6 ก.ย. 2020 เวลา 17:21 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
มู่หลานนับเป็นการ์ตูน Disney ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
จนได้นำกลับมาสร้างใหม่ (Remake) สู่ฉบับคนแสดง
แต่กลับมีเรื่องท้าทายมู่หลานฉบับนี้มากมาย
ทั้งกระแสต่อต้านหลัง หลิว อี้ เฟย หรือนักแสดงนำบทมู่หลาน
นางเอกสาวที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายคน
เนื่องจากเธอได้แสดงความเห็นทางการเมืองที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมชน
รวมถึงกระแสต่อต้านต่อการตีความของผู้กำกับฉบับนี้
เนื่องจากเพลงประกอบมู่หลานฉบับการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ทั้ง Reflection หรือเพลงติดหูปลุกใจอย่าง I'll Make a Man Out of You
กลับไม่ได้นำมาเป็นเพลงประกอบในฉบับภาพยนตร์เลย
อีกทั้ง ตัวละครที่เป็นที่รักอย่าง จิ้งหรีดนำโชค และมังกรตัวจิ๋วมูซู
ก็ไม่ได้โผล่ในจอภาพยนต์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ปรากฎการณ์ดังกล่าวคงต้องติดตามกันต่อ
ตอนนี้ผู้เขียนขอชวนทุกท่านมาดูประเด็นที่น่าสนใจของมู่หลานฉบับการ์ตูน
ที่เป็นการ์ตูนในดวงใจสำหรับผู้เขียนตลอดกาล
มี 3 ประเด็น ดังนี้
1
มู่หลานนับเป็นการ์ตูนเจ้าหญิง Disney คนแรกที่มาจากทวีปเอเชีย
รวมถึงไม่มีเชื้อสายมาจากราชวงศ์
เธอเป็นสามัญชนธรรมดา ที่มีความแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในยุคนั้น
สำหรับผู้เขียน การเป็นผู้หญิงในเอเชียนั้นวางตัวยากมาก
ดังในบทกลอนสุภาษิตสอนหญิงที่มู่หลานต้องท่องจำก่อนจะไปพบแม่สื่อ (Matchmaker) แปลเป็นไทยว่า
“สงบเสงี่ยม เจียมตัว วางสง่า มาดผู้ดี ดูอ่อนหวาน และตรงเวลา”
และเมื่อถึงเวลาก็ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่แม่สื่อเลือกให้ หรือพ่อแม่เห็นสมควร
มีหน้าที่เลี้ยงลูก ไม่สามารถเป็นอื่นได้
แต่มู่หลานนั้นแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
เธอมีความสามารถในกระบวนท่าต่อสู้ต่าง ๆ ชอบขี่ม้า อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนหวาน
ดังนั้น จึงไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับแม่สื่อ
แต่โชคดีสำหรับเธอที่มีครอบครัวที่เข้าใจ ซึ่งให้คำสอนแก่เธอว่า
“ดอกไม้ย่อมมีเวลาเบ่งบานแตกต่างกัน
แต่หากเมื่อใดที่ถึงเวลาของมันแล้ว
ดอกไม้ดอกนั้นก็จะงดงามกว่าดอกใด ๆ”
ซึ่งดอกไม้ที่ครอบครัวของเธอเปรียบเทียบนั้น ก็คือมู่หลานนั้นเอง
และอีกฉากที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับค่านิยมผู้หญิงคือ
ฉากที่เธอขอร้องให้อำมาตยกเว้นให้พ่อของเธอไม่ต้องเข้าร่วมกองทัพ
เนื่องจากครอบครัวของเธอมีเพียงผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย และยังคงบาดเจ็บจากการรบครั้งก่อน หากครั้งนี้พ่อของเธอต้องเข้าร่วมสงคราม คงไม่มีชีวิตรอดกลับมาแน่
แต่อำมาตกลับต่อว่าอย่างรุนแรงด้วยประโยคที่ว่า
“ผู้หญิงควรมียางอายต่อหน้าบุรุษ”
คราวนี้พ่อของเธออับอายเป็นอย่างมาก
สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ว่าผู้หญิงไม่ควรมีปากเสียงหรือแม้แต่ออกความเห็นใด ๆ มีชีวิตอยู่เพียงเพื่อทำตามคำสั่งพ่อแม่ และดูแลครอบครัว
2
การที่มู่หลานกล้าขโมยชุดเกราะของพ่อและปลอมตัวเป็นผู้ชายไปเข้าร่วมกองทัพแทน สร้างความกังวลใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่มู่หลานจะรอดกลับมาจากการรบครั้งนี้
หรือหากรอดมาได้ แต่ถ้าเธอถูกจับได้ว่าเป็นผู้หญิงที่แอบเข้าร่วมกองทัพ
ก็จะถูกประหารชีวิต ตามขนบในสมัยนั้น
นับว่าเป็นการแหกกฎ หรือขนบธรรมเนียมที่มีมายาวนาน
สุดท้ายแล้วผลลัพธ์กลับออกมาดีกว่าที่คิด
เธอกลายเป็นนักรบคนสำคัญที่ทำให้ชนะสงครามได้
และช่วยชีวิตฮ่องเต้ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจสำหรับประชาชนชาวจีนเอาไว้อีกด้วย
จนฮ่องเต้ต้องก้มหัวคำนับให้
ซึ่งปกติแล้ว
ฮ่องเต้ไม่ก้มหัวให้ใคร
ผู้เขียนน้ำตาคลอทุกรอบที่ดู
เรื่องราวแสดงให้เห็นว่า
การแหกกฎบางครั้งก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อีกทั้ง ยังนับเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เห็นคุณค่าของผู้หญิงในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
ที่มีเลือดเนื้อ จิตใจ สามารถแสดงออกและปกป้องคนที่เธอรักได้
นอกจากนี้ ยังมีประโยคที่ฮ่องเต้ได้กล่าวกับแม่ทัพชาง (พระเอก) ของเรื่องนี้ว่า
“ผู้หญิงเก่งอย่างนี้ หาไม่ได้ทุกราชวงศ์หรอกนะ”
ชวนคิดเล่น ๆ ว่าแท้จริงแล้ว
การหาผู้หญิงเก่งนั้นยาก
หรือผู้หญิงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถกันแน่
3
มู่หลานนั้นถือเป็นการ์ตูน Disney เรื่องแรกที่สะท้อนรสนิยมทางเพศแบบ Homosexual หรือผู้ที่ชื่นชอบเพศเดียวกันด้วย
แม้จะไม่ได้กล่าวออกมาตรง ๆ
แต่ก็มีการสื่อเป็นนัยยะ
เห็นได้จากการที่แม่ทัพชาง (พระเอก) มีความชื่นชอบและชื่นชม ผิง (มู่หลานที่แปลงตัว) ตอนที่อยู่ในกองทัพเป็นอย่างมาก
ในสังคมจีน การชอบเพศเดียวกันนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม
และยังคงไม่ได้รับการยอมรับจนถึงปัจจุบัน
สำหรับผู้เขียนแล้ว เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด
ซึ่งสังคมไทย ก็เรียกได้ว่าเปิดกว้างและยอมรับ
แม้ว่ายังมีบางแง่มุมที่อาจจะเหมารวมกันอยู่
เช่นการบอกว่าเพศที่ 3 นั้นมีความตลกและสร้างสรรค์
เรามองว่าเพศที่ 3 ก็คือมนุษย์คนหนึ่ง
ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องเป็นแบบภาพที่สังคมวาดไว้
เขาสร้างสรรค์เพราะความสามารถส่วนบุคคล ไม่ใช่สร้างสรรค์เพราะความเป็นเพศที่ 3
แม้ว่ามู่หลานฉบับการ์ตูนจะไม่ได้รับความนิยมในประเทศจีน
เนื่องจากเนื้อเรื่องฉบับ Disney นั้นมีความบิดเบือนไปจาก "ลำนำมู่หลาน" ต้นฉบับ
แต่ก็ได้รับความนิยมล้นหลามไปทั่วโลก
คงต้องคอยดูว่ามู่หลานฉบับคนแสดงนั้นจะได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด
ในมุมมองของผู้เขียนนั้น ผู้หญิงก็คือมนุษย์คนหนึ่ง
มีสิทธิมีเสียงที่จะแสดงความเห็น มีสิทธิได้รับการศึกษา
มีสิทธิทำงานได้ทุกอย่างที่พวกเธออยากทำ
มีสิทธิเลือกคู่ครองและเลือกได้ว่าอยากมีลูกหรือไม่อยากมีลูก
แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะเปิดกว้างมากขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อน
แต่การจำกัดโอกาส รวมถึงวัฒนธรรมบางอย่างก็ยังคงกดทับพวกเธออยู่
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะเปิดกว้าง เปิดใจให้กับพวกเธอบ้าง
เพราะสุดท้ายแล้วเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันไม่ใช่หรือ?
Tell Me More !
เพราะความอยากรู้มีไม่จำกัด
บันทึกไว้อ่านเองซะส่วนใหญ่ แบ่งปันกันได้ตามโอกาส
เรื่องราวการเงิน ธุรกิจ การลงทุน รอบตัว
— ทุกการกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม คำติชม ช่วยสร้างกำลังใจให้ผู้เขียน
ติดตามได้ที่
อ้างอิง
Mulan 1998, Disney studio

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา