตียงผู้ป่วยห้องแอร์ ก็ทำการย้ายไป นอนไปได้อีก 1 ชม. พยาบาลบอกว่าห้องเดี่ยวได้แล้ว เย้...ดีใจสุด ๆ แต่เงื่อนไขของห้องเดี่ยวก็คือ จะต้องมีญาติมาเฝ้าตลอด 24 ชม.
จากนั้นจึงทำการโทรหาคนมานอนเฝ้าด้วยเลยทันที พร้อมกับให้ซื้อข้าวอร่อย ๆ มารับประทาน (ข้าวที่ทาง รพ.เตรียมให้ กินไม่เป็นเลย)
สรุปวันแรกก็ไม่มีอะไร มานอนเตรียมขึ้นเขียงผ่าเฉย ๆ
👉วันพุธ พยาบาลมาปลุกตั้งแต่ 6.30 น. บอกว่สเตรียมเจ้าห้องผ่าตอน 8.30 น. รีบอาบน้ำเตรียมความพร้อม (บังคับว่าต้องอาบให้สะอาดที่สุด เพราะเป็นห้องผ่าตัด)
เริ่มผ่าตอนประมาณ 9.30 น. มีพยาบาลมาอธิบายถึงขั้นตอน การวางยาสลบ สอดท่อหายใจทางปาก ผ่าเสร็จแล้วจะปลุก
เมื่อเข้าห้องผ่า สูดยาสลบ เสร็จก็ไม่รู้เรื่องอีกเลย จนพยาบาลมาปลุกอีกทีประมาณ 11.30 น. แล้วทำการเข็ญเข้าห้องพักเดี่ยวทันที ทั้ง ๆ ที่ยังเบลอ ๆ อยู่เลย
มีคนมาเยี่ยมเยียนพร้อมของฝาก คนรับก็ยังมึน ๆ แหะๆ
ขอบคุณ เพื่อน พี่ ที่รักทุกคน สำหรับ ของบำรุงร่างกาย
จะมีหมอ พยาบาลมาคอยถามไถ้อาการเป็นระยะ ๆ ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่มีไข้ ความดันปกติ รับประทานทุกอย่างได้ตามปดติ แต่แผลที่ทำการสอดกล้องยังเจ็บปวดอยู่ ไม่สามารถเดินตัวตรง ๆ ได้เหมือนคนปกติ
👉วันพุธ 7.00 โมง พยาบาลเดินเข้ามาบอกว่าคุณให้กลับบ้านได้วันนี้เลย ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็กลับมาใหม่ ถ้าปกติก็มาเจอกันอีกทีวันจันทร์หน้าเลย มาดูแผลว่าเป็นยังไง (เย็บด้วยไหมละลาย) พร้อมกับมอบ นิ่วทั้ง 3 ก้อนมาเป็นที่ระลึก (เหมือน pop corn มาก)
สรุป ระยะเวลาในการผ่าตัดส่องกล้องตัดนิ่วในถุงน้ำดี รวมแล้วเป็นเวลา 3 คืน 4 วัน (รวมนอนเตรียมตัว 1 วัน)
ค่าใช้จ่ายห้องพักเดี่ยวอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท ประกัน 2 ใบรวม ๆ แล้ว น่าจะครอบคลุมทั้งหมด
ใครที่ยังไม่เคยผ่าไม่ต้องกลัวเลยครับ เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้นมาก็เสร็จแล้ว ส่วนใครที่มีนิ่วในถุงน้ำดี ก็แนะนำให้ผ่าตัดออกไปเถอะ อย่ารอให้ปวดท้อง หรือ อักเสบเลย มันจะทรมารนะครับ
ขอจบการรีวิวการเข้าผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตของ H เอง✌✌
โฆษณา