4 ก.ย. 2020 เวลา 15:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🌵🌵ออมเงินไว้กับต้นไม้🌸🌸
ผู้เขียนเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน เห่อเพาะเมล็ดแคคตัส ก็เพาะไว้มากมาย ปัจจุบันแคคตัสที่เพาะไว้เติบใหญ่ ต้องย้ายลงกระถางใหญ่ พอไม่มีที่วางกระถาง ก็เอาไปขายบ้าง โชคดีที่ตอนนี้แคคตัสที่มี ราคาดีมาก จากที่ซื้อเมล็ดเมล็ดละ 10 บาท 2 ปีผ่านไป ขายได้ต้นละ 300-500 บาท ถือเป็นการลงทุนที่ผลตอบแทนดีมากเลยค่ะ
คิดเล่นๆ
ซื้อเมล็ดมา 100 เมล็ด เมล็ดละ 10 บาท ลงทุน 1000 บาท
เพาะงอก เลี้ยงจนเติบใหญ่ เหลือรอด 25% =25 ต้น
ขายได้ต้นละ 300 บาท
เราจะได้เงิน 7500 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 650% ภายใน 2 ปี!!!
ไม่เลวๆๆๆๆ เทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่ต่ำต้อยแล้ว คนละเรื่องเลย
คราวนี้เลยซื้อเมล็ดมาลงทุนใหญ่เลยค่ะ
อันนี้เป็นตัวอย่างการลงทุนง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิดไปไกล ลงทุนไม่เยอะ และทุกครั้งที่ผู้เขียนได้เงินมา ก็จะนำเงิน 30% กลับไปลงทุนใหม่ (reinvestment) เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เป็นการออมเงินไว้กับต้นไม้ และเวลาที่ผ่านไปก็ทำให้เงินออมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ Time is money. จริงๆเลยค่ะ
กลับมาเรื่องการลงทุน โลกของการลงทุนแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ
✔️การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตัวตน (Real asset) เช่น บ้าน ที่ดิน ทองคำ หรือแคคตัสที่ผู้เขียนลงทุน เป็นต้น
✔️การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน (Financial asset) เช่น การลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ ตราสารทางการเงินต่างๆ ซึ่งการลงทุนประเภทนี้ มีทั้งความเสี่ยงน้อย ปานกลาง สูง ให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนตามจริตของแต่ละบุคคลค่ะ
ถามว่า ควรจะลงทุนแบบไหนดี??
ก็ต้องกลับไปที่เวลา และความชอบ ตามที่ได้พูดไปในตอนก่อนหน้า
เลือกลงทุนให้เหมาะกับตนเองค่ะ
เพิ่มเติมอีกหน่อย คือ เลือกให้เหมาะกับเงินที่มี ความเสี่ยงที่รับได้ และเวลาที่มี
สุดท้ายอย่าลืมประเมินกรณีที่เลวร้ายที่สุด (worst case scenario) ไว้ด้วยนะคะ ว่ารับได้แค่ไหน. ถ้าประเมินแล้วยังรับได้ ก็ลงทุนโลดเลยค่ะ
หมายเหตุ : Worst case scenario เป็นสิ่งที่ผู้เขียนใช้ประเมินเสมอๆ เมื่อต้องทำอะไรที่มีความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ถ้าจะซื้อหุ้นราคา 3 บาท 10000 หุ้น รวมมูลค่า 30000 บาท ก็จะคิดว่า เลวร้ายสุดหุ้นก็ลงแค่ Book Value per share สมมติเท่ากับ 1.50 บาท ในกรณีนี้แย่สุด ก็คาดว่าจะขาดทุน 15000 บาท เทียบกับโอกาสในการทำกำไรที่สูงกว่าแล้ว เรารับความเสี่ยงนี้ได้และคิดว่าคุ้มค่า ก็ลงทุนโลดค่ะ
🎁คำศัพท์การเงิน🎁
Book Value คือ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ พูดง่ายๆ คือ สินทรัพย์รวมหักด้วยหนี้สินของบริษัทหนึ่งๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับเมื่อบริษัทนั้นๆ ปิดกิจการลง โดยทั่วไปแล้ว โอกาสที่ราคาหุ้นจะต่ำกว่า Book value per share นั้นมีน้อยมาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา