12 ก.ย. 2020 เวลา 05:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🦠เศรษฐกิจซวนเซ จะเล่นหุ้นอะไรดี?📊📉
GDP ไทยครึ่งแรกของปีนี้ (2663) ลดลงไปถึง 6.9% % ทำเอาหลายคนหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่ม โดยสภาพัฒน์ฯ คาดหมายว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะติดลบประมาณ 5-6% !!!
บ่งบอกว่า เรากำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้แน่ๆ
ประเทศไทยเจอเศรษฐกิจถดถอยหนักๆ ล่าสุดในปี 2540-2541
ปี 2540 GDP ติดลบไปเกือบ 3%
ในขณะที่ปี 2541 ยังเซติดลบไปอีก 7% กว่าๆ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
ที่มา : World Bank
เศรษฐกิจตกๆ แบบนี้จะลงทุนอะไรดี?? หรือจะกอดเงินไว้เฉยๆ ดีกว่ามั๊ย? เป็นคำถามที่ชวนคิด วันนี้จึงขอยกแนวคิดการลงทุนกับวงจรเศรษฐกิจมาคุยค่ะ
What goes up must come down.
เศรษฐกิจก็เช่นกัน ทั่วไปเราแบ่งวงจรเศรษฐกิจเป็น 4 ช่วง คือ
ถดถอย
ฟื้นตัว
รุ่งเรือง
ตกต่ำ
โดยปกติ 1 cycle ของเศรษฐกิจจะกินเวลาประมาณ 10-15 ปี
✔️ช่วงเศรษฐกิจถดถอย GDP ถดถอย ช่วงนี้การผลิตจะลดลงอย่างรวดเร็ว จึงเหมาะกับการลงทุนในพันธบัตร เพื่อลดความเสี่ยง แต่ถ้าจะเลือกลงทุนในหุ้น หุ้นกลุ่มปัจจัยพื้นฐาน ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น อาหาร พลังงาน ยา จะเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ การถดถอยทางเศรษฐกิจในรอบนี้ มีลักษณะที่ต่างไปจากรอบก่อนๆบ้าง เพราะเกิดจากโรคระบาด ทำให้เกิดวิถีชีวิตแบบใหม่ ผู้คนออกนอกบ้านไม่ได้ ต้องซื้อของ ดูหนัง เล่นเกมส์ออนไลน์ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ Logistic ได้รับประโยชน์ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ในบ้านเราไม่ค่อยมีหุ้นประเภทนี้ ทำให้เห็นภาพนี้ไม่ชัดเจนนัก
✔️ช่วงเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ช่วงนี้อัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ รัฐบาลพยายามอัดฉีดเงินเข้าสู่ในระบบ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มฟื้นตัว ช่วงนี้มักจะเหมาะกับการลงทุนในหุ้นที่สุด โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ จะเป็นหุ้นกลุ่มสินค้าที่มีราคาแพง และการเงิน (ซื้อของแพง ก็ต้องกู้เนอะ) เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ สายการบิน ธนาคาร หลักทรัพย์ ฯลฯ เนื่องจากผู้คนเริ่มมั่นใจเศรษฐกิจ และมีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น
✔️ช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรืองถึงจุดสูงสุด ช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยต่ำ อัตราเงินเฟ้อสูง คนมีเงินในกระเป๋าเยอะ แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงติดลบ เงินบางส่วนเริ่มไหลไปลงทุนในที่ดิน คอนโดมิเนียม หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ปิโตรเคมี เหล็ก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์
✔️ช่วงเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ช่วงนี้ราคาหุ้นจะเริ่มลดลง ช่วงนี้การลงทุนควรเน้นการกระจายความเสี่ยง เช่น ลงทุนทั้งหุ้น และพันธบัตร เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ เป็นแนวคิด ที่นักลงทุนสามารถนำไปปรับใช้ในการลงทุนได้
แต่ทั้งนี้ หากเป็นการลงทุนในหุ้นจำเป็นต้องพิจารณาหุ้นรายตัว และราคาที่จะลงทุนประกอบด้วย
และต้องอย่าลืมว่า ธรรมชาติของการลงทุนนั้น
‘ราคาสินทรัพย์ โดยเฉพาะหุ้น จะตอบสนองต่อเหตุการณ์จริงล่วงหน้าเสมอ’ และจะขายทำกำไร เมื่อเหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้นจริงๆ ทำให้เราได้ยินคำว่า Sell on fact อยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้น การลงทุนจึงจำเป็นต้องมองไปข้างหน้า มากกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพราะอาจจะช้าเกินไปในการลงทุน
ใจจริงผู้เขียนอยากยกตัวอย่างหุ้นมาประกอบให้เห็นภาพชัดขึ้นนะคะ แต่เนื่องจากไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักวิเคราะห์แล้ว จึงหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงดีกว่า เดี๋ยวอ่านแล้วเข้าใจผิดในสาระสำคัญ จะยุ่งค่ะ
❤️❤️ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝาก กดติดตาม กดไลค์ กด share เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ บางทีด้วยอาชีพการงาน ก็ทำให้หมดแรงเลยล่ะค่ะ กำลังใจก็กระตุ้นความขยันเขียนได้ดีพอควรเลยล่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ❤️❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา